Category ข่าวเศรษฐกิจไทย 2567 ล่าสุด

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวธุรกิจ วิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจ ล่าสุด

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้

คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือนม.ค.67 มีสัญญาณดีขึ้นจาก “ท่องเที่ยว-บริโภค-ส่งออก” ฝั่งการลงทุนภาคเอกชนชะลอลง จับตาสถานการณ์ภายนอก-ภายใน.. แผนเคลื่อนทัพธุรกิจอาหาร 5 ปี ของ “ซีอาร์จี” ลุยทุ่มงบก้อนโต 6,000 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านอาหารแบรนด์เดิม และเพิ่มแบรนด์ใหม่ มองโอกาส “ซื้อและควบรวมกิจการ” ตลอดจน.. กระทรวงพาณิชย์ เยือนมณฑทหูหนาน ร่วมงานแสดงสินค้าวัสดุก่อสร้าง ครั้งที่ 16 ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ชวนนักธุรกิจจีน ลงทุนเขต EEC พื่อส่งเสริมนโยบาย “ประเทศไทย.. วิทยุการบิน เผย three ประเทศหารือ เสนอ ICAO เปิดเส้นทางบินใหม่ผ่านน่านฟ้า ไทย ลาว จีน รับดีมานด์เที่ยวบินเพิ่ม 2 แสนเที่ยวบินต่อปี คาดเปิดใช้ปี 2569 ทั้งเร่งพัฒนาโค..

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้
ข่าวเศรษฐกิจวันนี้

“ภูมิธรรม” รับลูก “เศรษฐา” สั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลก ผนึก “ทีมไทยแลนด์” เร่งเจาะตลาดโลกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมติดตามอำนวยความสะดวกดึงยักษ์เทคโลก “ไมโครซอฟท์.. “ส.อ.ท.”ส่งสัญญาณ thirteen กลุ่มอุตสาหกรรมแนวโน้มหดตัวปี sixty seven ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นมีทั้งหมด 22 กลุ่ม ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะทรงตัวมีทั้ง.. รายงานข่าว (18 ม.ค. 2567) นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของอดิศรฟาร์ม 88 อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โ..

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้

IMF เผยมูลค่าจีดีพี “เวียดนาม” ปี 66 โตขึ้นเป็นที่ 5 ในอาเซียนเทียบเท่า “มาเลเซีย” แล้ว ขณะที่สำนักวิจัยในอังกฤษ CEBR ชี้อีก 14 ปี จะแซงหน้า “ประเทศไทย”.. ม.หอการค้าไทยหั่นจีดีพีไทยปี sixty seven ขยายตัว 2.6 % จากเดิม 3.2 % จากปริมาณการค้าโลกขยายตัวต่ำ การบริโภค การลงทุน ภาคเอกชนชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณต่ำ ชี้ “ท่องเ.. ฝ่ายปกครองอำเภอปากช่องสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกรวบตัวผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อม พร้อมของกลางจำนวนมาก ด้านนายอำเภอปากช่องเน้นย้ำน้ำกระท่อมส่งผลร้ายต่อสุขภาพและเป็นสิ่งผิด กม. เลขานุการรองประธานสภาฯพร้อมพ่อเมืองตาก-ภาคเอกชน ประชุมหาแนวทางพัฒนาพื้นที่แม่สอด พร้อมผลักดันโครงการ MR-MAP หรือมอเตอร์เวย์คู่ราง ในเส้นทางตาก – แม่สอด ให้เป็นร..

“สนั่น” ประธานหอการค้าไทย แนะรัฐทะลวงเศรษฐกิจโตฝืด เพิ่มขีดแข่งขันประเทศ เร่งเปิดตลาดใหม่ ขยาย FTA หนุนพลังงานสะอาด จูงใจต่างชาติขยายลงทุน พร้อมดึง tech คัมปะนี.. “เศรษฐา” เดินหน้าแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง 1 ล้านล้านบาท โรดโชว์ดึงซาอุดีอาระเบีย -จีน ร่วมลงทุน ดันไทยเป็นโลจิสติกส์ฮับระดับโลก เร่งสานต่อไฮสปีดเทรนไทย-จีน หนุน .. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากการลงพื้นที่ดูแลประชาชน มักจะได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนเรื่องการซื้อสิน.. หอการค้าไทยนำเสนอสมุดปกขาวสรุปผลการจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 41 ต่อนายกฯเศรษฐา เพื่อใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ ใช้นวัตก.. “สภาพัฒน์” คาดเศรษฐกิจปี 67 โต 3.2% ยังไม่ได้รวม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ในประมาณการ รอกฤษฎีกาให้ความเห็นทางกฎหมาย ชี้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในโหมดฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากโคว..

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเตรียมเข้าร่วมการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสร.. ภาครัฐ-เอกชน เดินหน้าผลักดันระนองเป็นประตูสู่ทางการค้า ขนส่ง ท่องเที่ยวในพื้นที่ทางตอนใต้เชื่อมโยงเมียนมา และกลุ่มBIMSTEC .. การส่งออก เป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญมีสัดส่วนต่อรายได้ประชาชาติ หรือ จีดีพี สูงถึง 70% หากเครื่องยนต์การส่งออกอ่อนแรงนั่นหมายถึงเศรษฐกิจไทยที่กำลังอ่อนแ.. นายกฯ “เศรษฐา” ยกคณะ เยือนสหรัฐฯ ร่วมประชุมเอเปค พฤศจิกายน 2566 นี้ จับตาถกเอกชนยักษ์ใหญ่ของโลกกว่า 10 บริษัท เล็งปิดดีล Tesla Google Microsoft ลงทุนไทย.. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดพบหารือผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ในห้วงระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจ..

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้

เอกชนหนุน “Easy E-Receipt” กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมธันวาคม sixty six อยู่ที่ระดับ 88.eight ปรับตัวลงจาก 90.9 ในเดือนพฤศจิกายน .. “เมอส์ก” คาดขนส่งในทะเลแดงชะงัก 2-3 เดือน หลังสหรัฐโจมตีฐานที่มั่นฮูตีในเยเมนระลอกใหม่ สรท.เผยยืดเยื้อเกินคาดการณ์ ดันค่าระวางพุ่ง โดยเฉพาะเส้นทางไทยไปยุโรปพุ่ง.. นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน (Senior Economic Offi.. เปิด 10 เทรนด์โอกาสลงทุนธุรกิจสุขภาพ-ไลฟ์สไตล์ 2024 หนุนผู้ประกอบการไทยเพิ่มทักษะใหม่ ภาวะผู้นำ สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ นำพาชีวิตและการงานไปสู่สมดุลในปี 2567.. ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเศรษฐกิจของเวียดนามกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด จนต่างประเทศเริ่มสนใจหันไปลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือ “เวียดนาม” อาจแซงหน้า “ไทย” ในไม่ช้า และ.. ชาวนาร้องระงม ข้าวราคาตก 3 นายกฯ สมาคมข้าวฯ เปิดสาเหตุ ข้าวนาปรังไทยทะลัก-ชนข้าวนาปีเวียดนาม ราคาตลาดโลกกอดคอร่วง “สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวฯ” ชูธงพันธุ์ข้าวไท..

นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยในเยอรมนีชี้ การเมืองเวียดนามกำลังปั่นป่วน เปลี่ยนประธานาธิบดี 2 คนในระยะเวลาไม่ถึงปี อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ.. สนข.ลุย แลนด์บริดจ์ ประเดิมพ.ย.นี้ โรดโชว์สายการเดินเรือขนาดใหญ่ 10 ประเทศ ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสร่วมลงทุน คาดเปิดประมูล PPP ได้ไม่เกินกลางปี 2568 ส่วน.. “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี” เผยมติครม.เห็นชอบ วีซ่าฟรี “อินเดีย-ไต้หวัน” เริ่ม 10 พย.66-10 พ.ค.sixty seven รวมเป็นเวลานาน 6 เดือนวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิ..

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผ่านแอปพลิเคชัน X ว่า วันนี้ (1 พ.ย.2566) ผู้บริหาร Microsoft นำโดย Ahmed Mazhari – Preside.. SCB ผนึก DeeMoney (ดีมันนี่) แพลตฟอร์มด้านธุรกรรมข้ามพรมแดนสัญชาติไทย ที่รองรับมากกว่า 26 สกุลเงิน ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลก หนุนระบบบริการโอนเงินระหว่างประ.. รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ เกี่ยวกับประเด็น การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา (overla.. โฆษกรัฐบาลชี้โครงการ “แลนด์บริดจ์” คือจุดยุทธศาสตร์การขนส่งทั่วโลก เปิดตลาดกลุ่ม BIMSTEC ประชากรกว่า 1.7 พันล้านคน ต่อยอดปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งไทยมีความพร้อม .. เปิดข้อมูล ครม.สัญจร ระนอง กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชงสารพัดโครงการพัฒนาพื้นที่ ทั้งท่าเรือ ถนน บริหารจัดการน้ำ รวมมูลค่ากว.. ส่องความคืบหน้า “นิคมอุตสาหกรรมแลนด์บริดจ์” กนอ.เร่งหาพื้นที่รับนักลงทุน เผยล่าสุดกำลังเร่งศึกษา และเริ่มร่างโครงการ คาดแล้วเสร็จภายใน 6-8 เดือน หรือภายในปีนี้น..

ภายหลังจากโครงการการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส-เปิงกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน มาเลเซีย ต้องชะลอไว้ก่อน เพราะมาเลเซียแจ้งว่ามีปัญหางบประมาณ.. “เจ้าสัวธนินท์” หนุนรัฐบาลเศรษฐา แจกเงินดิจิทัล 10,000 ชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันไม่เสียวินัยการเงิน หากเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ในระยะถัดไป ขณะค.. กว่าสองเดือนที่กลุ่มกบฏฮูตีต่อต้านเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างรุนแรงต่อการขนส่งทั่วโลก สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรตอบโต้ด้วยการโจมตีกลุ่มฮูตีหลาย.. ถกรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเข้ม “นภินทร”เผยมุ่งผลักดันสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน-ภูมิภาคดิจิทัล พร้อมคิกออฟ แผนงานสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปี 67 ลุย FTA อาเซียน-ออสเตรเ.. หนึ่งในแบรนด์ใหม่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ที่เตรียมบุกตลาดประเทศไทย ในงาน บางกอก มอเตอร์ โชว์ ปลายเดือนนี้ มีชื่อของ วินฟาสต์ (VinFast) และก่อนเปิดตัว..

“ภูมิธรรม” นำทีมเอกชนเซ็น MOU ซื้อขายข้าว-อาหารไทยกับผู้ประกอบการสหรัฐ โกยเงินเข้าประเทศกว่า 1,435 ล้านบาท พร้อมมอบตรา Thai Select การันตีรสชาติไทยแท้ให้ 9 ร้าน.. ก้อนที่สามคือ เป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งจะดูแลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ 17 ล้านคนตามมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 2568 จำนวน 172,300 ล้านบาท…ประเด็นนี้ก็ไม่ง่ายเลย…เพราะมีมาตรา 9 (3) ในพ.ร.บ.จัดตั้ง ธ.ก.ส. 3 ปีรัฐประหารในเมียนมา FDI ทรุดหนัก ลงทุนต่างชาติวูบลงกว่าครึ่ง 400 บริษัทไทยแห่ถอนตัว ค้าไทย-เมียนมาปี sixty six ติดลบ หลังค่าเงินจ๊าตผันผวน เงินเฟ้อพุ่ง กำลังซื้อวูบ.. “สนั่น” โชว์แผนขับเคลื่อนหอการค้าไทยปี 67 เตรียมผลักดัน three เรื่องใหญ่ ดึงคนเก่งต่างชาติทำงานไทย หนุนเพิ่มจำนวนและพัฒนาประชากรคุณภาพรองรับการเปลี่ยนของโลก ดัน 10 .. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการสะพานเศรษฐกิจไทย (แลนด์บริดจ์) ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังผลั..

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้

ท่องเที่ยวฯ เดินหน้า Quick Win พบ 5 แพลตฟอร์มดังจีน “ไบท์พลัส, เทนเซน, เสียวหงชู, หม่าเฟงวอ,จูไว่ ไอคิวไอ” ช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยตามเป้า..

“จีน” เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการนำเข้าอาหารทะเลสูงมาก โดยปัจจุบันมี “นิวซีแลนด์” และฝั่งอเมริกาเหนือเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลในจีน ด้วยสัดส่วนมากถึง three ใน 4 .. วันนี้(วันที่ 15 มกราคม 2567) -บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ร่วมกับ สภาห.. ทูตเกษตรกว่างโจว เปิดสถิติการนำเข้าทุเรียนสดของจีน ปี 2566 ไทยยังครองแชมป์อันดับ 1 ส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ปริมาณนำเข้ากว่า 9 แสนตัน เวียดนาม-ฟิลิปปินส์ ตามมาห่า.. “บีโอไอ” คลอดมาตรการส่งเสริมลงทุนสำหรับแผงวงจรอเล็กทรอนิกส์ ดึงลงทุนคลัสเตอร์ซัพพลายเชน PCB ครั้งใหญ่ตั้งเป้าอีก 10 บริษัทระดับท็อปปักหลักในไทยหลังลงทุนแล้ว 10 .. หอการค้าไทย นำทีมลงพื้นที่จ.สงขลา และสตูล สำรวจทะเลสาบสงขลา ดันแผนโครงการสร้างท่าเทียบเรือสำราญ เส้นทางรถไฟรางคู่หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ และสะพานสตูล-ปะลิส พร้อมร.. – สภาแห่งชาติ (National Assembly) ของเวียดนามลงมติในวันนี้แต่งตั้งให้รองประธานาธิบดีหวอ ถิ อานห์ ซวน รักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากประธานา..

ก้อนที่สองคือ งบประมาณปี 2568 ซึ่งก็เตรียมไว้ 1.52 แสนล้านบาท ซึ่งก้อนนี้มันก็ยากที่จะไปเกลี่ยงบจากส่วนต่างผลที่เกิดขึ้นก็คือ ร่างงบประมาณร่างแรกที่ควรออกมามันยังไม่ออกมา เพราะต้องไปทำการบ้านเพื่อโครงการดิจิทัล วอลเล็ตให้ตกผลึกเสียก่อน… ประเทศไทยในยุคโลกเดือด ใต้เงารัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” คณะกรรมการรับสถานการณ์เอลนีโญ ประเมินโลกร้อน โลกรวน กระทบชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจ ในฤดูแล้งแรุนแรง 7 ด้า.. ปี 2566 เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าศักยภาพ ขยายตัวเพียง 1.9% ขณะที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ได้เข้ามาบริหารประเทศ ผ่านมา 6 เดือน เสียงจากภาคเอกชนและภาคประชาชน ให้คะแนนทั้งส.. ภาคเอกชนสงขลา ขานรับรัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ชี้ส่งผลดีท่องเที่ยวในพื้นที่ หากแล้วเสร็จเตรียมเสนอเปิดเดินรถประจำระหว่างประเทศไทย-ม..

บิ๊กทุนจีน ทุ่ม 10,000 ล้านบาทลงทุนมอเตอร์ไซค์อีวี ในพื้นที่ EEC ผลิตแบตเตอรี่ กว่า 10,000 ล้านบาทใน 5 ปี เสริมฐานการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียวที่ยั่งยืน ในพื้นที่อ.. เกาหลีใต้ ถก ไทย เตรียมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ หวังลดภาษีนำเข้า-ส่งออกสินค้า เล็งขยายธุรกิจปักหมุดตั้งฐานผลิต “อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย”.. ถอดบทเรียนเอฟทีเออียู-เวียดนาม (EVFTA) หนังตัวอย่างไทยถก FTA ไทย-อียู เผยเวียดนามยอมอื้อแลกผลประโยชน์ ทั้งเปิดทางร่วมประมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้เทียบเท่าบริษั..

นายกฯ สั่งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย เร่งยกเลิก ใบตม.6 ชายแดนใต้-อีสาน หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย พร้อมสั่งเร่งแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนระหว่าง.. ด้วยเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาของ “เวียดนาม” ทั้งด้านการส่งออกสินค้าเกษตรและด้านโลจิสติกส์ ส่งผลให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าจับตามองอย่างมากในศักยภาพด้านเศรษฐกิจ.. การเมืองเวียดนามป่วนอีกรอบ หลัง “หวอ วัน เถือง” ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี แม้จะเป็นไปตามคาด แต่การลาออกท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎของพรรคคอมมิวนิสต์ ก..

แนวโน้มเศรษฐกิจไทย Deloitte Thailand ข้อมูลเชิงลึก มุมมอง รายงาน

ประเทศไทยมีบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากขาดดุล 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก่อน ธปท. 30% แรกใช้ขุดบ่อ (สามารถเลี้ยงปลาและปลูกพืชน้ำ เช่น ผักบุ้งได้) เหนือสระสามารถสร้างเล้าไก่ได้ และตามแนวริมสระน้ำก็สามารถปลูกต้นไม้ยืนต้นที่ไม่ต้องใช้น้ำมากได้ ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ต้องดำรงชีวิตที่เหมาะสมด้วยปัจจัยพื้นฐานที่เพียงพอ เช่น อาหาร กะปิ น้ำปลา และเสื้อผ้า 30% แรกกำหนดให้เป็นบ่อเก็บน้ำฝนในช่วงฤดูฝน ส่วนช่วงฤดูแล้งจะทำหน้าที่จัดหาน้ำเพื่อปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์น้ำและพืชน้ำ คำร้องดังกล่าวมีศักยภาพที่จะถอดถอน Pita ในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยทหารห้ามการถือครองดังกล่าว

กรุงเทพฯ — เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.7% ในไตรมาสแรกของปี 2566 จากปีก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซายังคงส่งผลกระทบต่อประเทศ ตนเห็นพ้องกับรัฐบาลในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเน้นไปที่การบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น เขาเสนอแนะให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คาดเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัว three.3% เป็น 3.8% รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ ความต่อเนื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก การขยายรายจ่ายของรัฐบาล และการเร่งการลงทุนสาธารณะในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการเติบโต ผลงานของธนาคารโลกในปัจจุบันในประเทศไทยประกอบด้วยกองทุนทรัสต์และบริการที่ปรึกษาและการวิเคราะห์ (ASA) ณ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 กองทุนทรัสต์ที่ใช้งานอยู่มีมูลค่า 7.6 ล้านดอลลาร์ โดยมีกิจกรรมที่สนับสนุนภาคสิ่งแวดล้อมและการสร้างสันติภาพในภาคใต้ของประเทศไทย ASA ที่ใช้งานอยู่ 17 รายการ ซึ่งรวมถึงบริการให้คำปรึกษาด้านการชำระเงินคืน (RAS) 5 รายการที่ครอบคลุมการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาค การศึกษาและทักษะ การทบทวนรายจ่ายสาธารณะ การประเมินและการรวมความยากจน และคำแนะนำนโยบายสำหรับธุรกิจหลักทรัพย์หลังโควิด-19 และภายใต้การหยุดชะงักทางดิจิทัล

คำแนะนำ — มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาทในเดือนมกราคม 2567 การอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาอาจบ่งชี้ถึงการไหลออกของเงินทุนที่เร่งตัวมากขึ้น ในส่วนวิกฤตของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นอย่างมาก จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 ด้านหลัก ดังนี้ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นวิกฤตที่รุนแรงกว่าที่เคยเกิดขึ้น เพราะเป็นวิกฤตที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ต่างจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2551 เฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ฝั่งเอเชียก็ยังดีอยู่ และวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 กระทบเฉพาะประเทศไทยและเอเชีย ไม่ถึงยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่วิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อกว่า 208 ประเทศ และกว่า 144 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อกว่าร้อยราย ฮู แสงไบ คนขายลอตเตอรีวัย sixty one ปีในกรุงเทพฯ กล่าวว่ารายได้ต่อเดือนของเธอลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งเหลือเพียง a hundred and ten ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง

การคาดการณ์ระบุว่ามูลค่าของตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะสูงถึง 2.forty seven ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566 คาดว่าจะแสดง CAGR ที่ 1.26% ระหว่างปี 2566 ถึง 2571 ปริมาณตลาดคาดว่าจะสูงถึง 2.63 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นช่วงเวลานี้ มองไปข้างหน้า ในปีงบประมาณที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 รัฐบาลไทยตั้งเป้าที่จะออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1.25 ล้านล้านบาท (36.thirteen พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจาก 1.09 ล้านล้านบาท (31.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ออกในปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจาก ต่อรอยเตอร์ ดัชนีหุ้นหลักที่ใช้ในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ ดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ซึ่งคำนวณจากราคาของบริษัทจดทะเบียน 50 อันดับแรกและ a hundred อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจดทะเบียนเหล่านี้ ได้แก่ บริษัทน้ำมันและก๊าซ ปตท.

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม หลังจากอยู่ภายใต้การปกครองของทหารเกือบทศวรรษ ได้ประกาศให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็น “วิกฤต” แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอย่างมีนัยสำคัญและมีความคาดหวังการเติบโตที่ต่ำกว่า ก็มีการขยายตัวร้อยละ 3.7 ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากภาวะเศรษฐกิจตกตะลึงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ประเทศไทยกลับตกต่ำลง

การผสมผสานระหว่างรูปแบบการบริโภคที่แตกต่างกันและราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อจะแตกต่างกันไปในแต่ละครัวเรือน วิจัยกรุงศรีประเมินว่ากลุ่มผู้มีรายได้ต่ำสุด อัตราเงินเฟ้อจะมาอยู่ที่ 4.4% ในปี 2565 เทียบกับเพียง 0.7% ในปี 2564 ซึ่งหมายความว่าในปี 2565 ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยจะต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นกว่า 6 เท่า หนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในทางตรงกันข้าม สำหรับผู้มีรายได้สูง อัตราเงินเฟ้อน่าจะสูงถึง four.3% ในปี 2565 เทียบกับ three.3% ในปีก่อนหน้า (รูปที่ 8) ดังนั้น แม้ว่าทุกครัวเรือนจะต้องรับมือกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นต่อรายได้และรายจ่ายโดยรวม ซึ่งผลกระทบจะใกล้เคียงกันสำหรับทั้งสองกลุ่มนี้ โดยกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะเห็นราคาพุ่งขึ้นเร็วขึ้นและหนักขึ้นมากในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำคือปัญหาหนี้ครัวเรือน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หนี้ครัวเรือนของไทยสูงถึง ninety.9% ของ GDP ในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ sixteen.2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตจากโมเดลที่เน้นการส่งออกซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไปมากเมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนจะลดลงอย่างมาก เนื่องจากผลผลิตที่ซบเซา การเติบโตโดยเฉลี่ยของผลิตภาพปัจจัยรวม (TFP) ซบเซาจากระดับสูงที่ three.6% ต่อปีในช่วงต้นปี 2000 เหลือเพียง 1.3% ในช่วงปี 2552-2560 การลงทุนภาคเอกชนลดลงจากมากกว่า 40% ในปี 1997 เหลือ 16.9% ของ GDP ในปี 2019 ในขณะที่กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าทั่วโลกมีสัญญาณของความซบเซา ภายใต้รัฐบาลที่นำโดยพรรคพลังประชาชน ประเทศตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมือง เมื่อรวมกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2550-2551 ทำให้อัตราการเติบโตของ GDP ของไทยในปี 2551 ลดลงเหลือ 2.5% [60] ก่อนที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มเสื้อเหลืองจะรวมตัวกันอีกครั้งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 GDP ขยายตัวร้อยละ 6.5 (YoY) ในไตรมาสแรกของปี[60] อันดับของประเทศไทยในกระดานคะแนนความสามารถในการแข่งขันของโลกของ IMD เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 33 ในปี พ.ศ.

ในรายงานนโยบายการเงินเดือนพฤษภาคม 2566 เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตที่ three.6% ในปี 2566 และ 3.8% ในปี 2567 การเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น การบริโภคที่เพิ่มขึ้นนี้จะนำไปสู่การจ้างงานและรายได้ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการและสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ นอกจากนี้ การส่งออกสินค้ายังฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศของจีนและการเติบโตของคู่ค้าที่ดีขึ้น ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะผลักดันการเติบโตจนถึงปี 2567 จากข้อมูลดังกล่าว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ภาครัฐทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชน เช่นมาตรการบรรเทาทุกข์ 6 หมื่นล้านบาท และแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท หรือในส่วนของ ธปท. มีการออก Soft Loan ให้กับ SMEs รวมถึงกองทุนหุ้นภาคเอกชนที่ครบกำหนดชำระแล้ว สำหรับมาตรการเพิ่มเติมหลังจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่าจำเป็นต้องล็อคดาวน์หรือไม่ หากจำเป็นต่อไป ก็ต้องมีการเยียวยาประชาชนต่อไป กระทรวงการคลัง และ ธปท. พร้อมปรับมาตรการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เศรษฐกิจไทยโดยรวมค่อนข้างมีเสถียรภาพ หนี้สาธารณะไม่สูงมาก จึงสามารถระดมทุนระยะสั้นเพื่อดูแลประชาชนได้ ซึ่งอัดฉีดเงินเข้าที่สาธารณะโดยตรง เหมือนเงินเยียวยา 5,000 บาท จะเห็นผลค่อนข้างเร็วโดยใช้เงินใช้จ่ายทันที ส่วนมาตรการกระตุ้นการลงทุน จะต้องดูระดับความพร้อมในการลงทุน หากมีโครงการสนับสนุนอยู่แล้ว การอัดฉีดเงิน จะกระตุ้นการจ้างงาน ซื้อวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ซึ่งก็เห็นผลค่อนข้างเร็วเช่นกัน 2498 ประเทศไทยเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ การต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างสองฝ่ายหลักในระบอบพิบูล นำโดย พล.ต.อ. สฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ต่อมาเป็น จอมพล) เพิ่มมากขึ้น ทำให้ศรียานนท์แสวงหาการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการทำรัฐประหารต่อต้านระบอบพิบูลสงครามไม่สำเร็จ หลวงพิบูลสงครามพยายามทำให้ระบอบการปกครองของเขาเป็นประชาธิปไตยโดยแสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนโดยการพัฒนาเศรษฐกิจ เขาหันไปหาสหรัฐอเมริกาอีกครั้งโดยขอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจมากกว่าความช่วยเหลือทางทหาร สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแก่ราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ.

Thai economy

คณะกรรมการประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีด้วย วิทยากรของสภาและวุฒิสภา รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงกลาโหม หัวหน้ากองทัพ; เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประธาน สศช. ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบของคุณไม่อนุญาตให้คุณเข้าถึงเนื้อหานี้ในรูปแบบที่เลือก การเข้าถึงเนื้อหานี้ในรูปแบบนี้จำเป็นต้องสมัครสมาชิกปัจจุบันหรือซื้อล่วงหน้า โปรดเลือกตัวเลือกเว็บหรืออ่านแทน (ถ้ามี) หรือพิจารณาซื้อสิ่งพิมพ์ ก้าวนำหน้าในเศรษฐกิจที่มีพลวัตและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของประเทศไทยโดยสมัครรับจดหมายข่าวของเราและติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย ควรเปิดใช้งานคุกกี้ที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดตลอดเวลา เพื่อให้เราสามารถบันทึกการตั้งค่าของคุณสำหรับการตั้งค่าคุกกี้ได้ การแพร่ระบาดทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยตกต่ำในปี 2563 ส่งผลให้นักพัฒนาส่วนใหญ่ต้องชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ และมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าคงคลังที่มีอยู่และเสนอส่วนลด ในขณะเดียวกัน ตราสารหนี้ภาคเอกชนคิดเป็นร้อยละ 27 ในรูปของ Straight, Floating Rate Notes (FRN), Amortizing และ Convertiblebonds

เครื่องจักรและชิ้นส่วน ยานพาหนะ วงจรรวม เคมีภัณฑ์ น้ำมันดิบ เชื้อเพลิง เหล็กและเหล็กกล้า ถือเป็นสินค้านำเข้าหลักของไทย การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเชื้อเพลิงในการผลิตสินค้าและยานพาหนะที่มีเทคโนโลยีสูง 2548 ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศไทยต่อวันอยู่ที่ 838,000 บาร์เรลต่อวัน (133,200 ลูกบาศก์เมตร/วัน) เกินกว่าการผลิตที่ 306,000 บาร์เรลต่อวัน (48,seven-hundred ลูกบาศก์เมตร/วัน) โรงกลั่นน้ำมันทั้ง four แห่งของประเทศไทยมีกำลังการผลิตรวม 703,one hundred บาร์เรลต่อวัน (111,780 ลูกบาศก์เมตร/วัน) รัฐบาลกำลังพิจารณาศูนย์กลางการแปรรูปน้ำมันและการขนส่งระดับภูมิภาคที่ให้บริการทางตอนใต้ของจีนตอนกลาง ในปี พ.ศ. 2547 ปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย 1,055 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (2.99×1,010 ลูกบาศก์เมตร) เกินปริมาณการผลิต 790 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (2.2×1,010 ลูกบาศก์เมตร) 2554 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวของจีนมีมากกว่าประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศหลังมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ จากข้อมูลของ IMF ในปี 2555 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92 ของโลกในด้าน GDP ต่อหัวที่ระบุ เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องขอล้มละลายต่อลูกหนี้ได้หากฝ่ายหลังล้มละลายและเป็นหนี้เจ้าหนี้ตั้งแต่หนึ่งรายขึ้นไปเป็นจำนวนเงินที่แน่ชัดมากกว่า 1 ล้านบาท (หากลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดา) หรือมีหนี้มากกว่า 2 ล้านบาท (หากลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดา) นิติบุคคล) ข้อยกเว้นประการหนึ่งคือประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในอนุสัญญานิวยอร์กว่าด้วยการยอมรับและการบังคับใช้คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ (1985) คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศโดยประเทศสมาชิกของอนุสัญญาสามารถบังคับใช้ได้หากถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

2528-2537 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (GDP) ต่อหัวเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ eight.2 ต่อปี ภายในงานมีผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่ ดร.กิริดา เภาภิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยนโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (GSEI ) และ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับภูมิทัศน์ภูมิเศรษฐกิจในปัจจุบัน และบทบาทในอนาคตของประเทศไทยในความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งแรงจูงใจที่เพิ่มขึ้นจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R) เนเธอร์แลนด์ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปสำหรับการลงทุนทางตรงของไทย (TDI) ในต่างประเทศและเป็นอันดับที่ 1 อันดับ three ของโลก รองจากฮ่องกงและสิงคโปร์ ณ สิ้นไตรมาสที่สามของปี 2023 TDI สะสมในเนเธอร์แลนด์อยู่ที่ 23.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 12.0% ของ TDI ทั้งหมดในต่างประเทศ และ 78.9% ไปยังสหภาพยุโรป การค้าสินค้า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกสินค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเนเธอร์แลนด์ไปยังอาเซียน (รองจากสิงคโปร์) ไทยเกินดุลการค้าเนเธอร์แลนด์ ในปี 2566 มูลค่าการค้าสินค้าระหว่างเนเธอร์แลนด์และไทยอยู่ที่ประมาณ 5.8 พันล้านยูโร ลดลง 6.0% จากปี 2565 เนื่องจากการนำเข้าของเนเธอร์แลนด์จากไทยลดลง 15.7% เหลือ 3.7 พันล้านยูโรในปี 2566 จาก 4.5 พันล้านยูโร ยูโรในปี 2565 ในทางกลับกัน การส่งออกของเนเธอร์แลนด์มายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 19.8% เป็น 2.0 พันล้านยูโรในปี 2566 จาก 1.7 พันล้านยูโรในปี 2565 เศรษฐกิจของประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 23 ของโลกในแง่ของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 9 ในเอเชียแปซิฟิก และเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ตามหลังอินโดนีเซีย

2565 นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลของเขารอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งที่ four นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี พ.ศ. 2566 ประยุทธ์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร โดยประกาศว่าเขาจะ เข้าร่วมร่วมไทยสร้างชาติที่เพิ่งสร้างเสร็จก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป เขามีแนวโน้มที่จะถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรค (ไม่เกินสามคนต่อพรรค) ยังไม่แน่ชัดว่าสภาสูงที่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพ จะยังคงสนับสนุนพลเอกและนายกฯ ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้นำรัฐประหารในปี 2557 ต่อไปหรือไม่ คะแนนเสียงของวุฒิสภามีความสำคัญต่อการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ว่าจะได้รับการเลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญก็ยังบังคับให้ประยุทธ์ต้องลาออกจากตำแหน่งกลางวาระเนื่องจากจะถึงวาระการดำรงตำแหน่งของเขา ในปี 2565 เศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 2.6 หลังจากเติบโตร้อยละ 1.5 ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ชัดเจนที่สุดคือการเพิ่มระดับรายได้ในระยะยาว การจ่ายครั้งเดียวถือเป็นการชั่วคราว แต่การเพิ่มค่าจ้างถาวรจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในปี 2567 และต่อๆ ไป อีกทั้งยังเป็นการโยกย้ายภาระในการเพิ่มกำลังซื้อจากภาครัฐและธุรกิจที่จ้างแรงงานไทยอีกด้วย อย่างที่ฉันเขียนไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน สิ่งนี้อาจส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการคิดและการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศไทย บ่งชี้ว่ารัฐบาลต้องการเริ่มหลุดพ้นจากการพึ่งพาการส่งออกอย่างหนัก และปรับสมดุลกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อการบริโภคให้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นพ้องกันว่าการแจกเงินสดเพียงครั้งเดียวเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนั้น เพื่อเริ่มต้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศว่าเขาและแนวร่วมรัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้าแผนกระตุ้นการบริโภคที่ก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง โดยมอบบัตรกำนัลเงินสดดิจิทัลแบบใช้ครั้งเดียวให้กับผู้คนหลายสิบล้านคน มูลค่า 10,000 บาท (ประมาณ 286 ดอลลาร์) .

อย่างไรก็ตาม Deloitte มองว่าการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นกลไกหลักในการเติบโตของ GDP ในปี 2567 เราคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การเพิ่มหรือเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนใน ประเทศไทย เช่น Changan, GAC, GWM และ Rever นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุว่าบัตรส่งเสริมการลงทุนที่ออกในช่วง 9M2566 เพิ่มขึ้น zero.4% YoY เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าสูงสุด 130.four พันล้านบาท นอกจากนี้ มูลค่าการขอใบรับรอง BOI ก็เพิ่มขึ้น 22% YoY เทียบกับ 9M2022 แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตปานกลางตั้งแต่ปี 2542 แต่ผลการดำเนินงานในอนาคตขึ้นอยู่กับการปฏิรูปภาคการเงินอย่างต่อเนื่อง การปรับโครงสร้างหนี้องค์กร การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โทรคมนาคม ถนน การผลิตไฟฟ้า และท่าเรือมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนวิศวกรและบุคลากรด้านเทคนิคที่มีทักษะเพิ่มมากขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยชะลอตัวเกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2565 เนื่องจากการส่งออกและการผลิตลดลง แต่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่สำคัญน่าจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวในปีนี้ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลง เส้นทางสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างที่ครอบคลุม รวมถึงการปฏิรูปด้านการศึกษา นโยบายการค้า และนโยบายการแข่งขัน การแก้ปัญหาต้นตอของการเติบโตที่ช้า เช่น การไม่มีการปฏิรูปเหล่านี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน นโยบายประชานิยมในปัจจุบัน แม้จะเป็นประโยชน์ทางการเมืองในระยะสั้น แต่ก็มองข้ามความจำเป็นที่สำคัญสำหรับมาตรการเพิ่มผลิตภาพในระยะยาว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์เศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้นได้

การสูงวัยจะนำไปสู่ความต้องการการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยตรง โดยอาศัยเงินบำนาญสาธารณะและค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินรวมของเงินบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม และเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.4% ของ GDP ในปี 2560 เป็น 5.6% ในปี 2560 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายการดูแลผู้สูงอายุและการรักษาพยาบาลในระยะยาวก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน . กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการว่ารายจ่ายสาธารณะด้านการดูแลสุขภาพจะเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ของ GDP ในปี 2560 เป็น four.9% ของ GDP ในปี 2560 เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น การขาดมาตรการชดเชยจะทำให้การรักษาความยั่งยืนทางการคลังทำได้ยากขึ้น ซึ่งจะกลายมาเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตที่อาจเกิดขึ้น เขากล่าวว่านโยบายดังกล่าวจะส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคบนพื้นฐานที่ยั่งยืน ปัจจุบันประเทศไทยมี SEZ ทั้งหมด 10 แห่ง โดยมีมูลค่าการค้าและการลงทุนเกือบ 8 แสนล้านบาทต่อปี

2548 ก็ตาม ลดภาษีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น และเกษตรกรได้รับราคาพืชผลที่สูงกว่าราคาตลาด ในเวลาเดียวกัน และเพื่อป้องกันวิกฤติอื่น จึงมีการกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนต่างชาติในบางภาคส่วน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ถูกป้องกันไม่ให้กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อซื้อที่ดิน และกฎหมายใหม่ควบคุมภาวะความร้อนสูงเกินไปของตลาดหุ้น มีการก่อตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติเพื่อรับภาระหนี้เสียจากธนาคาร (Hays, 2014) 2536 ประเทศไทยมีการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้รับการพัฒนาในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกแล้ว ได้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้นเพื่อใช้ผลผลิตจากอุตสาหกรรมต้นน้ำเหล่านี้ อุตสาหกรรมหลายประเภทเริ่มเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมหลักทั้ง three แห่งนี้สร้างอุตสาหกรรมสนับสนุนจำนวนมาก และ SMEs ถือเป็นส่วนสำคัญของประเทศที่แรงงานในภาคเกษตรกรรมสามารถย้ายไปยังภาคการผลิตและบริการได้ ในปัจจุบัน เห็นพ้องกันว่า SMEs มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ . ถือเป็นกลไกที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ SMEs ยังเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างอัตรากำไรที่ใหญ่ที่สุดให้กับประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรขนาดใหญ่ โดยรายได้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการนำเข้าเครื่องจักร เทคโนโลยี และวัสดุ นอกจากนี้ SMEs ยังพัฒนาความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่ชนบทของประเทศ ผลการศึกษาล่าสุดของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า มีผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศจำนวน 2.9 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99 ของจำนวนวิสาหกิจทั้งหมดของประเทศ สร้างงาน 9.7 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้เพิ่ม three.4 ล้านล้านบาท ผลิตจีดีพีของประเทศร้อยละ 37.2 และส่งออกมูลค่า 1.fifty nine ล้านล้านบาท เศรษฐา ทวีสิน จากอดีตพรรคเพื่อไทย (PTP) ฝ่ายค้าน เป็นผู้นำรัฐบาลผสม 11 พรรคชุดใหม่ของไทย ซึ่งรวมถึงพรรคที่มีแนวร่วมทหาร ซึ่งเป็นอดีตคู่แข่งของ ปตท.

ร้านอาหาร สายการบิน และโรงแรมจะมีปีที่ยากลำบาก จำนวนผู้ประกอบการร้านอาหารที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 39% จากสถานการณ์ก่อนการระบาด โรงแรมและสายการบินขนาดเล็กก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดยมีจำนวนผู้ประกอบการที่ต้องการสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 35% และ 27% ตามลำดับ แม้ว่าธนาคารต่างๆ มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ธนาคารก็ยังมีสภาพคล่องสูง บริษัทขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อดูดัชนี Log-down ของประเทศที่มีการปิดเมืองเพื่อวางแผน ดัชนีอุตสาหกรรมจะออกมาเป็นกราฟ Downward Sloping หมายความว่ายิ่งมีการล็อคดาวน์ เศรษฐกิจอุตสาหกรรมลดลงมาก ชี้ให้เห็นว่าการล็อคดาวน์มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจจะฟื้นตัวไม่ช้าก็เร็ว ไม่ใช่แค่การล็อคการผ่อนคลายเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความเชื่อและพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะกลับมาใช้จ่าย นี่คือจุดที่มาตรการทดสอบและติดตามที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สุทธศรีชี้ให้เห็นถึงพลังระดับโลก รวมถึงการชะลอตัวของจีนและสงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง รวมถึงความล้มเหลวของราชอาณาจักรในการลงทุนในการฝึกอบรมประชากรสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐายังพัวพันกับข้อพิพาทสาธารณะที่ไม่ปกติกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโต นักวิจารณ์กล่าวว่าผู้นำทางทหารของไทยหันเหความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกมานานหลายปี พึ่งพาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมากเกินไป และใช้ศักยภาพของเยาวชนไทยอย่างสุรุ่ยสุร่ายโดยละเลยการจัดหาเงินทุนให้กับระบบการศึกษาที่สามารถผลิตแรงงานที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความเข้มงวดนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวขัดขวางอัตราเงินเฟ้อ แต่สิ่งนี้อาจช่วยปลอบใจได้เพียงเล็กน้อยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และเนื่องจากอย่างหลังมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในตะกร้าสินค้าที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อก็จะแสดงออกมาแตกต่างออกไปเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีรายได้สูง เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของรายได้แล้ว กลุ่มผู้มีรายได้น้อยจึงใช้จ่ายด้านการเดินทางและอาหารที่บ้านมากกว่าสองเท่า ซึ่งหมายความว่าเป็นไปได้ว่าสำหรับครัวเรือนที่ยากจน หากอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 4.4% ในปีนี้ อัตราเงินเฟ้อจะแย่ลงถึง 6 เท่าในปีนี้เมื่อเทียบกับปี 2564 ในขณะที่กลุ่มที่มีรายได้สูง ความเร็วของราคาจะสูงขึ้น น่าจะยังค่อนข้างซบเซา อย่างไรก็ตาม ปี 2023 จะเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบหลายประการ มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเปิดประเทศของจีนอีกครั้ง เนื่องจากนโยบาย Zero-Covid สามารถนำไปใช้ได้อีกครั้ง หากอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก Covid-19 การพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อราคาพลังงานที่สูงขึ้น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มมากขึ้น และภาวะถดถอยทั่วโลกที่ลึกยิ่งขึ้น อัตราดอกเบี้ยในประเทศก็จะเพิ่มขึ้นในปี 2566 เช่นกัน โดยแท้จริงแล้วอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.25% สิ้นปีนี้ จาก 0.5% ในช่วงต้นปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2% ภายในสิ้นปีหน้าเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และอุปสงค์ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในอดีตเมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 1% ธนาคารพาณิชย์จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย zero.6% โดยมีความล่าช้า 1-2 เดือน

พื้นฐานของเศรษฐกิจคือภาคบริการและการท่องเที่ยว (คิดเป็นประมาณ 50% ของ GDP) อุตสาหกรรม (40%) เกษตรกรรม (10%) วิจัยกรุงศรียังได้ศึกษาผลกระทบจากการลดภาษีในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยด้วยนโยบายที่มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคเอกชนในส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การเปรียบเทียบค่าจ้างก่อนและหลังโควิด-19 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าค่าจ้างในทุกกลุ่มรายได้ลดลงอย่างมาก แต่ก็เป็นครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำที่สุดเช่นกันที่เห็นว่าค่าจ้างลดลงมากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาด (รูป 10) น่าเสียดายที่สิ่งนี้ยิ่งทำให้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของครัวเรือนที่มีรายได้น้อยรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ร่ำรวยกว่า 2) การควบคุมราคาใช้เพื่อกำหนดราคาขายปลีกของสินค้า ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่อาจส่งผ่านอัตราเงินเฟ้อไปยังผู้บริโภค ปัจจุบันกรมการค้าภายในมีหน้าที่ดูแลราคาขายสินค้าและบริการกว่า 200 รายการ ซึ่งโดยทั่วไปเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐาน เช่น เนื้อหมู ไก่ ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด เป็นต้น โดยกรมการค้าภายในจะติดตามและบริหารจัดการราคาของ สินค้าเหล่านี้เพื่อให้ความผันผวนของสิ่งเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพโดยรวมจนเกินไป และหากราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกรมอาจปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ขณะเดียวกัน เพื่อช่วยลดต้นทุนผู้บริโภค ทางการยังเพิ่มการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยการขายสินค้าลดราคาอีกด้วย การควบคุมราคาขายปลีกจึงเป็นวิธีการรักษาความเหนียวของราคา (ภาพที่ 5) สำหรับสหรัฐฯ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกในปีนี้เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2566 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะขึ้นมากกว่า 5% ภายในสิ้นปีหน้า เทียบกับเพียง zero.25% ในช่วงต้นปีนี้ ปี.

แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมยังค่อนข้างปานกลางเพียง 2.6% การผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดในช่วงปี 2565 ยังส่งผลให้การท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งได้รับแรงผลักดันในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่คิดเป็นประมาณ 27.9% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ตลาดการท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ฟื้นตัวค่อนข้างช้าในช่วงปี 2566 แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่จะเพิ่มขึ้นเป็น 926,000 คน ในไตรมาสที่สองของปี 2566 สูงกว่าตัวเลข 517,000 คนในไตรมาสแรกของปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ การยกเลิกข้อกำหนดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 น่าจะช่วยให้การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2566 ถึงต้นปี 2567 ความพยายามระดับภูมิภาคในการส่งเสริมการเชื่อมโยง การค้า และการลงทุนเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับความสามารถของประเทศไทยในการดำเนินแผนพัฒนาระดับชาติอันทะเยอทะยาน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นตัวเร่งและจะสนับสนุนการลงทุนภายในภูมิภาคต่อไป โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนมีเป้าหมายเพื่อสร้างถนน ทางรถไฟ และท่าเรือใหม่ทั่วอาเซียน (OECD-UNIDO, 2019) ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับจีนและแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นรูปธรรมสามารถช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคและลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องได้ ความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งกับจีนยังช่วยเสริมสร้างบทบาทของไทยในการดำเนินแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงของอาเซียน พ.ศ. 2568 (อาเซียน, 2559) นอกจากนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสิบประเทศสมาชิกอาเซียนและห้ารัฐในเอเชียแปซิฟิกที่อาเซียนมีข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ (ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์) – ลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการค้าและการลงทุนเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวจากวิกฤติที่ประสบความสำเร็จและยังคงมีความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย ปัจจัยอื่นๆ หลายประการส่งผลให้เกิดวิกฤตค่าเงินซึ่งเริ่มต้นในปี 1997 สินเชื่อที่บูมในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ก่อให้เกิดฟองสบู่ทางการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของการส่งออกและความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการปกป้องอัตราแลกเปลี่ยนด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดน้อยลง ส่งผลให้ค่าเงินบาทร่วงลงในกลางปี ​​2540 ประกอบกับการหนีเงินทุนจำนวนมาก ทำให้เกิดภาวะถดถอยอย่างรุนแรง ต่อมาเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ในเอเชีย และกลายเป็นที่รู้จักในชื่อวิกฤตการเงินในเอเชีย ประเทศไทยมุ่งหวังที่จะก้าวจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี พ.ศ.

ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลกในการนำเข้าทั้งหมด โดยสินค้านำเข้าอันดับต้นๆ ได้แก่ ปิโตรเลียมดิบ วงจรรวม ก๊าซปิโตรเลียม ชิ้นส่วนรถยนต์ และทองคำ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสิงคโปร์เป็นพันธมิตรนำเข้าหลัก ประเทศนี้มีประชากรประมาณ 70 ล้านคน และกำลังแรงงานมากกว่า forty ล้านคน แม้ว่า GDP ต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์ แต่ประเทศไทยก็สามารถลดความยากจนซึ่งอยู่ที่ 58% ในปี 2533 เหลือ 6.8% ในปี 2563 ได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและการเติบโตอย่างรวดเร็ว คำสัญญาประชานิยมล่าสุดโดยพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัลได้ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนโยบายของพรรคการเมืองที่แข่งขันในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคม….

“กระแสใต้น้ำทางการเมืองที่ยังคงเข้ามาแทรกแซงการเมืองในประเทศถือเป็นธงสีแดงสำหรับนักลงทุน” ภาวิดา แห่งโรงเรียนธุรกิจธรรมศาสตร์ กล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เศรษฐาได้เสนอให้แจกเงินสด 10,000 บาท ($280) แก่คนไทยทุกคนที่มีอายุมากกว่า sixteen ปี นักเศรษฐศาสตร์เชิงนโยบายและคู่แข่งทางการเมืองมองว่าเป็นการสิ้นเปลือง โดยขยายการเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น และทำให้คาสิโนถูกกฎหมาย . เมื่อวันจันทร์ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2.8% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของกรุงเทพฯ เล็กน้อย นักวิเคราะห์กล่าวว่าหลังจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาหลายทศวรรษ ประเทศไทยกำลังแสดงคุณลักษณะทั้งหมดของกับดักผู้มีรายได้ปานกลาง โดยที่ผลผลิตต่ำและการศึกษาที่ย่ำแย่ส่งผลให้แรงงานส่วนใหญ่ติดอยู่กับงานที่ได้รับค่าตอบแทนต่ำและมีทักษะต่ำ นางประนิดา เสยามานนท์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ SCB EIC อธิบายว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับทั้งอุปสงค์และอุปทาน The Lost Decade หมายถึงช่วงเวลาแห่งความซบเซาทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมาจนถึงทุกวันนี้

2551 และในวันที่ 9 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาถอดถอนนายสมัคร สุนทรเวช ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญสิ่งที่หายไปคือความสามารถของประชาชนในการพึ่งพาตนเอง ดำเนินชีวิต และไล่ตามโชคชะตาอย่างมีศักดิ์ศรี สำหรับประเทศไทย วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ถือเป็นบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับการเติบโตที่ไม่สมดุลและไม่มั่นคง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเศรษฐกิจต้องอาศัยเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศและตลาดภายนอกเป็นอย่างมาก เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรก โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งเป็นแหล่งงานสำคัญที่ถูกทำลายลงจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

จนถึงขณะนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศผู้รับการย้ายถิ่นฐานจากจีนไปยังภูมิภาคใหญ่เป็นอันดับสอง นับตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในปี 2561 โดยเวียดนามเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด โดยทั่วไปบริษัทต่างๆ จะย้ายการผลิตเพื่อการส่งออกโดยยังคงรักษาการผลิตไว้สำหรับตลาดจีนในประเทศจีน สำหรับสหภาพยุโรป การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อนที่สำคัญ จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งจำกัดกำลังซื้อ แม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ราคาก๊าซธรรมชาติจะยังคงสูงต่อไปในปีหน้า ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจยุโรปอย่างต่อเนื่อง หลังจากการหยุดชะงักทางการเมืองและความผันผวนของตลาดหุ้นมาหลายเดือน เศรษฐา ทวีสินได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในปลายเดือนกันยายน ท่ามกลางความคาดหวังจากนักเศรษฐศาสตร์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาวอาจเป็นเรื่องท้าทาย การหยุดชะงักของอุปทานในประเทศทำให้อุปสงค์ลดลงในที่สุด การหยุดชะงักที่ขยายออกไปในด้านอุปทานจะมีผลกระทบล้นในด้านอุปสงค์ พนักงานจะมีรายได้น้อยลงหรืออาจถูกทำให้ซ้ำซ้อน และร้านค้าที่ประกอบอาชีพอิสระจะไม่มีรายได้เนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจถูกระงับ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ผลกระทบจากตัวคูณรายได้เชิงลบจะเริ่มเข้ามา และความเสียหายต่อเศรษฐกิจจะมีขนาดใหญ่กว่ามากผ่านวงจรป้อนกลับเชิงลบ (หรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานที่ลดลง) หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยสูงถึงเกือบร้อยละ 87 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปีที่แล้ว ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุ ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก

2560 ที่ให้ค่าปรับที่เข้มงวดแก่แรงงานไม่มีเอกสารและนายจ้าง ส่งผลให้แรงงานข้ามชาติหลายหมื่นคนต้องกลับบ้าน ด้วยเกรงว่าจะขาดแคลนแรงงาน รัฐบาลไทยจึงเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไปจนถึงเดือนมกราคม 2561 และกำลังเร่งขึ้นทะเบียนแรงงาน ประเทศไทยยังให้การต้อนรับผู้ลี้ภัยชนกลุ่มน้อยจากพม่ามานานกว่า 30 ปี; ในปี 2559 ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่จากพม่าประมาณ a hundred and five,000 คนอาศัยอยู่ในค่ายพักแรม 9 แห่งตามแนวชายแดนไทย-พม่า เศรษฐกิจหดตัวอย่างไม่คาดคิดในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 และผู้กำหนดนโยบายได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตในปีนี้ เพิ่มความกดดันให้กับธนาคารกลางที่จะยอมทำตามข้อเรียกร้องเกือบทุกวันของนายกรัฐมนตรีในการลดอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจหดตัวอย่างกะทันหันในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 และผู้กำหนดนโยบายได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตในปีนี้ เพิ่มความกดดันให้กับธนาคารกลางที่จะยอมทำตามข้อเรียกร้องเกือบทุกวันของนายกรัฐมนตรีในการลดอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากการอุดหนุนราคาเบนซีนของรัฐบาลและราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลง ขณะที่ราคาอาหารสดก็ปรับลดลงตามผลผลิตที่สูงขึ้นเช่นกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว ตลาดแรงงานโดยรวมดีขึ้น แต่มีสัญญาณการจ้างงานในภาคการผลิตที่อ่อนแอลง ดุลบัญชีเดินสะพัดมีการเกินดุลเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากดุลการค้าเกินดุลเล็กน้อย

“มันจะยังคงล้าหลังต่อไป หากประเทศไทยยังคงผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นปลายที่ผู้คนไม่ต้องการอีกต่อไป แทนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อปลายเดือนมกราคม ธนาคารโลกระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วว่า สองในสามของเยาวชนและผู้ใหญ่ชาวไทย “ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของการอ่านออกเขียนได้ขั้นพื้นฐาน” ในขณะที่สามในสี่มีทักษะในการอ่านออกเขียนแบบดิจิทัลต่ำ แต่หลังจากหลายปีที่กรุงเทพฯ หลบเลี่ยงการปฏิรูปเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน ก็มีความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจต้านทานต่อการแก้ไขอย่างรวดเร็ว “ฉันไปหาพวกกู้ยืมเงินเพราะคนอย่างฉัน ไม่มีทรัพย์สินหรือเงินออม ไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากธนาคารที่ถูกกฎหมายได้” อาห์เจด คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างวัย 40 ปี กล่าวกับอัลจาซีรา ปรานิดาตระหนักดีว่าประเทศไทยอาจล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้วยตนเอง จึงกระตุ้นให้รัฐบาลและผู้ผลิตค้นหาพันธมิตรและพันธมิตรที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า

ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มกลับมาสู่กรอบเป้าหมายภายในกลางปี ​​2566 โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI เฉลี่ยจะลดลงเหลือ 2.9% ในปี 2566 และ 2.4% ในปี 2567 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการปรับปรุงสภาพการปฏิบัติงานด้านการผลิตคือการขยายคำสั่งซื้อใหม่อย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือนเมษายน อัตราการเติบโตเป็นอัตราที่เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์และส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ เศรษฐกิจไทยแสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในช่วงต้นปี 2566 โดยการเติบโตของ GDP ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี (y/y) เทียบกับการเติบโต 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สี่ของปี 2565 สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน three (AMRO) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการรักษาความยืดหยุ่นและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและการเงินของภูมิภาคอาเซียน three ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 คนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และจีน ฮ่องกง จีน; ญี่ปุ่น; และเกาหลี หน้าที่ของ AMRO คือดำเนินการเฝ้าระวังเศรษฐกิจมหภาค สนับสนุนการจัดการทางการเงินระดับภูมิภาค และให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคแก่สมาชิก นอกจากนี้ ปปง. เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงและช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ ลำดับความสำคัญของนโยบายที่ครอบคลุมควรมุ่งเป้าไปที่การรับประกันว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะได้รับการยึดที่มั่นอย่างมั่นคง การสร้างพื้นที่นโยบายขึ้นมาใหม่ และจัดการกับความเปราะบางที่มีอยู่ ตลอดจนจัดลำดับความสำคัญของการฟื้นฟูการเติบโตในระยะยาวที่ยั่งยืน

ประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายหลายประการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และได้ดำเนินการขั้นตอนแรกในการดำเนินการกำหนดราคาคาร์บอนอย่างครอบคลุม การซื้อขายการปล่อยก๊าซโดยสมัครใจเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 นโยบายเหล่านี้อาจจำกัดการเติบโตของการปล่อยก๊าซในอนาคต แต่จำเป็นต้องมีความทะเยอทะยานทางนโยบายเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในปัจจุบัน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งในประเทศไทยเนื่องจากการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานสูง ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านลบต่อแนวโน้ม การก้าวไปสู่เส้นทางการเติบโตแบบคาร์บอนต่ำสามารถช่วยให้ประเทศไทยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับภูมิภาคในด้านการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ในปี 2561 รายรับโดยตรงจากนักท่องเที่ยวมีส่วนประมาณ 12% ของ GDP ของประเทศไทย และรายได้ทางอ้อมอาจทำให้ตัวเลขเข้าใกล้ 20% ประเทศไทยบันทึกจำนวนนักท่องเที่ยวได้ 38.2 ล้านคนในปี 2561 และคาดว่าจะทะลุ 41 ล้านคนในปี 2562 Deloitte หมายถึงบริษัท Deloitte Touche Tohmatsu Limited (“DTTL”) อย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัทสมาชิกทั่วโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เรียกรวมกันว่า “องค์กร Deloitte”) DTTL (หรือเรียกอีกอย่างว่า “Deloitte Global”) และบริษัทสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละแห่งเป็นนิติบุคคลที่แยกจากกันตามกฎหมายและเป็นอิสระ ซึ่งไม่สามารถผูกมัดหรือผูกมัดซึ่งกันและกันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม DTTL และบริษัทสมาชิก DTTL แต่ละแห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำและการละเว้นของตนเองเท่านั้น ไม่ใช่การกระทำของกันและกัน DTTL ไม่มีการให้บริการแก่ลูกค้า โปรดดู / เกี่ยวกับ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจชะลอความก้าวหน้าของประเทศไทยในการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมภายในปี 2580 รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 5.3% ในปี 2563 (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2563 ) ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการของธนาคารโลก (3-6.8%) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (6.7%) (Maliszewska et al., 2020; และ IMF, 2020) การประมาณการทั้งหมดพบว่าเศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โมเดลการจัดอันดับธุรกิจจะวัดคุณภาพหรือความน่าดึงดูดของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจใน 82 ประเทศที่ครอบคลุมโดยรายงานการคาดการณ์ประเทศของ The Economist Intelligence Unit โดยจะตรวจสอบเกณฑ์หรือหมวดหมู่ 10 แบบแยกกัน ครอบคลุมสภาพแวดล้อมทางการเมือง สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค โอกาสทางการตลาด นโยบายต่อองค์กรอิสระและการแข่งขัน นโยบายต่อการลงทุนจากต่างประเทศ การควบคุมการค้าและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ภาษี การเงิน ตลาดแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน ในมุมมองของวิจัยกรุงศรี ปัญหาหลักที่เศรษฐกิจไทยเผชิญคือผลกระทบด้านลบจากอัตราเงินเฟ้อที่แข็งค่าขึ้นและรายได้ต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการผสมผสานระหว่างนโยบายการเงินที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับความคาดหวังเงินเฟ้อและนโยบายการคลังที่มีเป้าหมายในการบรรเทาผลกระทบจากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อย การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อให้เกิดป้อมปราการที่สำคัญในการป้องกันการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะบั่นทอนกำลังซื้อของภาคครัวเรือน และแม้ว่าค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้น การวิจัยกรุงศรีได้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างที่แท้จริง[3] และสำหรับสองกลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุดก็คาดว่าจะลดลง ตามลำดับ -1.3% และ -0.1% ในทางตรงกันข้าม สำหรับกลุ่มที่มีรายได้สูงสุด ค่าจ้างที่แท้จริงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปี 2564 (รูปที่ 9) ความแตกต่างที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่ากำลังซื้อกำลังฟื้นตัวในอัตราที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มรายได้ที่แตกต่างกัน

จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากการส่งออกภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง คาดว่าการเติบโตของ GDP ในปี 2566 จะเป็นอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปี 2565 ในการตัดสินใจนโยบายการเงินในเดือนกันยายน 2566 คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ GDP ขยายตัวร้อยละ 2.eight และ four.four ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนเป็นหลัก ประเทศไทยพึ่งพาการค้าและการลงทุนในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก (GVC) อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องหยุดชะงักกะทันหันในหลายภาคส่วนในช่วงต้นปี 2563 อันเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 การส่งออกของไทยอาจลดลงมากถึง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 โดยส่งผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดต่อการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและการบริการ (การเดินทาง) และผลกระทบต่อสินค้าเกษตรหรือทรัพยากรธรรมชาติน้อยมาก (Maliszewska et al., 2020) ในทำนองเดียวกัน FDI คาดว่าจะลดลงมากกว่า 30% ทั่วโลกในปี 2563 และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างมากกว่าเมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงต่อภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต (OECD, 2020a) ข้ามพรมแดนเอ็ม ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าหากรัฐบาลประสบความสำเร็จในการยกระดับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของภาคเอกชนขึ้น 10% รายได้ของคนงานในอุตสาหกรรมเหล่านั้นก็จะเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีอัตราที่แตกต่างกันก็ตาม ผลกระทบจะรุนแรงที่สุดในกลุ่มสิ่งทอ การผลิต และอาหารและเครื่องดื่ม โดยรายได้จะเพิ่มขึ้น 4.2%, 1.8% และ 1.6% ตามลำดับ ในขณะเดียวกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะเพิ่มขึ้น zero.4% ต่อ GDP จากอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากต้องพึ่งพาทั้งเครื่องจักรและแรงงานมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เทียบกับ 0.02% ของ GDP จากอุตสาหกรรมขนส่ง และ 0.01% จาก อาหารและเครื่องดื่ม. อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ อาจส่งผลเสียต่อการเติบโตของ GDP ซึ่งอาจเป็นเพราะการแข่งขันด้านทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น

มลพิษทางอากาศเลวร้ายลงตั้งแต่ปี 2010 หลังจากมีการปรับปรุงบ้างในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวรุนแรงเป็นพิเศษในเขตอุตสาหกรรม ซึ่งมลพิษทางอากาศมักอยู่เหนือขีดจำกัดที่ปลอดภัย ในทำนองเดียวกัน หนึ่งในสี่ของน้ำผิวดินถูกประเมินว่ามีคุณภาพต่ำ โดยมีรายงานการปรับปรุงบางส่วนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความคืบหน้าถูกขัดขวางเนื่องจากการขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกในการบำบัดน้ำเสีย การปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอยู่ไม่ดี และไม่มีแรงจูงใจทางการเงินในการปล่อยมลพิษ นอกจากนี้ ปริมาณขยะมูลฝอยยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเกือบครึ่งหนึ่งของขยะมูลฝอยทั้งหมดถูกกำจัดโดยการเผาในที่โล่งหรือการทิ้งอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อสินทรัพย์ด้านสิ่งแวดล้อม (OECD, 2018) ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 การประเมินมูลค่าพันธบัตรไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้น 5.8% แตะที่ sixteen.7 ล้านล้านบาท (482.seventy two พันล้านดอลลาร์) นอกจากนี้ ประเทศกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ โดยกองทุนทั่วโลกจะลงทุนในพันธบัตรไทยมูลค่า 11.7 พันล้านบาท (338.20 ล้านดอลลาร์) ภายในวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ตามข้อมูลของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งเดียวในประเทศและถือเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียนในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด นอกจากนี้ตลาด IPO ของประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย GDP ของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ในเอเชียแปซิฟิก เติบโตเฉลี่ย 9.5% ต่อปีระหว่างปี 1987 ถึง 1996 ในขณะที่การเติบโตชะลอตัวลงเหลือเฉลี่ย three.9% ในช่วงปี 2000-2014 ในปี 2563 เศรษฐกิจของประเทศไทยหดตัวอย่างมากถึง 6.2% ของ GDP เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครั้ง อัตราการเกิดที่ต่ำ การขาดประกันสังคม และจำนวนคนที่ถูกจ้างงานในภาคนอกระบบจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราการว่างงานของประเทศต่ำ ต่อมาในปี 2564 ประชากรของประเทศ 6.3% อยู่ภายใต้เส้นความยากจน สำหรับปี 2565 ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าอัตราความยากจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.6%

ตลาดในประเทศพัฒนาอย่างช้าๆ โดยความเป็นทาสอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของความซบเซาในประเทศ ประชากรชายส่วนใหญ่ในสยามรับใช้เจ้าหน้าที่ศาล ในขณะที่ภรรยาและลูกสาวอาจค้าขายในตลาดท้องถิ่นเพียงเล็กน้อย ผู้ที่มีหนี้สินจำนวนมากอาจขายตัวเองเป็นทาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยกเลิกการเป็นทาสและทาสในปี พ.ศ. เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หดตัว 0.6 เปอร์เซ็นต์อย่างไม่คาดคิดในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 จากไตรมาสที่สาม โดยมีการเติบโตทั้งปีที่ร้อยละ 1.9 ซึ่งต่ำกว่าการเติบโตร้อยละ 2.5 ในปี 2565 เป้าหมายสูงสุดคือการเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวไทยโดยนำเงินสดเข้ามือโดยตรง และการขาดดุลเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจเป็นนโยบายที่ดีได้โดยเฉพาะหากเศรษฐกิจยังล้าหลัง แต่อาจมีวิธีที่ดีกว่าสำหรับประเทศไทยในการปรับสมดุลการเติบโต

ธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกันในการประชุมนโยบายเดือนกันยายน และกล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อน่าจะฟื้นตัวในปีหน้า การนำเข้าพลังงานที่มีราคาแพงจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้เช่นเดียวกับปีที่แล้ว แต่เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคไม่น่าจะแบกรับน้ำหนักได้ และการส่งออกบริการผ่านการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นบางส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมดจากช่วงก่อนการระบาด จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องจับตาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการส่งออกในปีนี้ ระดับการส่งออกสินค้าเพื่อการค้าฟื้นตัวหรืออ่อนตัวลงต่อไปจะเป็นตัวกำหนดว่าเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2566 โดยรวมแล้ว ผลกระทบจากโควิด-19 อาจทำให้บริษัทในประเทศไทยต้องแสวงหาสภาพคล่องระยะสั้นมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10% ของ GDP (รูปที่ 16) การประมาณการนี้ขึ้นอยู่กับการขาดแคลนทั้งหมดในจำนวนเงินที่บริษัทเหล่านี้กำหนดให้ชำระหนี้สินภายในหนึ่งปีข้างหน้า หากไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้และธุรกิจ บริษัทต่างๆ ในกลุ่มค้าส่งและค้าปลีกจะต้องใช้เงินเกือบ 2 แสนล้านบาทในการชำระหนี้สินระยะสั้น ในขณะเดียวกัน ภาคโรงแรม การขนส่งทางอากาศ และร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด จะต้องใช้เงิน 30,000-50,000 ล้านบาทเพื่อความอยู่รอด โดยรวมแล้วเกือบ 60% ของบริษัทที่ประสบปัญหาจะต้องการเงินมากกว่า 1.zero ล้านบาทต่อบริษัท หากเราถือว่าการล็อคดาวน์หนึ่งเดือนและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 30% การเติบโตของ GDP ปี 2020 จะลดลง 1.8 ppt จากการคาดการณ์ก่อนการระบาดของเรา โดยการเติบโตในไตรมาส 2 จะลดลง three.5 ppt ผลกระทบที่รุนแรงที่สุดในไตรมาส 2 จะมาจากภาคการท่องเที่ยว (-1.6 ppt) ตามมาด้วยการหยุดชะงักของอุปทานในประเทศ (-0.9 ppt) การหยุดชะงักของอุปทานทั่วโลก (-0.7 ppt) และผลกระทบทวีคูณ (-0.three ppt)

การแพร่ระบาดทำให้ทางการต้องกำหนดมาตรการกักกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้น มาตรการล็อกดาวน์ ได้แก่ การปิดพรมแดนไทยต่อชาวต่างชาติทั้งหมด (ยกเว้นผู้ส่งสินค้า นักการทูต คนขับรถ นักบิน และอื่นๆ ที่นายกรัฐมนตรีอนุญาต) ห้ามการรวมตัวในที่สาธารณะ และการปิดสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง (รวมถึงห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา โรงยิม และสถานบันเทิง) สถานประกอบการ) อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดวิกฤตโควิด เศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอตัวแล้ว โดยพิจารณาจาก 10 สัปดาห์แรกของปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงก่อนช่วงล็อกดาวน์กลางเดือนมีนาคม จำนวนธุรกิจเปิดใหม่ลดลง 5.3% จากช่วงเวลาเดียวกัน ปีที่แล้ว. ในประเทศไทย แม้เราจะรับมือสถานการณ์ได้ดี แต่จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงแบบ Flatten the Curve แต่ก็ต้องจับตาดูหลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์แล้ว เป็นสิ่งที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจับตามอง ในประเทศของตนเองเช่นกัน โดยเฉพาะการตรวจผู้ติดเชื้อ (Testing) สำหรับประเทศไทยยอดตรวจอยู่ที่ 227,00 ราย คิดเป็น 3,300 รายต่อ 1 ล้านคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย จึงต้องติดตามสถานการณ์และมาตรการทดสอบในช่วงผ่อนคลายหลังคลายล็อกดาวน์ ในไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศขยายตัวจากการขยายตัว 1.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการระบุของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของฉัน IMF เพิ่งเปิดเผยการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2566 และ 2567 ไม่จำเป็นต้องพูดว่า พวกมันอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับประมาณการของฉันที่ 1.8% ในปี 2566 และการเติบโต zero.0% (กรณีฐาน) ในปี 2567 เมื่อเรารวมการสูญเสียผลผลิตจำลองตามภาคส่วนเข้ากับข้อมูลระดับบริษัทจากกระทรวงพาณิชย์ จำนวนบริษัทที่มีสถานะสภาพคล่องยืดเยื้อจะเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการระบาด จากข้อมูลของบริษัท 747,390 แห่งในประเทศไทย จำนวนบริษัทที่เสี่ยงต่อสภาพคล่องช็อกจะเพิ่มขึ้นจาก 102,076 แห่งในสถานการณ์ก่อนการระบาดเป็น 133,444 แห่งในการปิดเมืองหนึ่งเดือน มาตรการล็อกดาวน์ 2 เดือนจะแตะ 192,046 ราย เพิ่มขึ้นเกือบ 90,000 ราย (รูปที่ 10) ในการประเมินที่ย่ำแย่เมื่อต้นปีนี้ ปราณี สุทธาศรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายการเงินของธนาคารกลาง กล่าวว่าประเทศ “สูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างร้ายแรง”

แม้ว่าความต้องการวัตถุดิบและส่วนประกอบจะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ผู้ผลิตรายงานว่าเวลาจัดส่งของซัพพลายเออร์ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคและระดับโลกที่กว้างขึ้น แรงกดดันด้านราคาผ่อนคลายลงในเดือนเมษายน โดยราคานำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบสามเดือน ประเทศไทยแสดงให้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปี 2565 โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 2564 เป็น 2.6% ในปี 2565 โดยโมเมนตัมการเติบโตคาดว่าจะดีขึ้นอีกในปี 2566 จุดยืนของนโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นและสภาวะทางการเงินที่เป็นอยู่ ในระยะต่อไป การปรับเทียบนโยบายการเงินควรยังคงขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการของแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงระดับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น

นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานด้านทุนแล้ว รัฐบาลไทยยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคในอาเซียน กระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยร่วมมือกับองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO) เป็นเจ้าภาพจัดศูนย์ระดับภูมิภาคของ SEAMEO สองแห่งแรกในด้านการศึกษา STEM และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืน รัฐบาลของเขาได้สัญญาว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการแจกเงินมูลค่า 14.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ตั้งเป้าไปที่คนไทย 50 ล้านคน 2551 ประเทศไทยพัวพันในการเผชิญหน้าทางทหารกับกัมพูชาในเรื่องสถานะของปราสาทพระวิหารซึ่งตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายอ้างอำนาจเหนือวัดแห่งนี้ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปีนั้น และส่งทหารไปยังพื้นที่ดังกล่าว ทางตันดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และความตึงเครียดก็เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการรุกล้ำชายแดนและเหตุการณ์อื่นๆ ความพยายามที่จะไกล่เกลี่ยความขัดแย้งล้มเหลว แต่หลังจากเกิดการปะทะกันที่นั่นในปี 2554 กัมพูชาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก เพื่อยืนยันคำตัดสินในปี 2505 ที่จัดทำโดยองค์กรดังกล่าวเพื่อสนับสนุนกัมพูชา ในตอนแรก ศาลเรียกร้องให้ถอนทหารทั้งหมดออกจากพื้นที่ (ซึ่งเสร็จสิ้นในปี 2555) และในปี 2556 ตัดสินว่ากัมพูชาควรควบคุมพื้นที่ปราสาท ประเทศไทยเป็นสมาชิกกฎบัตรของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และด้วยการสนับสนุนของเวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ จึงได้เข้าร่วมในองค์กรระหว่างปี พ.ศ. 2541 แม้ว่าอาเซียนจะไม่ได้พัฒนาเป็นกลุ่มการค้าเสรี ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียมากขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน

พื้นที่สำนักงานชั้นนำในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย มีคุณค่าที่โดดเด่น เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองชั้นนำอื่นๆ ในภูมิภาค กรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งหนึ่งของโฮจิมินห์ซิตี้ เพียง 40% ของค่าใช้จ่ายของโซลและสิงคโปร์ และหนึ่งในสี่ของค่าใช้จ่ายของนิวเดลี โตเกียว และปักกิ่ง ค่าจ้างยังค่อนข้างสมเหตุสมผลสำหรับพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมและมีการศึกษาสูงเช่นกัน เนื่องจากค่าจ้างทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อของค่าจ้างในประเทศไทยจึงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โครงการพัฒนาที่สำคัญอีกโครงการหนึ่งคือ Digital Park Thailand ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 284 เอเคอร์ในจังหวัดชลบุรี บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศ อุทยานแห่งนี้สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงระบบเคเบิลใต้น้ำ สถานีลงจอด และศูนย์ข้อมูล นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้จัดตั้งอุทยานซอฟต์แวร์ประเทศไทยขึ้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ของไทย โดยการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี จัดหลักสูตรการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านไอที สนับสนุนความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจัดให้มี สิ่งอำนวยความสะดวกสำนักงานและห้องสำหรับการประชุม การประชุม และการฝึกอบรมสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์ ประเทศไทยยืนหยัดในฐานะศูนย์กลางการส่งออกที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน โดยมีตำแหน่งที่โดดเด่นในฐานะแหล่งอาหารและสินค้าเกษตรกรรมหลักของโลก รวมถึงข้าวและยางธรรมชาติ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ แม้ว่าในปี 2566 จะลดลงเล็กน้อย -1.0% แต่การส่งออกของไทยยังคงน่าเกรงขาม โดยมีมูลค่า 284.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าลดลง -3.7% มีมูลค่ารวม 289.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยในปี 2566 ได้แก่ รถยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริม เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ หินมีค่าและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง และการกลั่นเชื้อเพลิง คู่ค้ารายใหญ่ 10 อันดับแรกของไทย เรียงตามรายใหญ่ไปน้อยที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย และอินโดนีเซีย ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2557 หลังจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ เป็นเวลาหลายเดือนซึ่งเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน 2556 ยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่ง และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2557 กองทัพบกไทย นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อรัฐประหารต่อต้านรัฐบาลรักษาการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งสังกัดกองทัพ นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้ง ปกครองประเทศมาเป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งในระหว่างนั้น คสช. ในด้านเสถียรภาพทางการเงิน การยุติการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดอย่างต่อเนื่องมีความเหมาะสมท่ามกลางการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากมาตรการบางอย่างค่อยๆ หมดอายุลง ทางการจึงได้รับการสนับสนุนให้ติดตามคุณภาพสินทรัพย์ของสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณการเสื่อมถอยในระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะสำหรับผู้กู้ที่อ่อนแอ ปปง.

จะได้รับความช่วยเหลือจากการท่องเที่ยว แต่จะต้องติดตามการฟื้นตัวของการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด ผู้ช่วยผู้ว่าการ ชยาวดี ฉายอนันต์ กล่าวในการบรรยายสรุป นักเศรษฐศาสตร์ได้เตือนว่าโครงการนี้อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันก็ไร้ประสิทธิภาพและไม่รอบคอบทางการเงินด้วย รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อให้เกิดการขาดดุลต่ำกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในปี 2566 และ 2567 หลังจากที่ต้องดำเนินการขาดดุลจำนวนมากในช่วงที่เกิดโรคระบาด การกู้ยืมเงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะผลักดันให้การขาดดุลเกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และอาจเข้าใกล้ระดับที่เป็นอยู่ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเชื่อว่าหากเกษตรกรดำเนินการด้วยการพิจารณาโดยอาศัยความรู้ถึงความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรในอดีต พวกเขาจะเห็นว่ามีความเสี่ยงเพียงใดที่จะรวมทรัพยากรทั้งหมดไว้ในสินค้าดังกล่าวโดยคาดหวังผลกำไรจำนวนมาก และถ้ายึดหลักภูมิคุ้มกันตนเองก็จะเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงราคาในตลาดโดยผลิตให้เพียงพอกินเป็นหลักแล้วคิดจะขายส่วนเกินเท่านั้น

ความท้าทายทางเศรษฐกิจของประเทศไทยขยายออกไปมากกว่าการขาดอุปสงค์ในระยะสั้น โครงการ ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากการกู้ยืมจากรัฐบาลจำนวนมาก อาจช่วยบรรเทาได้ชั่วคราว แต่รัฐบาลไทยจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานของกำลังการผลิตที่ต่ำ อุปสรรคที่แท้จริงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่การลงทุนภาคเอกชนในอัตราที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง และการไม่มีมาตรการเพิ่มผลิตภาพที่มีประสิทธิภาพ ประเทศไทยมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปี 2565 โดยการเติบโตของ GDP ที่แท้จริงได้เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 2564 เป็น 2.6% ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตเผชิญกับสภาวะที่อ่อนแอเนื่องจากการส่งออกที่ลดลง ส วิสัยทัศน์ของประเทศไทยจะไม่สามารถบรรลุผลได้หากปราศจากความก้าวหน้าไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการเติบโตที่ครอบคลุมทางสังคมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกส่วนของสังคมและภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ที่มีมายาวนานของประเทศไทยซึ่งให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจสำหรับทุกคน ประเทศไทยจึงเปิดตัวโมเดลเศรษฐกิจแบบวงกลมสีเขียว (BCG) ในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์และวาระการปฏิรูปในการบรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 และวัตถุประสงค์ระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ความพยายามในการส่งเสริมและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน นำโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ มีบทบาทสำคัญในความทะเยอทะยานเหล่านี้ โครงการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงทุนมนุษย์ และพัฒนาพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แม้ว่าวิกฤตโควิด-19 อาจทำให้ความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายของประเทศไทยช้าลง แต่การให้ความสำคัญกับเส้นทางการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนจะต้องได้รับการสนับสนุนตลอดช่วงวิกฤตรวมถึงการฟื้นตัว ในด้านนโยบายการคลัง วิจัยกรุงศรีได้ใช้แบบจำลอง Computable General Equilibrium (CGE) เพื่อประเมินการตอบสนองที่เป็นไปได้ต่อสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือแรงงานที่มีรายได้น้อยและแรงงานไร้ฝีมือเพื่อให้ค่าจ้างที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ความแตกต่างระหว่างกำลังซื้อของกลุ่มรายได้ต่างๆ ลดลง และเศรษฐกิจจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น มาตรการที่อาจดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ได้แก่ การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ การเพิ่มระดับการจ้างงาน และการกระตุ้นการลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรม การเปิดประเทศของจีนถือเป็นความหวังของการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยในปีหน้า การส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไทย หดตัวในปีนี้เนื่องจากนโยบาย Zero-Covid ของจีนทำให้อุปสงค์ลดลง นักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศอย่างเสรี อย่างไรก็ตาม จีนกำลังผ่อนคลายนโยบาย Zero-Covid ภายในประเทศ และคาดว่าจะอนุญาตให้เดินทางระหว่างประเทศได้ภายในเดือนเมษายน 2566 ถือเป็นข่าวดีสำหรับการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจไทยไม่ควรตั้งความหวังกับตลาดจีนมากนัก สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงที่โรคโควิด-19 อาจจะแพร่กระจายเป็นวงกว้างในช่วง 2-3 เดือนแรกของการผ่อนคลาย ส่งผลให้การผลิตในประเทศหยุดชะงักเนื่องจากประชาชนป่วยและจำเป็นต้องกักตัว

ตั้งแต่ปลายปี 2562 ราคาบ้านในประเทศไทยปรับตัวลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซา หนี้ครัวเรือนในระดับสูง และการระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยยกระดับสถานะจากประเทศที่มีรายได้ต่ำไปสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางบนในเวลาเพียงรุ่นเดียว ด้วยเหตุนี้ ประเทศจึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องราวความสำเร็จในการพัฒนา โดยสามารถรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งไว้ได้ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความยากจนได้อย่างมาก การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นภาคการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คิดเป็นประมาณ 15% ของการส่งออกทั้งหมด วิจัยกรุงศรีมองว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยพุ่งขึ้นเหนือ 4% ในช่วงปี 2565 โดยราคาที่สูงขึ้นโดดเด่นที่สุดในด้านอาหาร ยานพาหนะ และพลังงาน อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อที่แข็งตัวขึ้นไม่ควรสร้างความกลัวเช่นเดียวกับในประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากราคาที่เหนียวแน่นมากขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการควบคุมต้นทุนสำหรับพลังงานและวัตถุดิบ ความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่พยายามรักษาราคาขายปลีกให้คงที่ และ ผู้ประกอบการไม่เต็มใจที่จะขึ้นราคาอย่างสม่ำเสมอ “ไตรมาสติดต่อกันของ GDP ฝั่งการผลิตที่อ่อนแอติดต่อกัน ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยอ่อนแอกว่าความเชื่อมั่นของตลาด ถึงแม้ว่าการบริโภคจะเติบโตแข็งแกร่งก็ตาม” นักวิเคราะห์จาก Bank of America Global Research กล่าวในหมายเหตุ

เศรษฐกิจพอเพียงสามารถประยุกต์ได้กับทุกระดับ สาขา และภาคส่วนของเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เพียงภาคเกษตรกรรมหรือภาคชนบท หรือแม้แต่ภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และภาคการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยใช้หลักการที่คล้ายกันโดยเน้นความพอประมาณในการปฏิบัติงาน ความสมเหตุสมผล และการสร้างภูมิคุ้มกันต่อตนเองและสังคม ในพระราชดำรัสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยว่าการพัฒนาสมัยใหม่ที่เน้นเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤติได้ในที่สุด ดังนั้นเขาจึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง ‘รากฐานที่ดีและมั่นคง’ ก่อนที่จะพัฒนาก้าวหน้าต่อไป หมายความว่าแทนที่จะให้ความสำคัญกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อนการพัฒนา ควรสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานขึ้นมาเป็นอันดับแรก กล่าวคือ ทำให้ประชาชนในชนบทส่วนใหญ่มีเงินพอเลี้ยงชีพก่อน นี่เป็นวิธีการพัฒนาที่เน้นการกระจายรายได้เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจโดยรวมและเสถียรภาพของประเทศก่อนที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจการเกษตรเป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จ โดยประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในในฐานะซัพพลายเออร์และผู้ส่งออกระดับภูมิภาค แรงจูงใจในการลงทุนที่ดี ต้นทุนการผลิตที่สมเหตุสมผล กลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุน และแหล่งแรงงานกึ่งทักษะที่เพียงพอ ส่งผลให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการอยู่ในแผนการผลิตของบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ความยืดหยุ่นดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของการส่งออก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อย่างต่อเนื่อง และการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง แม้ว่าประเทศไทยจะขึ้นๆ ลงๆ แต่ประเทศไทยก็สามารถรักษาผลประโยชน์ที่มีข้อสงสัยจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกได้

ในความหมายที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น พระองค์ได้ทรงพัฒนาทฤษฎีใหม่เป็นระบบเกษตรกรรมผสมผสานและยั่งยืน โดยน้อมรับพระราชดำริและความพยายามในการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ การฟื้นฟูและอนุรักษ์ดิน เกษตรกรรมยั่งยืน และการพัฒนาชุมชนพึ่งตนเอง จุดมุ่งหมายคือการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่การเกษตร ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเน้นย้ำว่าผู้ผลิตหรือผู้บริโภคพยายามผลิตหรือบริโภคให้อยู่ในขอบเขตหรือจำกัดของรายได้หรือทรัพยากรที่มีอยู่ก่อน ซึ่งเป็นหลักการลดการพึ่งพาและเพิ่มความสามารถในการควบคุมการผลิตได้เอง จึงลดความเสี่ยงจากการไม่สามารถควบคุมระบบตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นวิธีการพัฒนาบนพื้นฐานความพอประมาณ ความรอบคอบ และภูมิคุ้มกันทางสังคม ซึ่งใช้ความรู้และคุณธรรมเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่สำคัญจะต้องมีสติปัญญาและความเพียรที่จะนำไปสู่ความสุขอย่างแท้จริงในการดำเนินชีวิต

การเติบโตในปี 2566 ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของการส่งออกสินค้า รวมถึงการรวมบัญชีทางการคลังที่กำลังดำเนินอยู่ ตามรายงาน เศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวในระดับปานกลางมากขึ้น three.1% ในปี 2568 บทความล่าสุดของ Deloitte เกี่ยวกับ AI – The Generative AI Dossier – จะนำเสนอกรณีการใช้งานและแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นใหม่ที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งสัญญาว่าจะเพิ่มผลผลิต ขยายความคิดสร้างสรรค์ และเร่งการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ กรณีการใช้งานจำนวนมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา การตรวจจับการฉ้อโกง การเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน โรงงานอัจฉริยะ และอื่นๆ กำลังได้รับการพิจารณาให้นำไปใช้งานโดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก 2526 นำเสนอบทวิเคราะห์ร่วมสมัย เข้มงวด และลึกซึ้งในหัวข้อต่างๆ ทางเศรษฐศาสตร์และเศรษฐกิจการเมืองที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ตลอดจนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศไทย ส่วนที่เหลือของโลก วารสารนี้ยังยินดีรับบทความจากประเทศอื่นๆ ที่มีประสบการณ์เป็นบทเรียนเชิงนโยบายสำหรับเศรษฐกิจไทย วารสารนี้มุ่งเน้นไปที่ทั้งนักวิจัยและผู้กำหนดนโยบาย โดยพยายามประสานอุดมคติของความเกี่ยวข้อง ความเข้มงวดด้านระเบียบวิธี และการเข้าถึงได้

AI จะเปลี่ยนอนาคตของการทำงานในรูปแบบต่างๆ โดยเริ่มจากคนทำงาน IQ ถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการทำนายความสำเร็จในการทำงาน แต่ด้วยพลังของ AI มันสามารถช่วยส่วนนี้ให้คุณได้ ตอนนี้โฟกัสจะเปลี่ยนไปที่ EQ ความคิดและทักษะทางอารมณ์ของคุณ ผู้คนจำเป็นต้องเพิ่มทักษะตนเองเพื่อเรียนรู้วิธีใช้ AI คุณอาจไม่ตกงานให้กับ AI แต่มีโอกาสที่คนที่รู้วิธีใช้ AI อาจแย่งงานของคุณไป

นายพิต้า ลิ้มเจริญรัต ผู้นำกลุ่มขับเคลื่อนไปข้างหน้า จะถูกฟ้องร้องเรื่องคุณสมบัติของเขา และขอให้ยุบคณะรัฐมนตรีหากเขาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้ท้าชิงด้านกฎหมายต่อเนื่อง เรืองไกร ลีกิจวัฒนา เตือนเมื่อวันจันทร์ ตามรายงานของบางกอกโพสต์ หากต้องการบันทึกรายการเนื้อหาลงในบัญชีของคุณ โปรดยืนยันว่าคุณตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายการใช้งานของเรา หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้คุณสมบัตินี้ คุณจะถูกขอให้อนุญาต Cambridge Core เพื่อเชื่อมต่อกับบัญชีของคุณ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึก เนื้อหาไปยัง Google Drive หากต้องการบันทึกรายการเนื้อหาลงในบัญชีของคุณ โปรดยืนยันว่าคุณตกลงที่จะปฏิบัติตามนโยบายการใช้งานของเรา หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้คุณสมบัตินี้ คุณจะถูกขอให้อนุญาต Cambridge Core เพื่อเชื่อมต่อกับบัญชีของคุณ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึก เนื้อหาไปยัง Dropbox บทความนี้กล่าวถึงสามแง่มุมของการเติบโตในระยะนี้และผลที่ตามมาต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงกลางทศวรรษ 1990 การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและพลวัตของเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ส่วนแรกจะติดตามรูปแบบที่สำคัญ เศรษฐา ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังด้วย ได้บอกกับผู้ว่าการว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงกำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ และเรียกร้องให้ ธปท. ประเทศไทยมีการโยกย้ายภายในจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มักมาจากพื้นที่ชนบทไปยังใจกลางเมือง ซึ่งมีโอกาสในการทำงานมากกว่า คนไทยที่มีทักษะต่ำและกึ่งมีทักษะยังไปทำงานต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย และจำนวนน้อยกว่าในตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยหลักๆ แล้วไปทำงานในประเทศที่พัฒนาแล้วทางเศรษฐกิจมากขึ้นซึ่งพวกเขาสามารถได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้น

ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจเกิดใหม่และอยู่ในอันดับที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ภายในประเทศในจีนและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทข้ามชาติจำนวนมากได้ย้ายจากจีนไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากหดตัวมากกว่า 6% ในปี 2563 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (GDP) ของประเทศไทยขยายตัว 1.5% ในปี 2564 และ 3.2% ในปี 2565 ตัดสินใจได้ดีที่สุดเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจของคุณด้วยระบบข่าวกรองทางเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้มากที่สุด

2579 ประเทศไทยคาดว่าจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับจีนแผ่นดินใหญ่ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิกนี้ การขยายตัวอย่างมากตามขนาดเศรษฐกิจของประเทศไทยคาดว่าจะผลักดันให้ GDP ต่อหัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 6,900 เหรียญสหรัฐในปี 2565 เป็น eleven,900 เหรียญสหรัฐภายในปี 2575 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดผู้บริโภคในประเทศของประเทศไทย ซึ่งสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ เนื่องจากมาตรการจำกัดชายแดนเรื่องโควิด-19 ค่อยๆ ผ่อนคลายในประเทศไทยและในประเทศต้นทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งของไทยในช่วงปี 2565 การท่องเที่ยวระหว่างประเทศจึงมีการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาถึง 11.15 ล้านคนในปี 2565 เทียบกับเพียง 430,000 คนในปี 2564 อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 39.8 ล้านคน ซึ่งบ่งชี้ถึงขอบเขตที่สำคัญสำหรับการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปในภาคการท่องเที่ยวในปี 2566 อัตราการเติบโตของ GDP ที่เป็นบวกในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโต 6.3% ในปีปฏิทิน 2565 อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาครัฐหดตัว 5.3% ต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 หลังจากลดลง 4.2% ต่อปีในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 แม้ว่าการทดแทนการนำเข้าจะถูกตั้งคำถามโดยธนาคารและธุรกิจชั้นนำที่ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนแครตในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)2 ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 แต่ก็แทบไม่สามารถทำได้เลยที่จะเลิกใช้การทดแทนการนำเข้าไปสู่การส่งเสริมการส่งออก กระทรวงการคลัง ทหาร และบริษัทที่ได้รับการคุ้มครองได้สร้างล็อบบี้ที่แข็งแกร่งเพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กลยุทธ์นี้สามารถคงไว้ได้เป็นเวลานานในประเทศไทย เนื่องจากตลาดในประเทศที่กว้างขวางซึ่งทำให้ตลาดอิ่มตัวล่าช้า ราคาสินค้าเกษตรโลกที่สูงขึ้น และการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้เหตุการณ์น้ำมันครั้งแรกอ่อนลง และทำให้สถานะการชำระเงินผ่อนคลายลง 2515 (ARC. 281) ประมวลกฎหมายที่ดิน และข้อจำกัดสาขาอื่นๆ การมีส่วนร่วมจากต่างประเทศถูกจำกัดในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ (บทที่ 6) กฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว (ABL) ทำหน้าที่ปกป้องอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีความสามารถในประเทศอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ให้การเข้าถึงตลาดแก่บริษัทต่างชาติในภาคส่วนที่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจากต่างประเทศเพื่อการพัฒนา เช่น สิ่งทอและรถยนต์ BOI ทำหน้าที่เป็นตัวกันชน กล่าวคือ บริษัทต่างชาติจะสามารถเข้าถึงตลาดไทยได้ในบางภาคส่วน หากได้รับการส่งเสริมจาก BOI หลังจากการคัดกรองเบื้องต้น บริษัทอเมริกันส่วนใหญ่ถูกแยกออกจากข้อจำกัดเนื่องจากสนธิสัญญาไมตรี ยกเว้นบางภาคส่วนโดยเฉพาะ

ประเทศไทยยังคงส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมผ่านนโยบายตามพื้นที่เพิ่มเติม รวมถึงนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ตลอดจนความพยายามส่งเสริมการขายในจังหวัดชายแดนในภาคใต้ของประเทศไทย และใน 20 จังหวัดที่ยากจนที่สุดในภาคตะวันออกและภาคเหนือของประเทศไทย ในบริบทนี้ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนได้รับความสนใจเป็นพิเศษในฐานะตัวขับเคลื่อนที่มีศักยภาพในการพัฒนาภูมิภาค และริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2558 โดยมีระยะแรกใน 5 จังหวัด (ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลา) และระยะที่สองใน เพิ่มเติม 5 จังหวัด (หนองคาย นราธิวาส เชียงราย นครพนม และกาญจนบุรี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจพิเศษ (NC-SEZ) ซึ่งมีสมาชิกของรัฐบาลเป็นประธาน ซึ่งได้รับการประสานงานโดย สศช. และรวมถึงสมาชิกจากกระทรวงหลายสาย กิจกรรมเป้าหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ การผลิตที่ใช้แรงงานเข้มข้น การผลิตเบา (เช่น เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า การแปรรูปทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์พลาสติก) การผลิตขั้นสูง (เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์) ตลอดจนบริการโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว โครงการลงทุนในกิจกรรมเป้าหมายอาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ หรือสิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีอื่นๆ จากกรมสรรพากรและกรมศุลกากร มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเงินพิเศษสำหรับการลงทุน และนักลงทุน SME อาจได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม (เช่น ข้อกำหนดการลงทุนขั้นต่ำที่ลดลง) (NESDC, 2018; TDRI, 2015) นโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการลงทุนมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 10 ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทยในอนาคต โครงการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.

นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นหลังการปรับฤดูกาล โดยมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการยกเว้นวีซ่า อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงเล็กน้อย การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 1.8% ต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ในขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัว 1.9% ต่อปี นโยบายส่งเสริมการลงทุนมุ่งเน้นไปที่วัตถุประสงค์ครอบคลุม four ประการ (ดังรายละเอียดด้านล่างและรายละเอียดในบทที่ 5) และมีการเสริมและประสานกิจกรรมกับกระทรวงและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ (เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุดมศึกษา) ,วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม สอศ.สว.,สำนักงานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก,การนิคมอุตสาหกรรม,กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม)

ในขณะที่ Generative AI พัฒนาขึ้น การใช้งานเชิงพาณิชย์จะได้รับผลกระทบจากการพิจารณาด้านจริยธรรม กฎหมาย และนโยบายที่เกิดขึ้นใหม่ Deloitte มุ่งมั่นที่จะใช้ Generative AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยได้รับคำแนะนำจากกรอบงาน AI ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยพัฒนาการป้องกันที่จำเป็น และสร้างสมดุลระหว่างลำดับความสำคัญทางจริยธรรมที่แข่งขันกันในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทยได้เผยแพร่พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคแบบบูรณาการของ EEC เพื่อเชื่อมต่อทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ผ่านการเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ และสนามบิน บทความวิจัยนี้เผยแพร่สำหรับบุคคลทั่วไป มันถูกสร้างขึ้นจากแหล่งต่างๆ น่าเชื่อถือแต่บริษัทไม่สามารถรับรองความถูกต้องได้ ความน่าเชื่อถือ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้ใช้ข้อมูลต้องระมัดระวังในการใช้ข้อมูล บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดๆ สำหรับความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานดังกล่าว ข้อมูลในรายงานนี้ไม่ถือเป็นข้อเสนอ หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจแต่อย่างใด ธนาคารโลกสนับสนุนสำนักเลขาธิการอาเซียนในการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อต่อสู้กับขยะทะเลในประเทศสมาชิกอาเซียน (พ.ศ. 2564-2568) ซึ่งจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมที่ปรับขนาดได้และมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเพื่อจัดการกับขยะพลาสติกในทะเลทั่วทั้งภูมิภาค การศึกษาชุดต่างๆ ของกลุ่มธนาคารโลกยังได้ตรวจสอบโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ใช้เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของพลาสติกและจัดการกับขยะทะเลในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ธนาคารโลกร่วมมือกับประเทศไทยในการเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนผ่านการให้ทุนสนับสนุนที่มอบให้โดยความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น องค์กรระหว่างประเทศ คลังสมอง และสถาบันการศึกษา

ได้เพิ่มความพยายามและโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของทักษะวิชาชีพ และทำให้การฝึกอบรมด้านเทคนิคน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักเรียนไทย โปรแกรมเหล่านี้ได้รับการพัฒนาและประสานงานกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาเพิ่มมากขึ้น พวกเขามักจะต้องการให้นักเรียนรวมการฝึกอบรมภาคปฏิบัติในบริษัทเข้ากับการศึกษาในห้องเรียน ตัวอย่างได้แก่ โครงการเรียนรู้แบบบูรณาการงาน ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. ค่าเสื่อมราคาและนโยบายส่งเสริมการส่งออกที่เพิ่งนำมาใช้ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับ FDI ที่มุ่งเน้นการส่งออกหลังปี 2528 โดยเฉพาะการลงทุนของญี่ปุ่นและจากประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่บางประเทศ เช่น จีนไทเปและสิงคโปร์ ซึ่งมีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบในด้านมูลค่าต่ำ เพิ่มการผลิตหายไปในตลาดบ้าน ความพยายามในช่วงแรกของรัฐบาลในการจัดให้มีการศึกษาขั้นพื้นฐานในวงกว้างก็ได้รับผลสำเร็จเช่นกันในช่วงเวลานี้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษสำหรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น เนื่องจากมีแรงงานจำนวนมากที่มีการศึกษาขั้นพื้นฐานและทักษะ และมีต้นทุนแรงงานที่แข่งขันได้ อย่างไรก็ตาม สองในสามของคนงานยังคงถูกจ้างงานในภาคเกษตรกรรมในช่วงต้นทศวรรษ 1990 การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในประเทศไทยยังนำไปสู่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกิดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ประเทศไทยประสบอุทกภัยและภัยแล้งบ่อยครั้งและรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอย่างมาก มลพิษทางอากาศและน้ำยังคงเป็นปัญหาร้ายแรง โดยเฉพาะในเขตอุตสาหกรรม การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ OECD

กระตุ้นเศรษฐกิจรวม 5 แสนล้านบาท หรือ 14 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่รัฐบาลโบกมือมาบ้างแล้ว ในที่สุดก็ยอมรับว่าจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อสนับสนุนโครงการบัตรกำนัลนี้ การพัฒนาสมัยใหม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านของสังคมไทย ผลกระทบเชิงบวกของการพัฒนา ได้แก่ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าด้านวัสดุและสาธารณูปโภค ระบบการสื่อสารที่ทันสมัย ​​และการปรับปรุงและการขยายการศึกษา อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์เหล่านี้บางส่วนไปถึงพื้นที่ชนบทหรือผู้ด้อยโอกาสในสังคม การฟื้นตัวได้รับการสนับสนุนจากการเก็บรายได้ที่ดีและการผสมผสานนโยบายการคลังและนโยบายการเงินที่ครอบคลุมและทันท่วงที ซึ่งควรดำเนินการในเชิงรุกและรอบคอบต่อไป ตามลำดับ Arkhom กล่าว “การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องของธนาคารกลาง … แต่จะมีนโยบายเพิ่มเติมนอกเหนือจากกระเป๋าเงินดิจิทัล”

ฉันจะปรับประมาณการของ IMF แบบง่ายๆ หากสินเชื่อภาคเอกชนเติบโต 1.3% เหมือนปี 2566 ไม่ใช่สมมติฐานที่ไม่สมจริงที่ 3.8% ตามแบบจำลองของ IMF เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 1.9% แทนที่จะเป็น four.4% แน่นอนว่าการเติบโตที่ปรับแล้ว 1.9% รวมถึงผลกระทบของ DW ด้วย ให้เราสมมติต่อไปว่า DW จะไม่เกิดขึ้นในปี 2567 การเติบโตของ GDP ไทยจะลดลงอีกเหลือ 1.4% อืม. บังเอิญที่ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของฉันที่การเติบโต 1.5% ถึง -1.5% ในปี 2567 โดยมีกรณีพื้นฐานที่การเติบโต 0% เราประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะถึงจุดสูงสุดในเดือนเมษายน แต่จะระบาดไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ดังนั้นเราจึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะยังคงอ่อนแอ กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศจะถูกจำกัด และจะมีมาตรการกักกันที่เข้มงวดขึ้นอย่างน้อย 2 เดือนข้างหน้า โมเดล SIR ชี้ยอดผู้ติดเชื้อในไทยจะทะลุ 20,000 รายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากมาตรการกักกันไม่เพียงพออาจถึง eighty,000 คนได้ แบบจำลองนี้ชี้ให้เห็นว่าการระบาดในประเทศจะถึงจุดสูงสุดในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน และจะควบคุมได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม

ประเทศไทยไม่มีข้อตกลงการยอมรับและการบังคับใช้ซึ่งกันและกันกับประเทศอื่นๆ การบังคับใช้คำตัดสินจากต่างประเทศจำเป็นต้องมีการดำเนินคดีทางกฎหมายใหม่ โดยที่หลักฐานจะได้รับการพิจารณาและมีการป้องกันทางกฎหมายสำหรับทั้งสองฝ่าย ขั้นตอนเบื้องต้นของการดำเนินการทางกฎหมายสามารถดำเนินการได้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงฉันมิตรกับลูกหนี้ได้ ระยะนี้รวมถึงการสื่อสาร การเจรจา การประชุมกับลูกหนี้ หนังสือทวงถาม และการแจ้งตำรวจในกรณีที่มีโทษทางอาญา แม้จะลงมติเห็นชอบมติประณามรัสเซียครั้งแรก แต่ไทยงดออกเสียงในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน พ.ศ. สำรวจศูนย์กลางนักลงทุนสัมพันธ์ของ Coface เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกทางการเงิน รายงาน และการอัปเดตที่ครอบคลุม ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและความมั่นคงทางการเงินของเรา กลุ่มอุตสาหกรรมท้องถิ่นระบุ การผลิตรถยนต์ในศูนย์กลางรถยนต์ระดับภูมิภาคของประเทศไทยลดลง 19.28% ในเดือนกุมภาพันธ์จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของการผลิตรถปิคอัพและรถยนต์ไฟฟ้านำเข้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น

สินค้านำเข้าหลักของไทยจากเนเธอร์แลนด์คือสินค้าอุตสาหกรรม ในปี 2566 สินค้านำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน สารเคมี ผลิตภัณฑ์ยาและเภสัชกรรม และเครื่องจักรไฟฟ้าและชิ้นส่วน สินค้านำเข้าทางการเกษตรที่สำคัญจากเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์แปรรูป นมและผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารอื่นๆ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังเนเธอร์แลนด์ก็เน้นไปที่สินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน หม้อแปลงไฟฟ้า วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนไฟฟ้า ตลอดจนเครื่องพิมพ์และชุดโทรศัพท์ สำหรับสินค้าเกษตร สินค้าส่งออกที่สำคัญในปี 2566 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยางและสัตว์ปีกแปรรูป อย่างไรก็ตาม ระดับ GDP ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นจะสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในบางส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก ดังนั้น นโยบายที่สำคัญสำหรับประเทศจะต้องเปลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิตส่งออกไปสู่กระบวนการแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงต่อไป อัตราเงินเฟ้อ CPI ทั่วไปของประเทศไทยเพิ่มขึ้น zero.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม 2566 เทียบกับ 0.4% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม 2566 และสูงสุดล่าสุดที่ 7.9% ต่อปีในเดือนสิงหาคม 2565 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคาร ประเทศไทยตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก zero.25% จาก 2.25% เป็น 2.50% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 27 กันยายน 2566 ส่งผลให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวมเป็น 200 bps ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5 ขั้นในปี 2566 ตามมาด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp สามครั้งโดยกนง.

นอกจากนี้ วัฒนธรรมยังเป็นสิ่งที่ขายได้เสมอหากเรารู้จักให้คุณค่ากับมัน ด้วยการสนับสนุนพลังอ่อน เราสามารถพัฒนาและขยายศักยภาพของมันต่อไปได้ ไม่ใช่แค่แหล่งรายได้และเป็นสิ่งที่จำกัดอยู่เพียงผลิตภัณฑ์หรือองค์ประกอบทางวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่งเท่านั้น เราต้องพิจารณาภาพที่ใหญ่ขึ้นและไม่ยอมให้กำลังถูกจำกัด แต่ต้องขับเคลื่อนอย่างมั่นคง แต่นุ่มนวล และไม่ยอมให้เป้าหมายเป็นศัตรูกัน หากต้องการดำเนินการต่อ ให้อัปเกรดเป็นเบราว์เซอร์ที่รองรับ หรือดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ประเทศไทยถูกครอบงำโดยผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นมายาวนาน เช่น โตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ โดยประเทศไทยได้เห็นกระแสการลงทุนจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน รวมถึงบีวายดี และเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลได้เสนอให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงพลังงานสะอาด one hundred เปอร์เซ็นต์สำหรับโรงงานในประเทศไทยซึ่งอาจครอบคลุมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและการผลิตแบตเตอรี่

2550[59] แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของทักษิณไม่ได้รับการกล่าวถึงจนกระทั่งปี 2554 เมื่อน้องสาวของเขา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่ง ในปี 2550 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 5 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 รัฐบาลทหารได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป พรรคพลังประชาชนที่สนับสนุนทักษิณ นำโดยสมัคร สุนทรเวช ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคประชาธิปัตย์ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเราพูดถึงการปรับสมดุลการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยห่างจากการส่งออกและการบริโภคด้วยวิธีที่ยั่งยืนและระยะยาว ทั้งสองสิ่งนี้ (ค่าจ้างที่สูงขึ้น หนี้สินน้อยลง) จะมีความสำคัญมากกว่าการจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจแบบครั้งเดียว การสนทนาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่แผนกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่การวัดที่แท้จริงของการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับความจริงจังและมีประสิทธิภาพของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกซึ้งเหล่านี้ ประเทศไทยยังเห็นส่วนแบ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างยุติธรรม ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 6 คน การทำรัฐประหาร การจับกุมโดยผู้ประท้วงสนามบินนานาชาติ และการเผาศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะยังคงมีเสถียรภาพก็ตาม แต่ละครั้ง ตลาดการเงินของประเทศไทยมักจะเป็นลมและฟื้นตัว รัฐบาลไทยมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงความเกี่ยวข้องทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีผลกระทบอย่างจำกัดต่อการค้าหรือการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การเติบโตที่แข็งแกร่งของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงราคานำเข้าพลังงานที่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มการเติบโตของการนำเข้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.3% ในปี 2565 ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 5.5% วัดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าลดลงจาก 32.four พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เหลือ 10.eight พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565

2540 (รูปที่ 2.1 แผง A) อัตราการเติบโตที่แท้จริงที่สูงมากที่ประมาณ 8% ยังคงอยู่ได้โดยไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบแม้แต่ปีเดียว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยโลกจะสูงเป็นครั้งคราว การเปลี่ยนแปลงของน้ำมัน และความต้องการสินค้าส่งออกของไทยที่ลดลงตามวัฏจักร ภายในปี 1997 เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่กว่าปี 1960 มากกว่า 10 เท่า 2551 ทำให้เกิดการว่างงานและความไม่เท่าเทียมกันทางรายได้เพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง การพัฒนาเศรษฐกิจนำโดยการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการเกิดขึ้นของศูนย์กลางอุตสาหกรรม รูปแบบการพัฒนาของประเทศไทยเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระยะยาวจากการเกษตรสู่อุตสาหกรรม โดยเริ่มแรกด้วยนโยบายทดแทนการนำเข้า และต่อมาเน้นที่การส่งเสริมการส่งออกและนโยบายอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับนักลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสามของประชากรยังคงมีส่วนร่วมในภาคเกษตรกรรม และยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าประชากรเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีรายได้ต่ำที่สุดในประเทศอยู่แล้ว จะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกต่อไป หน้าที่ของพวกเขายังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เช่น ในด้านความมั่นคงทางอาหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (กรีเสิร์ช) แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2566 ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงอัตราการเติบโตของ GDP ปี 2566 ไว้ที่ three.7% และการส่งออกเติบโตที่ -1.2% พร้อมปรับลดคาดการณ์การบริโภคและการลงทุนภาครัฐ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในขณะเดียวกัน ความกังวลยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความรุนแรงของภัยแล้งที่กำลังดำเนินอยู่และหนี้ครัวเรือนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข การเพิ่มการจ้างงานโดยรวมเป็นอีกช่องทางหนึ่งโดยตรงที่สามารถเพิ่มรายได้และเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายของครัวเรือน ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่การฟื้นตัวของการบริโภคที่แข็งแกร่งขึ้น การวิเคราะห์โดยวิจัยกรุงศรีแสดงให้เห็นว่าเนื่องจากพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่ใช้แรงงานเข้มข้นของเศรษฐกิจในประเทศไทย ระดับการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 1% ในกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือจะส่งผลให้ค่าจ้างในอุตสาหกรรมสิ่งทอเพิ่มขึ้น zero.28% และค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.27% ในการก่อสร้าง และค่าจ้างในภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น zero.26% นอกจากนี้ การเพิ่มการจ้างงานโดยรวมยังจะเพิ่ม 0.2% ให้กับ GDP

ความแตกต่างของผลกระทบด้านลบจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจต่อครัวเรือนไทยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่อัตราเงินเฟ้อและรายได้เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงความแตกต่างในการบริโภคด้วย และการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ดังนั้น ครัวเรือนในกลุ่มรายได้ปานกลางถึงบนสามารถคาดหวังได้ว่าระดับรายจ่ายของตนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และสำหรับกลุ่มเหล่านี้ การบริโภคมีแนวโน้มที่จะกลับสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดในปี 2565 อย่างไรก็ตาม สำหรับครัวเรือนที่ยากจนที่สุด 40% การฟื้นตัวของการบริโภคจะล่าช้าออกไปอีก (รูปที่ 11) วิจัยกรุงศรียังได้ประเมินกำลังซื้อของภาคครัวเรือนตลอดปี 2565 โดยอิงตามการคาดการณ์ค่าจ้างจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ผู้มีรายได้น้อยที่สุดสามารถคาดหวังว่าค่าจ้างที่แท้จริงจะลดลง -1.3% ในปีนี้ แต่ผู้มีรายได้สูงสุดสามารถตั้งตารอที่ zero.7 % การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่แท้จริง นอกจากนี้ แม้ว่ากลุ่มรายได้ครัวเรือนทุกกลุ่มจะพบว่ารายได้ลดลงเมื่อเทียบกับยุคก่อนโควิด-19 แต่การลดลงนี้เห็นได้ชัดเจนที่สุดสำหรับกลุ่มที่ยากจนที่สุด และสิ่งนี้สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันและความไม่เท่าเทียมกันของการฟื้นตัว และการดำรงอยู่ของความแตกต่างที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ระดับการบริโภคในครัวเรือน ถึงกระนั้นก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศหลักๆ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาที่สูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในปีหน้า ตลาดส่งออกหลักของประเทศไทยคาดว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 การคาดการณ์ล่าสุดของ IMF แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของไทยชะลอตัวลงอย่างมาก การส่งออกบริการซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของไทยกำลังฟื้นตัว ถึงกระนั้น ก็อาจเป็นอย่างน้อยในปี 2024 ก่อนที่ตัวเลขเหล่านี้จะมีแนวโน้มเข้าใกล้ระดับก่อนเกิดโรคระบาด เมื่อประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวขาเข้าเกือบ forty ล้านคน และรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน fifty seven พันล้านดอลลาร์จากภาคส่วนนี้ นี่เป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยในอดีต และมีแนวโน้มว่าจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกมากในปี 2566 คำถามคือ มันจะเพียงพอหรือไม่ ประการหนึ่ง เศรษฐกิจไทยสร้างขึ้นจากการส่งออกมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งหมายถึงการส่งออกบริการ เช่น การท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ประเทศไทยไม่มีทรัพยากรธรรมชาติสำหรับการส่งออกมากนัก ดังนั้นจึงไม่สามารถขับเคลื่อนการเติบโตของสินค้าโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่ในลักษณะที่มาเลเซียและอินโดนีเซียที่อุดมด้วยทรัพยากรสามารถทำได้ การบริโภคภาคครัวเรือนไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก และผู้บริโภคก็ประสบปัญหาในการรับช่วงที่ซบเซาเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้ง หนี้ภาคเอกชนในระดับสูงที่ 201.9% ต่อ GDP ณ ไตรมาส 2/2566 (178.4% ต่อ GDP จากการกู้ยืมในประเทศ และ 23.5% ต่อ GDP จากการกู้ยืมจากต่างประเทศ) จะเกินความสามารถของผู้กู้ในการชำระหนี้ การชำระคืนเงินกู้กับสถาบันการเงินในประเทศสามารถเลื่อนออกไปได้ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ แต่การชำระคืนเงินกู้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้นิติบุคคลและเจ้าหนี้ต่างประเทศไม่สามารถทำได้ การชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทจำนวน 890 พันล้านบาทจะครบกำหนดในปี 2567 (ไม่รวมเอกสารเชิงพาณิชย์ 2.seventy five พันล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระภายใน 270 วัน) และเงินกู้ระยะสั้นต่างประเทศจำนวน fifty eight พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) ก็จะครบกำหนดในปีนี้เช่นกัน

2502[44] รัฐบาลพิบูลสงครามยังได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการคลังของประเทศครั้งสำคัญ รวมทั้งยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตรา หันมาใช้ระบบคงที่และเป็นเอกภาพซึ่งใช้มาจนถึง พ.ศ. 2527 นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ต่อต้านการค้าและดำเนินการทางการฑูตลับกับสาธารณรัฐประชาชน ของจีน ทำให้สหรัฐฯ ไม่พอใจ ปี 2566 ไม่ได้เป็นปีที่สดใสของเศรษฐกิจไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตร้อยละ 3.6 ในปีนี้ แต่ตัวเลขดังกล่าวได้รับการแก้ไขในภายหลังเหลือร้อยละ 2.8 สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจไทยสร้างขึ้นจากการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2021 ผู้กำหนดนโยบายหวังว่าการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งในภาคการท่องเที่ยวจะเป็นพลังขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาด แต่จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามขนาดที่จินตนาการไว้ โดยอุปสงค์ทั่วโลกยังคงอ่อนแอ เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบกฎหมายและสถาบันภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี และแผนพัฒนา 5 ปีล่าสุด รัฐบาลได้นำเสนอแนวคิดการพัฒนา ‘ประเทศไทย four.0’ ประเทศไทย four.zero เป็นทางลัดไปสู่วิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่าและนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปเป็นการส่งเสริมเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นและการบริการที่เพิ่มมากขึ้น เป็นความทะเยอทะยานของประเทศไทยในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจาก ‘ประเทศไทย 1.0’ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ภาคเกษตรกรรม ไปจนถึงอุตสาหกรรมเบา ๆ ด้วย ‘ประเทศไทย 2.zero’ ซึ่งประเทศไทยได้ประโยชน์จากต้นทุนแรงงานที่ต่ำ ไปจนถึง ‘ประเทศไทย three.zero’ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความซับซ้อนมากขึ้น อุตสาหกรรมดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออก วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 คาดว่าจะทำให้การเติบโตในระยะยาวนี้ต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน เศรษฐกิจคาดว่าจะหดตัวประมาณ 7% ในปี 2563 โดยการส่งออกและ FDI คาดว่าจะชะลอตัวมากยิ่งขึ้น รัฐบาลได้ออกมาตรการที่หนักแน่นเพื่อจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจสำหรับบุคคล ธุรกิจ และเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของ GDP ซึ่งสูงที่สุดในเอเชีย

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ ตลาดตราสารหนี้ของประเทศไทยเติบโตจาก 12% ของ GDP ในปี 1997 เป็น 94% ของ GDP ณ เดือนกันยายน 2021 บาทเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของประเทศไทยและแบ่งออกเป็น 100 สตางค์ ในปี 2561 Bloomberg ยกให้เงินบาทเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปี 2023 เมื่อวันอังคาร หลังจากที่จีนผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส (Covid-19) อย่างกะทันหันและการเปิดพรมแดนอีกครั้ง ทำให้โอกาสของภูมิภาคสดใสขึ้น…. ♦ เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์;♦ เชื้อเพลิงแร่ รวมถึงน้ำมัน;♦ เครื่องจักรอุตสาหกรรม;♦ เครื่องประดับและโลหะมีค่า;♦ โลหะที่เป็นเหล็ก รวมทั้งเหล็ก;♦ ยานพาหนะ;♦ พลาสติก รวมถึงของที่ทำด้วยโลหะดังกล่าว;♦ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะที่เป็นเหล็ก;♦ ออปติคอล เทคนิค อุปกรณ์การแพทย์ ♦ เคมีอินทรีย์ ข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานนโยบายการเงินเดือนพฤษภาคม 2566 สามารถดูได้ที่ /th/our-roles/monetary-policy/mpc-meeting.html

ประกาศใช้ แก้ปัญหาความเปราะบางจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้ควรควบคู่ไปกับความพยายามในการลดความเสี่ยงของผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโยกย้ายกิจกรรมการให้กู้ยืมไปยังภาคส่วนที่มีการควบคุมน้อยและนอกระบบ ความท้าทายเชิงโครงสร้างต่างๆ อาจขัดขวางความสามารถของประเทศไทยในการฟื้นฟูการเติบโตในระยะยาว ผลผลิตซึ่งถูกจำกัดโดยภาคส่วนนอกระบบขนาดใหญ่ ได้ลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เศรษฐกิจจะกลายเป็นสังคม “ผู้สูงอายุขั้นสูง” ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ช่องว่างด้านโครงสร้างพื้นฐานยังคงมีขนาดใหญ่เช่นกัน นอกจากนี้ ประเทศยังต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์เศรษฐกิจด้านการค้าและการลงทุนที่กำลังดำเนินอยู่ ตลอดจนจัดการกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิงคโปร์ sixteen สิงหาคม 2566 – เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวและการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อซึ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2565 ได้ลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยังไม่แน่นอนเนื่องจากการพัฒนาทางการเมืองภายในประเทศและปัญหาภายนอกที่อาจเกิดขึ้น ในระยะยาว ประเทศไทยถูกรุมเร้าด้วยความท้าทายเชิงโครงสร้างและศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวที่อ่อนแอลง ควบคู่ไปกับความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทางภูมิศาสตร์และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังดำเนินอยู่ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่า 1% แต่ค่าจ้างจริงที่ต่ำยังคงอยู่แม้จะมีการว่างงานเพียงเล็กน้อยก็ตาม การรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยสัญญาว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมถึงการแจกเงินทั่วโลกที่มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางแต่ล่าช้า และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจำนวนมาก การนำโปรแกรม ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ มาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เงิน 10,000 บาทต่อพลเมือง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลทางเศรษฐกิจและความสามารถในการจ่ายที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีในปัจจุบันของประเทศไทย ย้อนกลับไปถึงปี 2563 รายงานของธนาคารโลกเตือนว่า “หากแนวโน้มในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่มีการฟื้นตัวของการลงทุนและการเติบโตของผลิตภาพอย่างมีนัยสำคัญ อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของประเทศไทยจะยังคงต่ำกว่าร้อยละ 3 เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้มีรายได้สูง ภายในปี 2580 ประเทศไทยจะต้องรักษาอัตราการเติบโตในระยะยาวให้สูงกว่าร้อยละ 5 ซึ่งจะต้องมีอัตราการเติบโตของผลผลิตที่ร้อยละ 3 และเพิ่มการลงทุนเป็นร้อยละ 40 ของ GDP”

โครงการริเริ่ม ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความต้องการ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจผิดพื้นฐานของปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ในมุมมองของผู้เขียนคนนี้ สาเหตุของความซบเซาทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานนั้นอยู่ที่ด้านอุปทาน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือการลงทุนภาคเอกชนไม่เพียงพอ และการขาดการปฏิรูปเพื่อเพิ่มผลิตภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในเอเชีย “เรากำลังทำทุกอย่างที่เราทำได้” พรอมมินกล่าว โดยอ้างถึงมาตรการต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวปลอดวีซ่า และนโยบายเพื่อจัดการกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในอัตราส่วน 91 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ นอกจากการลดค่าเงินแล้ว รัฐบาลยังมุ่งสู่ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการส่งออก การคุ้มครองลดลงด้วยการลดภาษี การผ่อนคลายการควบคุมราคา และการยกเลิกภาษีส่งออก นอกจากนี้ การส่งออกยังได้รับการส่งเสริมโดยการยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าส่งออก ด้วยพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอได้เปลี่ยนแปลงไปเพื่อรองรับโครงการที่มุ่งเน้นการส่งออก และธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกวงเงินสินเชื่อพิเศษสำหรับผู้ส่งออก โดยทั่วไป นโยบายเศรษฐกิจมหภาคมุ่งเน้นไปที่ตลาดด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นและมีข้อจำกัดด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย การระบาดของโควิด-19 กำลังสร้างแรงกดดันใหม่ต่อความไม่เท่าเทียมกันด้านรายได้และความมั่งคั่งในประเทศไทย วิกฤตการณ์ทั้งในปี 2540 และ 2551 นำไปสู่การว่างงานที่เพิ่มขึ้นและความไม่เท่าเทียมกันทางรายได้ และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง กรมการจัดหางานรายงานการสูญเสียงานอย่างมีนัยสำคัญแล้ว (Asadullah และ Bhula-or, 2020) ผู้ที่มีสภาพการจ้างงานนอกระบบและไม่มั่นคง รวมถึงผู้ที่มีธุรกิจครอบครัวขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบมากที่สุด รัฐบาลได้ออกมาตรการสำคัญเพื่อจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ภาคครัวเรือนต้องเผชิญ (ดูกล่อง 2.1)

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย และมีสถานะมีรายได้ปานกลางถึงสูง โดยทำหน้าที่เป็นจุดยึดทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนา เศรษฐกิจของประเทศดูมีความยืดหยุ่น และจากข้อมูลของ IMF ระบุว่าการเติบโตคาดว่าจะอยู่ที่ 2.7% ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่า 2.6% ในปีก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากการหดตัวของการลงทุนและการส่งออกสินค้าที่เกิดจากการชะลอตัวของอุปสงค์จากภายนอก ช่วยชดเชยภาคเอกชนที่แข็งแกร่งได้บางส่วน การเติบโตของการบริโภคตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การคาดการณ์การเติบโตในปี 2567 อยู่ที่ three.2% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายนอกที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตที่แข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน ตามมาด้วย 3.1% ในปี 2565 (IMF) ในปี 2542 ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของ GDP เป็นบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ [ต้องการอ้างอิง] อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์หลายคนไม่ไว้วางใจ IMF และยืนยันว่าการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลส่งผลเสียต่อการฟื้นตัว พวกเขายืนยันว่าวิกฤตการเงินในเอเชียแตกต่างจากปัญหาเศรษฐกิจในละตินอเมริกาและแอฟริกาในภาคเอกชนและมาตรการของ IMF ไม่เหมาะสม อัตราการเติบโตเชิงบวกในปี 2542 เป็นเพราะ GDP ของประเทศลดลงเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน มากถึง -10.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2541 เพียงปีเดียว ในแง่ของเงินบาทนั้น จนกระทั่งปี 2545 (ในรูปดอลลาร์ ไม่ถึงปี 2549) ที่ประเทศไทยจะสามารถฟื้น GDP ในปี 2539 ได้ เงินกู้เพิ่มเติมจากแผนมิยาซาวะในปี 2542 ทำให้เกิดคำถามว่า (หรือมากน้อยเพียงใด) รัฐบาลหลีกภัยได้ช่วยเหลือเศรษฐกิจไทยให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ การพัฒนาอุตสาหกรรมมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการพึ่งพากันทางเศรษฐกิจภายในระบบเศรษฐกิจ ระหว่างปี พ.ศ. 2553 อุตสาหกรรมของประเทศไทยมีความลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมโยงโดยรวมโดยเฉลี่ย ความเชื่อมโยงย้อนหลังสำหรับภาคการผลิตมีมากกว่าภาคเกษตรกรรม ภาคปฐมภูมิ และภาคบริการ การปรับปรุงการเชื่อมโยงย้อนกลับในภาคเกษตรและภาคปฐมภูมิสอดคล้องกับการปรับปรุงการเชื่อมโยงไปข้างหน้าในภาคบริการ ด้วยการเติบโตของการค้าภายในอุตสาหกรรมของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างได้รับแรงผลักดันจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการผลิต เมื่อเทียบกับภาคเกษตรกรรมและภาคปฐมภูมิตลอดจนภาคบริการ การเชื่อมโยงย้อนกลับและไปข้างหน้าแบบคงที่ในภาคการผลิตบ่งชี้ถึงการพึ่งพาการนำเข้าอย่างต่อเนื่องและภาคเกษตรกรรม ปฐมภูมิ และบริการอย่างเท่าเทียมกันสำหรับความต้องการปัจจัยการผลิต และการพึ่งพาตลาดส่งออกอย่างแข็งแกร่งเพื่อการเติบโต อัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านการบริการเพิ่มขึ้น eleven.1% ต่อปี เนื่องจากการใช้จ่ายในโรงแรมและร้านอาหารที่คึกคัก อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 2.6% ต่อปี ในขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัว 4.7% ต่อปี

โบรชัวร์สถิติพื้นฐานนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางสังคม เศรษฐกิจ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น ประชากร ความยากจน อัตราการเติบโตต่อปีของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ และการเงินของรัฐบาลสำหรับเศรษฐกิจในเอเชียและแปซิฟิก แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มเชิงบวกอย่างระมัดระวัง แม้ว่าความเสี่ยงด้านลบยังคงอยู่ แต่ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานที่ผ่อนคลายลงและโอกาสที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อเร็วขึ้นอาจนำไปสู่การเติบโตที่สูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายมากเกินไปอาจส่งผลย้อนกลับในภายหลัง โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้แนวทางที่สมดุล ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในการลดความยากจนจาก 58% ในปี 2533 เป็น 6.8% ในปี 2563 โดยได้แรงหนุนจากอัตราการเติบโตที่สูงและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แต่ 79% ของคนจนยังคงอยู่ในพื้นที่ชนบทและส่วนใหญ่อยู่ในครัวเรือนเกษตรกรรม การลดความยากจนของประเทศไทยชะลอตัวตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป โดยความยากจนเพิ่มขึ้นในปี 2559 2561 และ 2563 สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายได้ภาคเกษตรกรรมและธุรกิจที่ซบเซา และวิกฤตโควิด-19 โดยพบว่าในปี 2020 อัตราความยากจนในพื้นที่ชนบทสูงกว่าในเขตเมืองถึง three เปอร์เซ็นต์ และจำนวนคนจนในชนบทมีมากกว่าคนจนในเมืองเกือบ 2.3 ล้านคน การกระจายตัวของความยากจนยังไม่สม่ำเสมอทั่วทั้งภูมิภาค โดยมีอัตราความยากจนในภาคใต้และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบสองเท่าของอัตราความยากจนในระดับชาติ 2548 ประเทศไทยใช้ไฟฟ้าประมาณ 118 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง การบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในปี 2549 เป็น 133 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (การไฟฟ้าแห่งชาติ) ระบุว่า การใช้พลังงานของผู้ใช้ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราที่น่าพอใจสำหรับลูกค้าที่อยู่อาศัยมากกว่าในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ บริษัทสาธารณูปโภคไฟฟ้าและปิโตรเลียมของประเทศไทย (รวมถึงการควบคุมโดยรัฐด้วย) กำลังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างใหม่ แม้ว่าไตรมาสที่สี่จะชะลอตัวลง แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็คาดว่าจะได้รับแรงผลักดัน ด้วยการที่จีนเปิดทำการเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงการช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบบางส่วนจากการส่งออกที่อ่อนแอลง ในปี 2562 ประเทศไทยมีการส่งออกการท่องเที่ยวมูลค่า 59.eight พันล้านดอลลาร์ ตลอดช่วงหกเดือนแรกของปี 2566 ตัวเลขดังกล่าวมีมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังก้าวไปอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศประมาณครึ่งหนึ่งในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด สำหรับประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ถือว่าค่อนข้างดี แต่ในประเทศไทย จากการที่ภาคส่วนนี้ต้องทำงานหนักเพื่อเศรษฐกิจทั้งหมดก็ยังไม่เพียงพอ

การดำเนินคดีของศาลเพื่อกำจัดพิต้าหรือคณะรัฐมนตรีของเขาอาจกระตุ้นให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ เมื่อคำนึงถึงความนิยมของพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยอายุน้อย Arkhom กล่าวว่าการรวบรวมรายได้ยังแสดงให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในปีงบประมาณ 2565 และคาดว่าจะเกินระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปีงบประมาณ 2566 เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 274,000 คน เทียบกับ eleven ล้านคนในช่วงก่อนการแพร่ระบาดในปี 2019 หรือประมาณ 28% ของทั้งหมด ประการที่สาม ความเร็วและลักษณะพิเศษของการเติบโตของประเทศไทยทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของประเทศในการรักษาโมเมนตัมในปัจจุบัน นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกแบบโปรแกรมอาชีวศึกษาหลากหลายประเภท ได้แก่ อาชีวศึกษาและการฝึกอบรมทวิภาคี สหกิจศึกษา Work-Integrated Learning (WiL) และ Talent Mobility (TM) เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานไทยมีทักษะที่เหมาะสมและเป็น สามารถตอบสนองความต้องการของงานในอนาคตได้ โดยเฉพาะในเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และ AI

เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ความเสี่ยงด้านลบต่อการเติบโตได้ลดลง อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มภาพรวมก็เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานเป็นความเสี่ยงด้านลบที่อาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ ในด้านภายนอก การฟื้นตัวที่ซบเซาในจีนอาจขัดขวางการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรปอาจทำให้ความต้องการส่งออกภาคการผลิตของไทยลดลงอีก การเติบโตของ GDP เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.7 ในไตรมาสก่อน และระดับผลผลิตได้เกินระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด หลังจากเติบโตร้อยละ 2.6 ในปี 2565 การเติบโตคาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2566 และร้อยละ three.9 ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัว และได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น ความท้าทายที่สำคัญประการหนึ่งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ก็คือการที่ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้ภาระค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพและสวัสดิการสังคมเพิ่มขึ้นในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ซึ่งจะเป็นตัวฉุดรั้งอัตราการเติบโตในระยะยาวของประเทศไทย ทำให้มีการลงทุน ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีความสำคัญมากขึ้นในการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของประชากรศาสตร์

ด้วยพนักงานมากกว่า one hundred ninety คนที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและในชุมชน สำนักงานในประเทศไทยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคที่สำคัญ สนับสนุนโครงการของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เช่น เมียนมาร์ สปป. ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเตรียมการอัพเดตการวินิจฉัยประเทศอย่างเป็นระบบสำหรับประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุลำดับความสำคัญของนโยบายที่สำคัญสำหรับประเทศไทยเพื่อให้บรรลุการเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืน และจะทำหน้าที่เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์สำหรับความร่วมมือครั้งใหม่ของกลุ่มธนาคารโลกกับรัฐบาลไทย การแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งของประเทศไทยล่าสุดในปี 2563 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 จะทำให้ทุกฝ่ายสามารถยื่นเรื่องเพื่อให้มีการไกล่เกลี่ยภายใต้การดูแลของศาลได้ก่อนยื่นฟ้องจริง การสนับสนุนการไกล่เกลี่ยก่อนยื่นเรื่องร้องเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่อประหยัดเวลาและทรัพยากรที่อาจนำไปใช้ในการพิจารณาคดี ขั้นตอนการทำสมาธิที่นำมาใช้โดยพระราชบัญญัติใหม่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลใดๆ ยกเว้นค่าธรรมเนียมไปรษณีย์ในการส่งจดหมายถึงลูกหนี้ 2558 ลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดาหรือผู้ค้ำประกันส่วนบุคคล พระราชบัญญัตินี้จัดทำขึ้นเพื่อควบคุมกิจกรรมการเรียกเก็บเงินที่ดำเนินการโดยเจ้าหนี้หรือโดยหน่วยงานเรียกเก็บเงินในกรณีหนี้ผู้บริโภค สถาบันทวงถามหนี้เพื่อการพาณิชย์ก็คาดหวังให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติด้วย ตัวอย่างเช่น ในระหว่างระยะฉันมิตร เจ้าหนี้สามารถสื่อสารกับลูกหนี้หรือบุคคลอื่นตามที่ลูกหนี้อนุญาตเท่านั้น เจ้าหนี้หรือหน่วยงานติดตามหนี้ยังจำกัดการระบุตนเองพร้อมรายละเอียดหนี้ของลูกหนี้ด้วย ดูภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญที่จำเป็นต่อการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในประเทศรวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไว้โดยสรุป ด้วยการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน หน่วยงานคาดว่าประเทศไทยจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 23.5 ล้านคนที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

รัฐบาลคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะบรรลุเป้าหมาย 5 ล้านคนในปีนี้ ด้วยการใช้จ่าย 446 พันล้านบาท (13.18 พันล้านดอลลาร์) โฆษกรัฐบาล อนุชา บูรพาชัยศรี กล่าวในแถลงการณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีคลังที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง กล่าวปาฐกถาในฟอรัมธนาคารโลกเมื่อวันจันทร์ เศรษฐกิจได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและอยู่บนเส้นทางที่แข็งแกร่งในการฟื้นตัว ทำเครื่องหมายการมีส่วนร่วมว่าไม่มีประโยชน์ หากคุณพบว่าไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีคุณค่าต่อบทความ ความคิดเห็นนี้เป็นแบบส่วนตัวสำหรับคุณและจะไม่ถูกแชร์แบบสาธารณะ

ภาพรวมของจีน: ข่าวการพัฒนา การวิจัย ข้อมูล

ตั้งแต่ปี 1993 จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง น้ำมันนำเข้าคิดเป็น 20% ของน้ำมันดิบแปรรูปในจีน คาดว่าการนำเข้าสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านบาร์เรล (560,000 ลูกบาศก์เมตร) ต่อวันภายในปี 2553 จีนสนใจที่จะกระจายแหล่งที่มาของการนำเข้าน้ำมันและได้ลงทุนในแหล่งน้ำมันทั่วโลก จีนกำลังพัฒนาการนำเข้าน้ำมันจากเอเชียกลางและลงทุนในแหล่งน้ำมันของคาซัคสถาน ปักกิ่งยังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติของจีน ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นเพียง 3% ของการใช้พลังงานทั้งหมดของจีน และรวมกลยุทธ์ก๊าซธรรมชาติไว้ในแผนห้าปีที่ 10 (พ.ศ. 2544-2548) โดยมีเป้าหมายในการขยายการใช้ก๊าซจาก ส่วนแบ่ง 2% ของการผลิตพลังงานทั้งหมดเป็น 4% ภายในปี 2548 (ก๊าซคิดเป็น 25% ของการผลิตพลังงานของสหรัฐอเมริกา) นักวิเคราะห์คาดว่าการบริโภคก๊าซธรรมชาติของจีนจะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าภายในปี 2553 Posen ระบุปัญหาที่เศรษฐกิจจีนเผชิญอย่างถูกต้อง รวมถึงการบริโภคที่อ่อนแอ การลงทุนในธุรกิจที่โลหิตจาง หนี้ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในครัวเรือนชาวจีน แต่คำอธิบายของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาดนั้นพลาดไป โดยละเลยแหล่งที่มาเชิงโครงสร้างของความทรุดโทรมทางเศรษฐกิจของจีน หลังจากการล็อกดาวน์แบบ “ไม่มีโควิด” อย่างเข้มงวดเป็นเวลา three ปี นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่ชุดข้อมูลล่าสุดกลับชี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่น ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในเดือนกรกฎาคม เติบโตช้ากว่าคาด ในขณะเดียวกัน ความต้องการโดยรวมที่ลดลงได้สร้างความกดดันต่อภาวะเงินฝืดต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในที่สุด ด้วยการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้นของเครื่องมือทางเศรษฐกิจและข้อมูล ปักกิ่งพยายามอย่างแข็งขันในการกำหนดรูปแบบการเล่าเรื่องสาธารณะเกี่ยวกับอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนและสิ่งที่ขาดไม่ได้ ชนชั้นสูงทางการเมืองมักเชื่อว่าการลงทุนและการค้าของจีนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และมีความสำคัญมากกว่าพันธมิตรทางเศรษฐกิจอื่นๆ แม้ว่าข้อมูลจะแสดงเป็นอย่างอื่นก็ตาม ในระยะยาว สิ่งนี้อาจช่วยเพิ่มอิทธิพลทางเศรษฐกิจ (และการเมือง) ของจีนโดยการเน้นย้ำ (หรืออาจเกินจริง) ผลตอบแทนของการปฏิบัติตามผลประโยชน์ของปักกิ่ง ควบคู่ไปกับต้นทุนของการไม่ทำเช่นนั้น วาทกรรมของจีนเกี่ยวกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนจะต้องใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของตนในเศรษฐกิจโลก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเพื่อปกป้องความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน และยกระดับอุตสาหกรรมภายในประเทศ สิ่งนี้ชี้ไปที่ทั้งการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้อาวุธทางเศรษฐกิจ แต่ยังเน้นไปที่มาตรการป้องกันมากกว่ามาตรการเชิงรุก ในกรณีอื่นๆ การสร้างเขตเลือกตั้งที่สนับสนุนจีนประสบความสำเร็จในการโต้แย้งเกี่ยวกับวิธีการจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงกับปักกิ่ง ในเยอรมนีในปัจจุบัน เราเห็นอิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มธุรกิจที่ลงทุนในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องกับจีน เช่น Volkswagen, BMW และ BASF ควบคู่ไปกับการแบ่งแยกภายในระหว่างนักการเมืองและกระทรวงสำคัญเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีต่อจีน แม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนทางการเมืองโดยพื้นฐานต่อปักกิ่งในท้ายที่สุด แต่ระบบการปกครองทางเศรษฐกิจสามารถผลักดันให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ รวมถึงระหว่างประเทศต่างๆ ได้ จึงขัดขวางพันธมิตรที่มีประสิทธิผลที่ไม่เชื่อถือของจีน สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับมหาอำนาจที่เพิ่มขึ้นที่ต้องการลดการต่อต้านตลอดจนการปรับให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

“เราคาดว่าภาวะเงินฝืดจะสิ้นสุดในปี 2567 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะขยับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2024 การคาดการณ์ CPI เฉลี่ยของเราในปี 2024 อยู่ที่ zero.6% ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2% มาก” Zhu กล่าว การเคหะสาธารณะมีความสำคัญต่อความพยายามในการรักษาเสถียรภาพในระดับมหภาค มีความต้องการที่อยู่อาศัยสาธารณะและที่อยู่อาศัยให้เช่าเป็นจำนวนมากในกระบวนการสร้างเมืองใหม่ แต่ข้อจำกัดที่สำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐคือการขาดเงินทุน ความท้าทายในตลาดที่อยู่อาศัยมาจากทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ในด้านอุปสงค์ การเปลี่ยนแปลงปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ (การก่อตั้งครัวเรือนใหม่ อัตราการเกิด) การขยายตัวของเมือง การเป็นเจ้าของบ้าน และวัตถุประสงค์ในการซื้อบ้าน ล้วนชี้ให้เห็นว่าอุปสงค์บ้านใหม่เป็นและจะยังคงมีแนวโน้มลดลง โดยความต้องการในการอัพเกรดบ้านมีอย่างต่อเนื่อง ทดแทนความต้องการบ้านใหม่

ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ จำนวนสถานีฐาน 5G ทั้งหมดในประเทศจีนสูงถึง 3.51 ล้านสถานี คิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของจำนวนสถานีฐานมือถือทั้งหมด ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเผย เอกสารชุดนี้จากศูนย์พัฒนา OECD ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาโดยทั่วไปและในบางกรณีในบางประเทศ รวมถึงหนังสือของ Angus Maddison ที่มีการประมาณการ GDP ในอดีตในระยะยาวสำหรับพื้นที่ต่างๆ ของโลก Institute of China Economy เปิดตัว Distinguish Lecture Series โดยมีการบรรยายครั้งแรกในเดือนเมษายน และตามด้วยการบรรยายครั้งที่สองในเดือนสิงหาคม 2023 ซึ่งครอบคลุมความท้าทายและโอกาสที่สำคัญของเศรษฐกิจจีน ICE ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการประชุมประจำปีครั้งแรกเกี่ยวกับจีนและเศรษฐกิจโลกในวันที่ eight และ 9 พฤษภาคม 2023 การประชุมดังกล่าวนำเสนอข้อมูลเชิงลึกด้านการวิจัยทางเศรษฐกิจใหม่เกี่ยวกับจีนและการโต้ตอบระดับโลกที่มีการแบ่งปันโดยวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก การเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมยังอาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการใช้จ่ายอีกด้วย วิกเตอร์ ซือ ผู้อำนวยการศูนย์จีนแห่งศตวรรษที่ 21 แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ตั้งข้อสังเกตว่า หลี่ได้ประกาศในสุนทรพจน์ของเขาว่า เงินอุดหนุนค่าประกันสุขภาพทั่วไปจะเพิ่มขึ้น four ดอลลาร์ต่อคน แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะตามอัตราเงินเฟ้อได้

รัฐบาลจีนกำหนดให้นวัตกรรมมีความสำคัญสูงสุดในการวางแผนเศรษฐกิจผ่านโครงการริเริ่มที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น “Made in China 2025” ซึ่งเป็นแผนที่ประกาศในปี 2558 เพื่อยกระดับและปรับปรุงการผลิตของจีนใน 10 ภาคส่วนหลักผ่านความช่วยเหลืออย่างกว้างขวางจากรัฐบาล เพื่อให้จีนกลายเป็นผู้เล่นหลักระดับโลกในภาคส่วนเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าจีนตั้งใจที่จะใช้นโยบายอุตสาหกรรมเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศของประเทศ (รวมถึงการล็อกบริษัทต่างชาติในจีน) และครองตลาดโลกในที่สุด รัฐบาลจีนทำให้นวัตกรรมมีความสำคัญสูงสุดในการวางแผนเศรษฐกิจผ่านโครงการริเริ่มที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น “Made in China 2025” ซึ่งเป็นแผนที่ประกาศในปี 2558 เพื่อยกระดับและปรับปรุงการผลิตของจีนใน 10 ภาคส่วนหลักผ่านความช่วยเหลืออย่างกว้างขวางจากรัฐบาล เพื่อให้จีนกลายเป็นผู้เล่นหลักระดับโลกในภาคส่วนเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าจีนตั้งใจที่จะใช้นโยบายอุตสาหกรรมเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศของประเทศ (รวมถึงการล็อกบริษัทต่างชาติในจีน) และครองตลาดโลกในที่สุด พิจารณาว่าชุดนโยบายการคลังใหม่ของปักกิ่งไม่รวมถึงการสนับสนุนโดยตรงสำหรับการบริโภคหรือรายได้ของครัวเรือน เป้าหมายการขาดดุลงบประมาณอย่างเป็นทางการของจีนที่ร้อยละ 3 ของ GDP ในปี 2567 ส่วนใหญ่สอดคล้องกับเป้าหมายปี 2566 ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงการใช้จ่ายภาครัฐและการออกพันธบัตรในปัจจุบัน หมายความว่าปักกิ่งจะไม่ดำเนินนโยบายการคลังประเภทที่กระตุ้น การเจริญเติบโตภายในประเทศ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจีนยังคงให้สินเชื่อและทรัพยากรทางการเงินแก่การลงทุนในท้องถิ่น แทนที่จะโอนเงินโดยตรงไปยังครัวเรือนเพื่อเพิ่มการใช้จ่าย ในอดีต สีได้เยาะเย้ยการจ่ายเงินดังกล่าวว่าเป็น “สวัสดิการ” แต่จีนไม่สามารถขยายการบริโภคในครัวเรือนได้อย่างยั่งยืนในฐานะส่วนแบ่งของเศรษฐกิจโดยใช้เพียงมาตรการด้านอุปทานเท่านั้น ในที่สุด ทรัพยากรทางการคลังจะต้องย้ายจากรัฐไปยังภาคครัวเรือน และตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณว่ามีการโอนเกิดขึ้น นับตั้งแต่มีการปฏิรูปเศรษฐกิจของเติ้ง เสี่ยวผิง ประเทศจีนก็มีสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่าเศรษฐกิจแบบตลาดสังคมนิยม ซึ่งเป็นภาคที่มีภาครัฐวิสาหกิจที่มีอำนาจเหนือกว่าดำรงอยู่ควบคู่ไปกับระบบทุนนิยมตลาดและการเป็นเจ้าของเอกชน การสนับสนุนอย่างแข็งขันขององค์กรเอกชนตั้งแต่ปี 1978 ที่ทำให้จีนสามารถเริ่มต้นการขยายตัวอันยาวนานที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ปัจจุบันธุรกิจเอกชนผลิต GDP ของจีนมากกว่าครึ่งหนึ่งและส่งออกส่วนใหญ่ พวกเขายังสร้างงานใหม่ส่วนใหญ่ด้วย ความท้าทายระยะสั้นที่จีนกำลังเผชิญนั้นได้รับการบันทึกไว้อย่างดีและมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง ภาคอสังหาริมทรัพย์ ความเชื่อมั่นที่อ่อนแอ และหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นประเด็นหลักสามประเด็นที่มักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับแนวโน้มระยะสั้น และตลาดมักจะตัดสินนโยบายโดยพิจารณาว่ามีความก้าวหน้าที่จับต้องได้ในประเด็นเหล่านี้หรือไม่

ผู้ปกครองส่วนใหญ่ลงทุนอย่างมากในด้านการศึกษาของบุตรหลาน โดยหวังว่าจะมีอนาคตที่สดใสสำหรับคนรุ่นต่อไป ในสังคมเอเชียตะวันออก มีการมุ่งเน้นร่วมกันในการแสวงหาการศึกษาสำหรับคนรุ่นต่อไป ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันทางสังคมที่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ มากมาย ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัย 1.four พันล้านคน จีนจำเป็นต้องสร้างงานใหม่ 12 ล้านงานต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดการเลิกจ้างงาน แต่การสูญเสียงานไม่ได้แปลว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเสมอไป ช่วงไม่กี่ปีมานี้ อุตสาหกรรมเกิดใหม่ของจีนได้เติบโตขึ้น ซึ่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์อุตสาหกรรมอย่างครอบคลุม ผู้ที่เคยไปจีนจริงๆ ต่างประหลาดใจกับอีคอมเมิร์ซ สังคม 5G และการคมนาคมที่ราบรื่น

ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของจีนตระหนักมากขึ้นว่ารูปแบบการเติบโตที่มีอยู่ของจีนกำลังถึงขีดจำกัดแล้ว ความสำคัญทางการเมืองในปี 2565 สำหรับการเป็นผู้นำของประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะหมายถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างน้อยหนึ่งปีสุดท้ายซึ่งได้แรงหนุนจากการลงทุนที่มากเกินไป แม้ว่าเศรษฐกิจจะ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดในเดือนมีนาคมและเมษายน 2565 ในส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ ปักกิ่งสามารถนำหนี้มาอยู่ภายใต้การควบคุมในขณะที่ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่สูงไว้ได้ด้วยการแทนที่การลงทุนที่ไม่ก่อผลด้วยการลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่มีประสิทธิผลมากขึ้น ทางการจีนเสนอแนวทางนี้มาหลายปีแล้วว่าเป็นแนวทางที่น่าติดตามมากที่สุด แต่พวกเขาไม่สามารถปฏิบัติตามคำสัญญาเหล่านี้ได้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานไม่ได้ทำให้ภาระหนี้ของระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นโดยเนื้อแท้ หากการลงทุนมีประสิทธิผลในวงกว้าง กล่าวคือ หากมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มันสร้างขึ้นเกินกว่าต้นทุนของการลงทุน หนี้ที่เพิ่มขึ้นใดๆ ก็จะถูกจับคู่ในระยะสั้นถึงระยะกลางด้วยการเพิ่มขึ้นของ GDP ซึ่งโดยปกติจะเป็นตัวแทนของมูลค่าสินค้าและบริการที่ผลิตโดยระบบเศรษฐกิจ หากมูลค่าที่สร้างขึ้นมีมากกว่าต้นทุนการลงทุน อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของประเทศจะไม่เพิ่มขึ้น กลยุทธ์ที่บอบบางนี้ แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตที่กำลังเติบโต สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เต็มใจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่จะดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม นั่นคือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคิดว่าจำเป็นสำหรับจีนในการนำโมเดลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมาใช้ โทมัสกล่าว รัฐบาลจีนสรุปแผนเมื่อวันจันทร์เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซา แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า รัฐบาลจีนยังขาดกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในการแก้ไขวิกฤตหนี้ของประเทศและความเชื่อมั่นผู้บริโภค เศรษฐกิจของจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกต้องพึ่งพาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมากเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและสร้างงาน ราคาอสังหาริมทรัพย์และการขายลดลงหลังจากการปราบปรามสิ่งที่ผู้นำมองว่าเป็นการกู้ยืมในระดับที่เป็นอันตราย ส่งผลให้นักพัฒนาหลายสิบรายผิดนัดชำระหนี้

ปริมาณการขนส่งสินค้าทางถนนอยู่ที่ 5.forty five พันล้านตันตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี และปริมาณการขนส่งสินค้าทางน้ำอยู่ที่ 1.forty พันล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเวลาเดียวกัน ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม “จีนจำเป็นต้องส่งเสริมตลาดที่เสรีมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการแข่งขันในตลาดที่สามารถกระตุ้นงานผ่านการเป็นผู้ประกอบการและบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ๆ และลดการมุ่งเน้นไปที่รัฐวิสาหกิจซึ่งขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขัน” Tang เขียน แต่ในขณะที่หลี่สัญญาว่าจะ “ผลักดันการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโตไปข้างหน้า” คำพูดของเขาเน้นเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้และกรอบเวลา และนายกรัฐมนตรีก็งดแถลงข่าวประจำปีเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี นักเศรษฐศาสตร์แย้งว่าการเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับชาวจีนในการหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน แต่การทำให้ผู้คนใช้จ่ายเงินมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องยากเมื่อหลายคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่แล้ว ภายในสิ้นปี 2566 หนี้สะสมของจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของผลผลิตทางเศรษฐกิจ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นักเศรษฐศาสตร์บางคนได้เปรียบเทียบสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันในจีนกับ “ทศวรรษที่หายไป” ของญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของภาวะเงินฝืดและความซบเซาทางเศรษฐกิจส่วนหนึ่งเกิดจากหนี้ส่วนเกิน

ความน่าเชื่อถือคือการผสมผสานระหว่างธนาคารกับกองทุนรวมที่ลงทุน บางคนโฆษณาข้อเสนอของตนว่าเป็นบัญชีที่เชื่อถือได้และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งมีดอกเบี้ยสูง จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นหน่วยงานเอกชนที่ให้ทุนสนับสนุนโครงการต่างๆ เช่น โรงงานและห้างสรรพสินค้า ข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอทำให้พวกเขาสามารถใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายสิ่งที่พวกเขาเป็นหนี้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการจัดตั้งที่ค่อนข้างคล้ายกับโครงการ Ponzi “เป้าหมายการเติบโต ‘ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์’ แสดงให้เห็นว่าจีนได้ขยับออกห่างจากการไล่ตามตัวเลขคงที่ด้วยลำดับความสำคัญนโยบายอื่นๆ เช่น การแข่งขันทางเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ และความปลอดภัย (ได้รับความสำคัญ)” Gary Ng นักเศรษฐศาสตร์ที่ Natixis ในฮ่องกง บอกกับอัลจาซีรา เศรษฐกิจของจีนกำลังยืนอยู่ที่ทางแยก การเติบโต การจ้างงาน และทุนมนุษย์ของบริษัทเพิ่งประสบกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญและแม้กระทั่งการตกต่ำ เพื่อเผชิญหน้ากับความไม่มั่นคงนี้ จำเป็นต้องมีการสำรวจสาเหตุเชิงลึกของปัญหาเหล่านี้เพิ่มเติม การฟื้นตัวของวงจรธุรกิจไม่น่าจะเพียงพอ เนื่องจากอัตราการเติบโตของ GDP ลดลงจาก 6% เหลือ 2.2% ในปี 2563 อัตราการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงของผู้ที่ทำงานในเขตเมืองก็ลดลงจาก 6.8% เหลือ 5.2% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา7 นอกจากนี้ ดังที่แสดง ในรูปที่ 6 การเติบโตของรายได้ที่ใช้แล้วทิ้งของผู้อยู่อาศัยในเมืองและในชนบทลดลงนับตั้งแต่ปี 2557 โดยลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2563 และยังคงเป็นลบจนถึงต้นปี 2564 การเติบโตดีดตัวขึ้นในต้นปี 2564 จากนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง ให้ต่ำกว่า 4.3% ในรายได้ในชนบท และ 2.3% ในรายได้ในเมืองภายในสิ้นปี 2565 ความท้าทายประการที่สองคือทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์เป็นภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจจีน รวมถึงภาคต้นน้ำและปลายน้ำ เมื่อรวมกันแล้วคิดเป็นเกือบ 20% ของเศรษฐกิจจีน แต่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ก็ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตลอดเดือนกรกฎาคม ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงมากกว่า 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี © 2024 KPMG Huazhen LLP ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของสาธารณรัฐประชาชนจีน, KPMG Advisory (China) Limited ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดความรับผิดในจีนแผ่นดินใหญ่, KPMG ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในมาเก๊า (SAR) และ KPMG ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในฮ่องกง (SAR) เป็นสมาชิก บริษัทขององค์กรระดับโลกของ KPMG ของบริษัทสมาชิกอิสระในเครือของ KPMG International Limited ซึ่งเป็นบริษัทภาษาอังกฤษเอกชนจำกัดโดยการรับประกัน สงวนลิขสิทธิ์.

นักวิเคราะห์กล่าวว่านักลงทุนผูกพันกับความสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อพิจารณาจากขนาดของหนี้ของ Sichuan Trust สื่อจีนได้รายงานปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่มุ่งเน้นไปที่การกระทำผิดที่ถูกกล่าวหาโดยผู้ที่ดูแลทรัสต์ โดยนำเสนอแผนการชำระหนี้เป็นแนวทางแก้ไขที่ยุติธรรม ปัญหาที่ Sichuan Trust เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อรัฐบาลเริ่มจำกัดการขายผลิตภัณฑ์ทรัสต์ใหม่ในปี 2020 หากไม่มีรายได้จากนักลงทุนรายใหม่ ก็ไม่สามารถชำระหนี้คงค้างได้ สำหรับผู้ที่ทุ่มเงินออมชีวิตให้กับ Sichuan Trust และหน่วยงานที่คล้ายคลึงกัน มีแนวโน้มว่าจะสายเกินไป นักลงทุนประมาณ 300 รายจากทั้งหมดกว่า eight,000 รายปฏิเสธที่จะยอมรับแผนของรัฐบาล และกำลังมองหาความช่วยเหลือทางกฎหมาย ญาติของนักลงทุนรายหนึ่งกล่าว ญาติบางคนกล่าวว่า มีคนจำนวนหนึ่งที่พยายามเดินทางมายังกรุงปักกิ่งระหว่างการประชุมเพื่อแสดงความคับข้องใจ โดยถูกตำรวจขัดขวาง อลิเซีย การ์เซีย เอร์เรโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Natixis กล่าวว่าการประกาศเป้าหมายการขาดดุลทางการคลังที่ลดลงแสดงให้เห็นว่าปักกิ่งไม่มีแผนในการบรรลุเป้าหมายการเติบโต ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะบรรลุได้ยากกว่าปีที่แล้ว นักวิจัยศึกษาผลกระทบด้านลบของการสอนออนไลน์ต่อนักเรียนระดับประถมศึกษาในระยะสั้นและระยะยาว ตัวอย่างเช่น พวกเขาพบว่าความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในช่วงปิดโรงเรียนแปดสัปดาห์ช้ากว่าก่อนปิดโรงเรียน 2.4% และความเร็วการเรียนรู้ของนักเรียนมัธยมศึกษาช้าลง zero.4% (Tomasik et al., 2021) . จากการศึกษาโดยใช้ข้อมูลจากอาร์เจนตินา การลดเวลาสอนแบบตัวต่อตัวในโรงเรียนประถมศึกษาลงครึ่งปีทำให้รายได้ระยะยาวลดลง three.2% สำหรับผู้ชายและ 1.9% สำหรับผู้หญิง (Jaume และ Willen, 2019)

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกระบวนการลงทุนของประเทศไม่สามารถช่วยขัดขวางสถาบันทางสังคม เศรษฐกิจ การเงิน และครัวเรือนเหล่านี้ได้ เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ต้องการหรือส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสถาบันทางการเมืองในลักษณะที่ในอดีตยากที่จะซึมซับและคาดการณ์ได้ยากมาก ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ไม่ค่อยมีข้อยกเว้นบางประการ เช่น Albert Hirschman หรือนักทฤษฎีพึ่งพาในทศวรรษ 1960 และ 1970 ที่จะกล่าวถึงข้อจำกัดทางสถาบันเหล่านี้ แต่ในอดีต ข้อจำกัดเหล่านี้ถือเป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดเสมอมาซึ่งทำให้การปรับเปลี่ยนไม่ประสบผลสำเร็จ นี่ไม่น่าแปลกใจเลย ทุกประเทศที่ปฏิบัติตามโมเดลการเติบโตนี้ ในระยะต่อๆ ไปของโมเดล ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเดียวกัน แต่มีเหตุผลสำคัญอย่างน้อยสามประการที่แนวทางปฏิบัตินี้ทำได้ยาก มีการพยายามโต้แย้งหลายครั้งว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับจีน นักวิจารณ์บางคนโต้แย้งอย่างโง่เขลาว่าหนี้เป็นเพียงปัญหาหากเกี่ยวข้องกับหนี้ภายนอกและไม่ได้รับเงินทุนจากการออมในประเทศ แต่หนี้ที่เพิ่มขึ้นจากการออมในประเทศมากกว่าการออมจากต่างประเทศ หมายความว่าประเทศที่สะสมหนี้กำลังมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ควรจะเพียงพอที่จะชี้ให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้สหรัฐในทศวรรษ 1920 และการเพิ่มขึ้นของหนี้ของญี่ปุ่นในทศวรรษ 1970 และ 1980 ทั้งสองประเทศที่มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง เงินออมในประเทศที่สูง และไม่มีหนี้ภายนอก กลายเป็นหนึ่งในนั้น ภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับหนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองประการในศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่ถูกต้องภายในประเทศของจีนมากกว่าร้อยละ 70 โดยมีจำนวนเกิน 3 ล้านหน่วย ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติของจีน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม “รายงานเตือนถึงความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน แต่การประมาณการของพนักงานกลับมองโลกในแง่ร้ายเกินไป” จางเขียน “ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ธุรกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับการปรับปรุงโดยรวม ซึ่งค่อยๆ เพิ่มความเชื่อมั่นของตลาด” ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในอดีตคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของ GDP ของจีน กลายเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาโดยเฉพาะสำหรับเศรษฐกิจจีนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยศาลฮ่องกงเมื่อวันจันทร์สั่งให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ติดหนี้มากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเลิกกิจการ

อุปสรรคประการแรกคือขนาดที่แท้จริงของการโอนที่จำเป็นซึ่งสัมพันธ์กับขนาดที่เป็นไปได้ของภาคส่วนเศรษฐกิจที่จะเป็นผู้รับ ปัจจุบัน จีนลงทุน forty ถึง forty five เปอร์เซ็นต์ของ GDP ทุกปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกโดยประเทศใดๆ แม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงจากระดับก่อนหน้านี้ก็ตาม มากกว่าประมาณร้อยละ 30 เล็กน้อยของจำนวนเงินนี้ถูกนำไปใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และน้อยกว่าร้อยละ 30 เล็กน้อยได้รับการจัดสรรสำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์3 ในทางตรงกันข้าม ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งหลายคนต่างศรัทธา คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ตามคำจำกัดความที่มีน้ำใจมากที่สุด four แนวคิดที่ว่ามีภาคการผลิตที่มีประสิทธิผลสูงในเศรษฐกิจจีนที่สามารถดูดซับการลงทุนได้อย่างง่ายดายแม้แต่เศษเสี้ยวของการลงทุนในภาคที่ไม่มีการผลิตหรือผลผลิตต่ำนั้นค่อนข้างจะลึกซึ้ง . อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญกว่านั้น เป็นที่ชัดเจนว่าผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในกรุงปักกิ่งไม่เชื่อว่าภาระหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นยั่งยืน พวกเขาระบุหลายครั้งว่าพวกเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะออกนอกเส้นทางนี้ และพยายามใช้นโยบายที่ต้องการจำกัดการลงทุนที่ไม่ก่อผลและการเติบโตของภาระหนี้ของประเทศ แม้ว่าความพยายามเหล่านี้จะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม นั่นเป็นเพราะความยากลำบากหรือไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลที่ตามมาของสี่เส้นทางที่เหลือ ปัญหาของรูปแบบการพัฒนาในระยะนี้ และควรย้ำอีกครั้งว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศที่ปฏิบัติตามแนวทางเดียวกัน นั่นคือการเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากการจัดสรรการลงทุนอย่างเป็นระบบนั้นไม่ยั่งยืน เมื่อมาถึงขั้นนั้น ประเทศดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนไปสู่รูปแบบการเติบโตใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นแบบจากล่างขึ้นบนที่ทางการละทิ้งการวางแนวด้านอุปทานแบบเดิมโดยหันไปหาการกระจายรายได้และการสนับสนุนด้านอุปสงค์ “หากไม่มีแพ็คเกจนโยบายการปรับโครงสร้างที่ครอบคลุมสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อาจลดลงมากกว่าที่คาดไว้ และนานกว่านั้น โดยมีผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตในประเทศและคู่ค้า” รายงานของ IMF อ่าน ตรงกันข้ามกับการมองโลกในแง่ร้ายที่แพร่หลาย การเล่าเรื่องทางเลือกเป็นการยกย่องเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของจีน โดยเน้นย้ำถึงความกล้าหาญในการผลิตขั้นสูง ทั่วทั้งภาคส่วน เช่น การผลิตชิปในประเทศ ปัญญาประดิษฐ์ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และการขยายเครือข่าย 5.5G และโครงการโครงสร้างพื้นฐานในซีกโลกใต้ . บริษัทต่างชาติส่วนใหญ่รายงานผลตอบแทนการลงทุนที่เป็นบวก แต่ตลาดของจีนกลับมีการแข่งขันสูง บริษัทข้ามชาติบางแห่งถอนตัวออกไป ไม่จำเป็นต้องเนื่องมาจากเหตุผลทางการเมือง แต่เป็นเพราะการเกิดขึ้นของวิสาหกิจภายในประเทศที่เข้มแข็งในจีน สิ่งนี้เพิ่มความแตกต่างเล็กน้อยให้กับภาพเศรษฐกิจของจีนที่ไม่น่าจะปรากฏในบทความ “Peak China” ถัดไป

สถาบันทางเศรษฐกิจหลายแห่งยังคงยืนยันว่า GDP ของจีนจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาภายในปี 2578 แต่นักวิเคราะห์บางคนพยายามเสนอแนะว่าจีนจะไม่มีวันแซงหน้าสหรัฐฯ ในด้านปริมาณเศรษฐกิจทั้งหมด โดยชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่าช่องว่างระหว่าง GDP ของจีนกับ ของสหรัฐฯ ขยายตัวมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความสมบูรณ์ทางการเงินทั่วโลก เศรษฐกิจจีนสูญเสียเงินจำนวน three.seventy nine ล้านล้านดอลลาร์จากการไหลออกทางการเงินที่ผิดกฎหมายนับตั้งแต่ปี 2000 เผยรายงาน GFI ใหม่ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555 ไม่มีใครรู้ว่ากระแสเงินไหลออกที่ผิดกฎหมายในจีนมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการทุจริตของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด CGIT ยังประมาณการการไหลเข้าของ FDI ของจีนไปยังสหรัฐอเมริกาในปี 2560 อยู่ที่ 24.5 พันล้านดอลลาร์ (เทียบกับ 54.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2559) ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดของ FDI ภายนอกของจีน การเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของจีนในสหรัฐฯ ในปี 2560 คือการซื้อธุรกิจให้เช่าเครื่องบินของ CIT Group ของ HNA ด้วยมูลค่า 10.four พันล้านดอลลาร์ วิธีการของ AEI/Heritage Foundation ไม่ได้ใช้การวัดผล FDI มาตรฐาน ซึ่งโดยทั่วไปจะรวมถึงการเป็นเจ้าของหรือการควบคุมของชาวต่างชาติในสัดส่วนอย่างน้อย 10% หรือการควบคุมของนิติบุคคล

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภค การผลิต และกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดลดลง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนลดลง เนื่องจากมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด เราจึงเห็นการชะลอตัวขององค์กรใหม่ที่ลงทุนโดยต่างชาติ และการเร่งปิดกิจการที่มีอยู่เดิม ปัญหาการว่างงานก็เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานอายุน้อย นอกจากนี้ ความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการและจิตวิญญาณแห่งการกล้าเสี่ยงในหมู่คนหนุ่มสาวและการสอนออนไลน์ที่ลดลงเนื่องจากการปิดโรงเรียนอาจส่งผลให้การสะสมทุนมนุษย์ของเยาวชนช้าลงอย่างมาก นโยบายเหล่านี้หมายความว่าเศรษฐกิจของจีนจะต้องเผชิญกับสองด้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การขาดแคลนอุปสงค์อย่างเรื้อรังจะนำไปสู่การเติบโตของ GDP ที่น่าผิดหวัง ซึ่งอาจโดยเฉลี่ยร้อยละ 3 ถึง 4 ในช่วงที่เหลือของทศวรรษ และการต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อขจัดภาวะเงินฝืด แต่ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนที่ใช้เทคโนโลยีเข้มข้นจะเติบโตได้ ต้องขอบคุณการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและระบบนิเวศการผลิตที่มีการแข่งขันสูงอย่างเป็นเอกลักษณ์ของจีน ผลลัพธ์ที่ได้คือการเกินดุลการค้าในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นคลื่นที่รุนแรงของลัทธิกีดกันจากประเทศต่างๆ ที่ต้องการรักษาขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมของตนเอง ในปัจจุบัน คำถามก็คือว่าปักกิ่งจะตกลงที่จะแก้ไขนโยบายของตนเช่นเดียวกับญี่ปุ่นหรือไม่ โดยขัดขวางการรณรงค์ของกลุ่มประเทศ G-7 เพื่อกำหนดข้อจำกัดเชิงรุกมากขึ้นต่อปริมาณการส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้น แต่นโยบายการค้าจะเป็นเพียงความสะดวกชั่วคราวเท่านั้น การเกินดุลการค้าของจีนจะยังคงอยู่จนกว่าอุปสงค์ในประเทศจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หรือการเติบโตของการลงทุนชะลอตัวลงอย่างมาก เพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น ปักกิ่งจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นทางการคลังที่แข็งแกร่ง และเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว จีนจะต้องโอนทรัพยากรจากรัฐไปยังครัวเรือน ไม่ว่าจะโดยตรงผ่านการชำระด้วยเงินสดหรือหุ้นในรัฐวิสาหกิจ หรือโดยอ้อมผ่านการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีหรือเงินอุดหนุนสำหรับที่อยู่อาศัย การเกษียณอายุ การรักษาพยาบาล และ บริการอื่น ๆ การเติบโตของการส่งออกยังคงเป็นองค์ประกอบหลักที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีน เพื่อเพิ่มการส่งออก จีนดำเนินนโยบายต่างๆ เช่น ส่งเสริมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของโรงงานที่ต่างชาติลงทุน ซึ่งรวบรวมส่วนประกอบนำเข้าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อการส่งออก และเปิดเสรีสิทธิทางการค้า ในโครงการห้าปีที่ 11 ซึ่งนำมาใช้ในปี 2548 จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ของผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจและจัดการกับความไม่สมดุล คำกล่าวอ้างของ Pettis ที่ว่า “การแทรกแซงของรัฐบาลได้ผลักดันการเติบโตอย่างดุเดือดของจีนในช่วงทศวรรษแรกของการปฏิรูปเศรษฐกิจ” ทำให้เกิดข้อโต้แย้งของเขาว่า การแทรกแซงของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นและโดยพลการนั้นเป็นเพียงความต่อเนื่องของแนวทางปฏิบัติในอดีตเท่านั้น บทบาทสำคัญของการลงทุนของรัฐบาลในการพัฒนาของจีนในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 นั้นไม่อาจปฏิเสธได้ นโยบายอุตสาหกรรมของจีน ซึ่ง CCP ยืมมาจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ได้ช่วยเพิ่มห่วงโซ่มูลค่าในการค้า อย่างไรก็ตาม การกระทำเหล่านั้นเพียงอย่างเดียวไม่ได้ส่งผลให้อัตราการเติบโตของจีนสูงอย่างน่าอัศจรรย์ในช่วงปี 1980 ถึง 2008

Audrye Wong เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ University of Southern California และเป็น Jeane Kirkpatrick Fellow ที่ American Enterprise Institute จนถึงขณะนี้ การบังคับขู่เข็ญยังไม่ประสบผลสำเร็จในการทำให้รัฐบาลต่างๆ กลับเส้นทาง และปักกิ่งก็ถูกจำกัดขอบเขตการคว่ำบาตรค่อนข้างมาก เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจของตนเอง แน่นอนว่า การใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจบ่อยครั้งมากขึ้น (ตัวอย่างล่าสุด ได้แก่ ลิทัวเนีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้) ได้บ่อนทำลายสิ่งล่อใจของเศรษฐกิจจีน – ผลตอบแทนที่เป็นไปได้จะน่าดึงดูดน้อยลงหากมีความกลัว (และบันทึก) ของการลงโทษที่กำลังจะเกิดขึ้น – ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือมากขึ้น กับวอชิงตันและพันธมิตรที่มีใจเดียวกัน ท้ายที่สุดก็มีปัญหาเรื่องการจ้างงานต่ำและอัตราเงินเฟ้อในประเทศจีน เกษตรกรชาวจีนบนที่ดินขนาดเล็กมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย และในตลาดที่มีประสิทธิภาพ คงจะว่างงาน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน 2565 จะอยู่ที่ 2.5% ที่สามารถจัดการได้ แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งเป็นข้อกังวลสำหรับธุรกิจที่ต้องการลงทุนในประเทศ

Chinese economy

Morgan และ/หรือบริษัทในเครือ และการมีส่วนร่วมของนักวิเคราะห์กับบริษัทใดๆ (หรือความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ หรือประเภทสินทรัพย์อื่นๆ) ที่อาจเป็นเรื่องของการสื่อสารนี้ ความคิดเห็นและการประมาณการใด ๆ ถือเป็นวิจารณญาณของเรา ณ วันที่ของเนื้อหานี้และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผลงานที่ผ่านมาไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต การสื่อสารนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นข้อเสนอหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใดๆ J.P. Morgan Research ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ความคิดเห็นและคำแนะนำใดๆ ในที่นี้ไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์ วัตถุประสงค์ หรือความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับหลักทรัพย์ เครื่องมือทางการเงิน หรือกลยุทธ์แก่ลูกค้ารายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ คุณต้องตัดสินใจด้วยตนเองเกี่ยวกับหลักทรัพย์ เครื่องมือทางการเงิน หรือกลยุทธ์ที่กล่าวถึงหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลในที่นี้ บริษัท ผู้ออก หรืออุตสาหกรรมอาจมีการให้ข้อมูลอัปเดตเป็นระยะตามการพัฒนาหรือประกาศเฉพาะ ภาวะตลาด หรือข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม J.P. Morgan อาจถูกจำกัดไม่ให้อัปเดตข้อมูลที่มีอยู่ในการสื่อสารนี้ด้วยเหตุผลด้านกฎระเบียบหรือเหตุผลอื่น ๆ ลูกค้าควรติดต่อนักวิเคราะห์และดำเนินธุรกรรมผ่านบริษัทในเครือของ J.P. Morgan คาดว่าการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 6% (ในแง่จริง) โดย 5% จะมาจากการเติบโตของรายได้ และ 1% จากการปรับอัตราการออมของครัวเรือนให้อยู่ในระดับก่อนเกิดโรคระบาด Morgan สันนิษฐานว่าแพ็คเกจ 1 ล้านล้านหยวน (139 พันล้านดอลลาร์) ส่วนหนึ่งได้รับทุนจากธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เพื่อสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่า “โครงการสำคัญ 3 โครงการ” รวมถึงที่อยู่อาศัยสาธารณะด้วย ซึ่งเทียบเท่ากับ 9% ของการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในปี 2566 และอาจลดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 จาก 8–10% เหลือ 2–4% 2565 ส่งเสริมการเกษตรสีเขียวและการพัฒนาชนบทในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และสนับสนุนโครงการฟื้นฟูชนบทแห่งชาติของรัฐบาลจีน กิจกรรมของโครงการประกอบด้วยการเสริมสร้างขีดความสามารถของสถาบัน การฝึกอบรมและบริการส่งเสริมด้านการเกษตร สิ่งจูงใจทางการเงินเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติด้านการเกษตรที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และการลงทุนในระบบบำบัดน้ำเสียในชนบทและการบริการการจัดการขยะมูลฝอย โปรแกรมยังรวมถึงการลงทุนในการติดตาม ประเมินผล และทวนสอบผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนางบประมาณตามโปรแกรมเพื่อเชื่อมโยงการใช้ทรัพยากรกับผลลัพธ์ในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น

ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายสิบรายได้ผิดนัดชำระแล้ว อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารถูกกดดัน และแผนการลงทุนที่เคยให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าถูกกวาดล้างโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการให้เงินสดคืนเข้าธนาคาร ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มยากจนลง ฉันคิดว่าเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าจีนปฏิบัติตามรูปแบบการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการลงทุนมานานกว่า 40 ปี มันไม่ง่ายเลยสำหรับประเทศต่างๆ ที่จะละทิ้งโมเดลนี้ แต่แทนที่จะพยายามทำเช่นนั้น เมื่อไม่กี่ปีก่อน จีนกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่า โดยทั่วไปนักวิชาการด้านการเมืองยืนยันว่าเมื่ออัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 20 ประเทศจะเผชิญกับความไม่สงบทางสังคม อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของรัฐบาลจีน อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยในเมืองในปี 2023 อยู่ที่ร้อยละ 5.2 ซึ่งห่างไกลจากความไม่สงบ

“เศรษฐกิจตะวันตกบางประเทศได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นในอดีต [และ] จีนกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ นั่นทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกอย่างมากสำหรับจีนในระยะกลางถึงระยะยาว” ภาวะเงินฝืดเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ ในด้านภายนอก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกอยู่ในวงจรเงินฝืดหลังจากที่จีนเปิดทำการอีกครั้ง โดยลดลง eight.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ราคาอาหารในประเทศลดลง 5.9% ในเดือนมกราคมนี้ (เทียบกับ 6.2% ในเดือนมกราคม 2023) โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาเนื้อหมูและผักที่ลดลง ภาวะเงินฝืดคาดว่าจะสิ้นสุดในปี 2567 แต่อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำจะยังคงมีอยู่ตลอดทั้งปีข้างหน้า จีนถือว่าผิดปกติเมื่อพูดถึงพลวัตของเงินเฟ้อ แทนที่จะเผชิญกับความท้าทายด้านเงินเฟ้อทั่วไปที่ประเทศอื่นๆ ประสบหลังจากเปิดประเทศอีกครั้ง จีนกลับเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินฝืดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ณ เดือนมกราคม 2024 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของจีนลดลง zero.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) ลดลง 2.5% “ในสภาพแวดล้อมที่เกินขอบเขตดังกล่าว การตอบสนองนโยบายจะต้องใช้มากเกินไป แทนที่จะเพียงแค่ ‘เพียงพอ’ เพื่อรักษาเสถียรภาพของกิจกรรมที่อยู่อาศัยและความคาดหวังของตลาด ผู้กำหนดนโยบายไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่เช่นนี้ ดังนั้นเราจึงคาดว่ากิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2567 กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความน่าจะเป็นที่ตลาดที่อยู่อาศัยจะถึงจุดต่ำสุดในปี 2567 นั้นค่อนข้างต่ำ” Zhu กล่าว “การลดลงอย่างมากของยอดขายบ้านใหม่และการเริ่มต้นบ้านใหม่ทำให้พวกเขาต่ำกว่าประมาณการปริมาณพื้นฐานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว และไม่มีสัญญาณของจุดต่ำสุด แม้จะมีการผ่อนคลายนโยบายที่อยู่อาศัยรอบล่าสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม” Zhu กล่าว .

การรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์มีส่วนโดยตรงในการเสริมสร้างงบดุลของครัวเรือน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในการกระตุ้นการบริโภคของครัวเรือน และขยายอุปสงค์โดยรวมในประเทศ ทั้งหมดนี้จำเป็นในการยกระดับเศรษฐกิจจีนออกจากกับดักภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเชื่อมโยงอย่างซับซ้อนกับการจัดหาเงินทุนนอกงบดุลของรัฐบาลท้องถิ่นและการกู้ยืมของธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง แม้ว่าการล่มสลายของ Evergrande ไม่ใช่ช่วงเวลาของเลห์แมน บราเธอร์ส ของจีน และไม่น่าจะกระตุ้นให้เกิดความล้มเหลวของธนาคารติดต่อกันในทันที แต่ผลกระทบด้านลบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของภาคอสังหาริมทรัพย์ เจ้าหนี้องค์กร และธนาคารขนาดเล็กที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความท้าทายที่เผชิญอยู่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ด้วยความหวาดกลัวว่าธนาคารจะแพร่ระบาดและการส่งออกลดลง ผู้นำจึงวางรูปแบบการลงทุนกับสเตียรอยด์ ภายใต้คำแนะนำจากปักกิ่ง ธนาคารต่างๆ ระมัดระวังลมแรง ในช่วงเวลาสั้นๆ ห้าปี ธนาคารจีนได้เพิ่มสินเชื่อที่มีมูลค่าเท่ากับมูลค่าทั้งหมดของระบบธนาคารของสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง one hundred fifty ปี ในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่ามาก เงินกู้ยืมเหล่านั้นไปที่โครงการอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าที่ประเทศจะสามารถปรับให้เข้ากับอสังหาริมทรัพย์ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะทำงานเร็วขึ้นเพื่อสร้างจีนให้เป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพและพัฒนาการผลิตขั้นสูง ส่งเสริมการบูรณาการอินเทอร์เน็ต ข้อมูลขนาดใหญ่ และปัญญาประดิษฐ์เข้ากับเศรษฐกิจที่แท้จริง และส่งเสริมพื้นที่การเติบโตใหม่และตัวขับเคลื่อนการเติบโตของการบริโภคระดับกลางถึงสูง การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เศรษฐกิจสีเขียวและคาร์บอนต่ำ เศรษฐกิจแบ่งปัน ห่วงโซ่อุปทานที่ทันสมัย ​​และบริการทุนมนุษย์ เราจะสนับสนุนอุตสาหกรรมดั้งเดิมในการยกระดับตนเองและเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการที่ทันสมัย ​​เพื่อยกระดับให้เป็นมาตรฐานสากล เราจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของจีนไปสู่ระดับปานกลางถึงสูงของห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และส่งเสริมคลัสเตอร์การผลิตขั้นสูงระดับโลกจำนวนหนึ่ง จีนได้กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก จากปี 2544 ถึง 2559 การผลิตเหล็กดิบของจีนเพิ่มขึ้นจาก 152 ล้านเมตริกตันเป็น 805 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้น 459.9% ในช่วงเวลานี้ ส่วนแบ่งการผลิตทั่วโลกของจีนเพิ่มขึ้นจาก 17.9% เป็น 50.3% และจีนคิดเป็น 87.1% ของการผลิตเหล็กทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น51 ในขณะที่กำลังการผลิตเหล็กที่เพิ่มขึ้นของจีนส่วนใหญ่เป็นไปตามอุปสงค์ในประเทศ (เป็นผลจากกำลังการผลิตเหล็กขนาดใหญ่ของจีน -ขนาดการลงทุนคงที่) นอกจากนี้ยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อีกด้วย ในปี 2558 จีนเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์เหล็กรายใหญ่อันดับสอง (รองจากสหภาพยุโรป) โดยมีมูลค่า 111.6 ล้านเมตริกตัน หรือ 24.1% ของทั้งหมดทั่วโลก

ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของจีนเป็นผลมาจากการตัดสินใจทางการเมือง ปัจจัยเชิงโครงสร้าง และความผิดพลาดทางนโยบายรวมกัน เหตุผลสำคัญก็คือ สีจิ้นผิงได้ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับความมั่นคงของชาติและการยกระดับเทคโนโลยี ไม่ใช่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ลำดับความสำคัญของนโยบาย เศรษฐกิจจีนทั้งหมดอยู่เหนือการเก็งกำไรด้านอสังหาริมทรัพย์ และไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้าปล่อยให้มันหยุด ปัจจุบัน ธนาคารต่างๆ บอกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ Bloomberg Economics คำนวณว่าราคาที่อยู่อาศัยที่ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์จะเท่ากับการสูญเสียความมั่งคั่ง 19 ล้านล้านหยวน (2.7 ล้านล้านดอลลาร์) ตรงกันข้ามกับการแยกตัวที่สนับสนุนบริษัทจีนในตะวันตก จีนยังคงรักษาจุดยืนที่เปิดกว้างและครอบคลุมต่อบริษัทจีนอย่างต่อเนื่อง ประเทศจีนมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลก และยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นข่าวผู้นำจีนมีส่วนร่วมกับบริษัทตะวันตก “การเปิดกว้าง” ได้กลายเป็นนโยบายระดับชาติและได้ถูกเขียนลงในรัฐธรรมนูญของจีน จากการวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาดของฟินแลนด์ อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดโดยรวมได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน โดยมีส่วนทำให้ GDP เติบโตร้อยละ 40 ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบเป็นรายปี อสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามการคาดการณ์ว่าในทศวรรษหน้า ผู้คนจำนวนกว่า a hundred ล้านคนจะอพยพไปยังเขตเมือง ซึ่งผลักดันความต้องการในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นักวิเคราะห์หลายคนแย้งว่าการผลักดันของเติ้งในการปฏิรูปเศรษฐกิจนั้นได้รับแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากความเชื่อที่ว่าพวกเขาจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้อำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแข็งแกร่งขึ้น

โดยส่วนใหญ่เป็นประเภทหลังนี้ซึ่งเป็นสาเหตุให้อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของจีนเพิ่มขึ้น ในขอบเขตที่การลงทุนจำนวนมากของจีนในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงเศรษฐกิจ กล่าวคือ เป็นการอธิบายถึงภาระหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวโทษรัฐบาลทุกครั้งที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่สาเหตุที่แท้จริงของการตกต่ำของจีนคือการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นระยะเวลายาวนานซึ่งสะสมหนี้ที่เปราะบางและไม่ยั่งยืนไว้กองพะเนินเทินทึก ยิ่งบินสูงก็ยิ่งล้มหนักขึ้น การตกต่ำจะไม่สิ้นสุดในเร็วๆ นี้ แต่อย่างน้อยรัฐบาลก็อาจจะกระจายการสูญเสียอีกครั้ง การที่ราคาตกต่ำเป็นเรื่องยากเนื่องจากมีสินค้าคงคลังจำนวนมากของอพาร์ทเมนท์ที่ขายไม่ออกหรือสร้างบางส่วน การประมาณการอย่างสมเหตุสมผลของจำนวนยูนิตอพาร์ทเมนต์ว่าง (หลายยูนิตที่ยังสร้างไม่เสร็จ) มีตั้งแต่ 50 ถึงมากกว่า 100 ล้าน แม้ว่าจะไม่มีการสร้างบ้านเพิ่ม แต่ก็อาจต้องใช้เวลาหนึ่งทศวรรษหรือมากกว่านั้นในการใช้สินค้าคงคลังที่มีอยู่ เมื่อเร็วๆ นี้ ปักกิ่งพยายามรักษางานของคนงานก่อสร้างโดยการผลักดันให้ธนาคารของรัฐกลับมาปล่อยสินเชื่ออีกครั้งสำหรับโครงการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ซึ่งต้องหยุดชะงักลงเมื่อนักพัฒนาของพวกเขาสูญเสียความน่าเชื่อถือทางเครดิต แต่นโยบายนี้จะเพิ่มอุปทานของหน่วยที่ขายไม่ออก ส่งผลให้ราคาตกต่ำรุนแรงขึ้น ฟองสบู่แตกแล้ว ขณะนี้เจ้าหนี้ชาวจีนได้ลดขนาดการปล่อยสินเชื่อใหม่และขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคำแนะนำของรัฐบาลที่ประกาศเป็น “เส้นสีแดงสามเส้น” ในขณะที่ตลาดกระทิงจีนที่มีหนี้มากที่สุดล้มละลายหรือขายหุ้นอย่างตื่นตระหนกเพื่อชำระคืนเงินกู้ ราคาก็ลดลงอีกเมื่อหุ้นกลุ่มหมีกลับมาซื้อสินทรัพย์ในราคาลดพิเศษ นั่นจะทำให้ราคาทรุดตัวลงในที่สุด แต่ยังเป็นการกระจายความมั่งคั่งอย่างรวดเร็วจากลูกหนี้ไปยังเจ้าหนี้ หมีจะกินวัวกระทิงทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ

ปักกิ่งพยายามลดการลงทุนที่ไม่ก่อผลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกันก็พยายามก้าวหน้าไปสู่เส้นทางที่ 2, three และ four ดังที่สรุปไว้ข้างต้น แต่ด้วยเหตุผลทางการเมือง ผู้กำหนดนโยบายของจีนไม่สามารถยอมรับขอบเขตของการชะลอตัวที่จำเป็นได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หนี้ยังคงพุ่งสูงขึ้น ตราบใดที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นกลไกหลักของปักกิ่งในการรักษาอัตราการเติบโตที่เป็นที่ยอมรับทางการเมืองให้สูงกว่า 2 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่มีทางที่จะป้องกันไม่ให้ภาระหนี้ของประเทศขยายตัวได้ การเกินดุลการค้าของจีน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ four ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของจีน ณ สิ้นปีที่แล้ว เท่ากับเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของส่วนอื่นๆ ของโลกแล้ว และจากการคำนวณของฉัน มันจะต้องเพิ่มการเกินดุลทุกปี อย่างน้อย three เปอร์เซ็นต์ของ GDP จีน เพื่อทดแทนการลงทุนที่ไม่ก่อผลในประเทศ นี่เป็นกลยุทธ์ที่เป็นไปได้สำหรับเศรษฐกิจขนาดเล็ก แต่การเกินดุลการค้าของจีนนั้นสูงจนไม่อาจยอมรับได้สำหรับเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่นนี้ ประเทศอื่นๆ ในโลกจะไม่ (และอาจจะไม่) ยอมรับระบบที่จีนต้องพึ่งพาการเติบโต โดยอาศัยความสามารถในการดูดซับส่วนแบ่งความต้องการที่ขาดแคลนทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่สาม ซึ่งปะทุขึ้นในการอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการปรับตัวของเศรษฐกิจจีน อาจเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากที่สุด เศรษฐกิจที่ลงทุนระหว่างหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของ GDP ในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานเป็นเวลาสามทศวรรษหรือมากกว่านั้น และเศรษฐกิจที่เห็นว่าจำนวนความมั่งคั่งที่เกิดจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น จะมีการพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ การเงิน และ—ที่สำคัญที่สุด—สถาบันทางการเมืองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการลงทุนนี้ ประเพณีการจัดสรรการลงทุนที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ภาคครัวเรือนที่เจ้าของบ้านมีส่วนแบ่งเงินออมในครัวเรือนรวมจำนวนมากอย่างไม่เป็นสัดส่วน โดยสูงถึงร้อยละ 70 ตามมาตรการบางอย่าง ควรย้ำอีกครั้งว่าการที่จีนพึ่งพาการลงทุนมากเกินไปโดยหน่วยงานที่ดำเนินงานภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณที่ไม่รุนแรงไม่ได้ส่งผลให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นเสมอไป จีนเริ่มยุคปฏิรูปในช่วงปลายทศวรรษ 1970 หลังจากผ่านไป 5 ทศวรรษ โดยมีสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สงครามกลางเมือง และลัทธิเหมา ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ และกำลังการผลิตในระดับการพัฒนาสังคมต่ำกว่าทุนมหาศาล จนถึงกลางทศวรรษ 2000 ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงมีการลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับความสามารถของธุรกิจและคนงานของจีนในการดูดซับการลงทุนอย่างมีประสิทธิผล การลงทุนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิผล การเพิ่มขึ้นของหนี้นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นปัญหาเสมอไป แต่ในขณะที่การวัดปัญหาทรัพยากรที่สูญเปล่าในระบบเศรษฐกิจจีนอย่างแม่นยำนั้นค่อนข้างซับซ้อน ส่วนแบ่งหนี้ของจีนที่ไม่สมส่วนจะนำไปลงทุน ซึ่งหมายความว่า ตามหลักการแล้ว อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของประเทศเป็นตัวแทนที่สมเหตุสมผลสำหรับจำนวนการเติบโตที่สูงเกินจริงของตัวเลข GDP ของจีน ตัวอย่างเช่น ในปี 2020 เมื่อการระบาดของไวรัสโคโรนาส่งผลให้การบริโภคลดลง ส่งผลให้การเติบโตที่แท้จริงหดตัวลง การเติบโตของ GDP ของจีนมากกว่า one hundred เปอร์เซ็นต์ได้รับการอธิบายจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตามมา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP อย่างเป็นทางการของจีนเพิ่มขึ้นในปีนั้นจากประมาณ 247 เปอร์เซ็นต์เป็น 270 เปอร์เซ็นต์

แม้ว่าจีนจะมีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางมาเป็นเวลาสามทศวรรษ แต่เจ้าหน้าที่จีนยืนยันว่าจีนเป็น “เศรษฐกิจแบบตลาดสังคมนิยม” สิ่งนี้ดูเหมือนจะบ่งชี้ว่ารัฐบาลยอมรับและอนุญาตให้ใช้กลไกตลาดเสรีในหลายด้านเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเติบโต แต่รัฐบาลยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผลการศึกษาพบว่าตัวเลข GDP ของจีนที่รายงานด้วยตนเองอย่างเป็นทางการไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แรงจูงใจทางการเมืองมักทำให้เจ้าหน้าที่จีนต้องรวบรวมข้อมูลทางเศรษฐกิจ เป็นผลให้มีการพยายามใช้มาตรการอื่นเพื่อติดตามเศรษฐกิจของจีนหลายครั้ง เครื่องมือหนึ่งคือ China Cyclical Activity Tracker (CCAT) ของ Federal Reserve Bank of San Francisco ซึ่งวัดความผันผวนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนโดยใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของตัวชี้วัดที่ไม่ใช่ GDP จำนวน eight ตัว เพื่อวัดความเบี่ยงเบนในการเติบโตปีต่อปีเมื่อเทียบกับ แนวโน้ม 3 ดัชนีจัดทำขึ้นทุกไตรมาสและแสดงเป็นหน่วยเบี่ยงเบนมาตรฐานจากแนวโน้มที่คาดไว้ ที่น่าสังเกตก็คือ แม้แต่ดัชนี CCAT ก็มีข้อจำกัด เนื่องจากดัชนีชี้วัดนั้นบิดเบือนไปในการวัดกิจกรรมทางอุตสาหกรรม ซึ่งไม่สัมพันธ์กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแน่นอน เมื่อพูดถึง GDP จีนถือเป็นประเทศนอกเหนือไปทั่วโลกในหลาย ๆ ด้าน เศรษฐกิจของประเทศนี้มีขนาดใหญ่กว่าประเทศกำลังพัฒนามาก และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ แต่เศรษฐกิจของจีนยังแตกต่างหลายประการจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำและก้าวหน้าของโลก เครื่องมือติดตาม ChinaPower นี้ประกอบด้วยแผนภูมิ 10 แผนภูมิพร้อมข้อมูลล่าสุดเพื่อช่วยแจกแจงและเปรียบเทียบประเด็นสำคัญของ GDP ของจีน การเติบโตในประเทศจีนถูกถ่วงลงในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตกต่ำของเสาหลักทางเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมของประเทศในด้านอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน และการส่งออก สิ่งนี้กระตุ้นให้ปักกิ่งเพิ่มความพยายามในการสนับสนุนการผลิตและเทคโนโลยีภายในประเทศ เพื่อพยายามปรับปรุงเศรษฐกิจให้ทันสมัยและยังคงสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก

นับตั้งแต่เริ่มต้นการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนในปี 1978 บริษัทผู้ผลิตเอกชนได้เข้ามามีบทบาทที่ขาดไม่ได้และมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างน่าทึ่ง หนังสือเล่มนี้อิงจากการวิจัยต้นฉบับที่ครอบคลุม สำรวจความท้าทายในการพัฒนาในปัจจุบันสำหรับ … เนื่องจากธุรกิจในจีนยังคงรักษาส่วนแบ่ง GDP ไว้ประมาณเดียวกันกับในประเทศอื่นๆ จึงอาจมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับปักกิ่งในการบังคับให้ธุรกิจต่างๆ ดูดซับขอบเขตของการถ่ายโอนที่จำเป็น ซึ่งเหลือเพียงภาครัฐเท่านั้น (ซึ่งส่วนใหญ่หมายถึงรัฐบาลท้องถิ่น) วิธีเดียวที่จะปรับสมดุลการบริโภคในประเทศจีนอย่างมีความหมายและยั่งยืน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ จำเป็นต้องมีการถ่ายโอนจำนวนมากจากรัฐบาลท้องถิ่นไปยังครัวเรือน การบริโภคภาคครัวเรือนคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของจีน ณ ปี 2020 เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกในประเทศอื่นๆ ที่อยู่ที่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการบริโภคอื่นๆ (เช่น การบริโภคของรัฐบาล) เพิ่มขึ้น 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สอดคล้องกับตัวเลขของประเทศอื่นๆ จีนจึงมีส่วนแบ่งการบริโภค GDP ต่ำที่สุดในบรรดาเศรษฐกิจใดๆ ในโลก นั่นนำไปสู่ปัญหาที่สอง ไม่ชัดเจนเลยว่าภาคส่วนที่มีการผลิตมากกว่าเหล่านี้น่าจะขาดแคลนทุน ภาคภาคเอกชนและธุรกิจร่วมลงทุนของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และภาคปฏิบัติได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่าการระดมทุนเพื่อสนับสนุนแนวคิดใหม่ๆ นั้นง่ายกว่าการหาการลงทุนใหม่ที่ทำกำไรได้มาก นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาในจีนเท่านั้น Marc Jeffrey Rowan ซีอีโอของ Apollo กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “บางครั้งตลาดของเราก็มองข้ามสิ่งที่ขาดแคลนไป เงินทุนในฐานะเรื่องทั่วไปมีอยู่มากมาย และเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนความเสี่ยงที่เหมาะสมแต่มีไม่เพียงพอ”—แต่จีนกลับกลายเป็นข้อกังวลที่ใหญ่กว่าที่อื่น ในกรณีนี้ การโอนการลงทุนเพิ่มเติมจำนวนมากไปยังภาคส่วนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแทนที่การลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดผลประเภทหนึ่งด้วยอีกประเภทหนึ่ง เพื่อให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้น ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นสำหรับจีนไม่ใช่การเติบโตของ GDP แต่เป็นการเติบโตอย่างแท้จริงและการเติบโตที่สูงเกินจริงน้อยลง ในขณะที่ผลลัพธ์ที่แย่กว่านั้นตรงกันข้าม ในแง่นั้น ไม่ว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่เกินกว่าการเติบโตที่แท้จริงของเศรษฐกิจหรือไม่ เพียงแต่เผยให้เห็นความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการบรรลุเป้าหมายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับนั้น และจำนวนหนี้ที่จีนยินดียอมให้ และจำนวนทรัพยากรที่จีนเลือกใช้ การเสียสละเพื่อให้บรรลุระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยอมรับได้ทางการเมืองโดยวัดจาก GDP เป้าหมาย GDP นี้บอกเพียงเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งเพียงใด แต่การมองการเติบโตของจีนในแง่ของการบรรลุเป้าหมาย GDP ที่เฉพาะเจาะจงนั้นถือเป็นความผิดพลาด การเติบโตของ GDP ของจีนไม่ได้วัดผลผลิตและผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของประเทศในลักษณะเดียวกับสถิติของประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ เป้าหมายการเติบโตของ GDP ของจีนเป็นข้อมูลที่ปักกิ่งตัดสินใจเมื่อต้นปี การปฏิบัติตามนั้นขึ้นอยู่กับขอบเขตที่หน่วยงานทางเศรษฐกิจสามารถและเต็มใจที่จะใช้ทรัพยากรและความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศเพื่อให้บรรลุกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามจำนวนที่ต้องการ

ความสัมพันธ์ระหว่าง GDP ต่อหัวกับมุมมองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อจีนอาจส่วนหนึ่งเกิดจากเสรีภาพทางการเมืองที่สัมพันธ์กันในประเทศเหล่านี้ เนื่องจากมุมมองของจีนยังเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเพลิดเพลินกับสิทธิของพลเมืองด้วย ก่อน การวิจัยของศูนย์เกี่ยวกับจีนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างมุมมองทั่วโลกเกี่ยวกับจีนกับการรับรู้เกี่ยวกับสถานะเสรีภาพของพลเมืองภายในประเทศสำหรับพลเมืองจีน และรูปแบบที่คล้ายกันยังคงดำเนินต่อไปนอกขอบเขตของจีน ประเทศที่พลเมืองมีเสรีภาพมากกว่า ตามที่วัดโดย Freedom House มีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อจีน ตัวอย่างเช่น คะแนนรวม Freedom House ของรัสเซียคือ 20 จากคะแนนเต็ม one hundred คะแนน ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่รวมอยู่ในการสำรวจ แต่รัสเซียให้คะแนนจีนสูงที่สุด (71%) อีกด้านหนึ่ง สวีเดนได้รับคะแนนเต็ม a hundred จาก Freedom House ในขณะที่ชาวสวีเดนเพียง 25% มีทัศนคติเชิงบวกต่อจีน เฮิร์ชแมนคงจะทำนายเรื่องนี้ไว้ เขาตั้งข้อสังเกตว่ารูปแบบการเติบโตที่ประสบความสำเร็จได้พัฒนาชุดสถาบันของตนเอง ควบคู่ไปกับการเลือกตั้งที่มีอำนาจซึ่งได้รับประโยชน์อย่างไม่สมส่วนจากสถาบันเหล่านี้ ซึ่งทำให้รูปแบบดังกล่าวยากต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในขณะที่ชนชั้นสูงที่ได้รับประโยชน์จากโมเดลนี้ขยายความมั่งคั่งและอำนาจของตน Hirschman แย้งว่า พวกเขามีแรงจูงใจที่จะยึดมั่นในโมเดลนี้ โดยพื้นฐานแล้ว สีไม่ได้ประกอบระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจของจีน แต่เขาลดฟิวส์ลงอย่างมาก Posen ให้เหตุผลว่าสำหรับคนจีนทั่วไป CCP ได้กลายเป็น “ผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสูงสุดเกี่ยวกับความสามารถของผู้คนในการหาเลี้ยงชีพหรือเข้าถึงทรัพย์สินของพวกเขา” ในระดับหนึ่ง นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในจีนมาโดยตลอด สิ่งที่เปลี่ยนไปคือวิธีที่พรรคตอบสนองต่อปัญหาทางเศรษฐกิจ ในอดีตตอบสนองด้วยการปฏิรูปและลัทธิปฏิบัตินิยม ในทางตรงกันข้าม สัญชาตญาณของสีคือการเผชิญกับทุกความท้าทายด้วยการละเว้นทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่เรื่องราวแตกต่างไปมากในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก (หรือใหญ่เป็นอันดับสอง ขึ้นอยู่กับมาตรการ) นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหลังจากที่ยกเลิกมาตรการ “ไม่มีโควิด” ที่เข้มงวดซึ่งตนนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ในทางกลับกัน จีนกลับมีประสิทธิภาพต่ำกว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเกือบทุกตัว ยกเว้น GDP อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 5.2 เปอร์เซ็นต์ ในแง่นี้ ดูเหมือนว่าปักกิ่งจะสามารถบรรลุอิทธิพลได้ดีที่สุดโดยอาศัยเวลาแฝงที่แพร่กระจายของการพึ่งพาซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจ จีนในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญยังคงเป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจและดึงดูดหลายประเทศ และมักกำหนดเงื่อนไขทัศนคติและการตัดสินใจของผู้นำทางการเมืองจำนวนมาก บางทีอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่ลึกที่สุดอาจขัดแย้งกันเมื่อปักกิ่งอาจไม่ได้กำหนดเป้าหมายทางการเมืองที่ชัดเจนหรือในทันที แต่สามารถใช้ประโยชน์จากอิทธิพลดังกล่าวในช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่สำคัญได้ จีนประสบความสำเร็จบ้าง แต่ก็มีความล้มเหลวหลายประการในการพยายามมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ในการวิจัยของฉัน ฉันแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์แครอทซึ่งถูกโค่นล้มทำให้จีนสามารถรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ผู้นำสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องรับโทษ เช่น กัมพูชา แต่กลับส่งผลกลับคืนมาในประเทศที่ผู้นำเผชิญกับกลไกความรับผิดชอบ แม้จะดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่ายและราคาถูกในการได้รับผลตอบแทนทันที แต่แครอทที่อยู่ใต้โต๊ะได้จุดประกายความไม่พอใจของสาธารณชนและการโต้แย้งของชนชั้นสูง โดยที่ปักกิ่งและโครงการที่ได้รับทุนจากจีนมักจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองและวาทกรรมหาเสียงเลือกตั้ง

พูดอย่างกว้างๆ การเติบโตที่แท้จริงถือได้ว่าเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการบริโภค การส่งออก และการลงทุนทางธุรกิจ (โดยองค์ประกอบสุดท้ายเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่สองประการแรกเป็นส่วนใหญ่) ในขณะที่การเติบโตที่ “สูงเกินจริง” ประกอบด้วยส่วนใหญ่ไม่มีประสิทธิผล หรือไม่เพียงพอ มีประสิทธิผลการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ จุดประสงค์ของการเติบโตที่สูงเกินจริงคือการเชื่อมช่องว่างระหว่างการเติบโตที่แท้จริงกับเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ถือว่าจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองของผู้นำจีน ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางนโยบายของปักกิ่งนั้นรุนแรง ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคชะลอตัว โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่หวังจะซื้อบ้านหลังแรก นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อัตราการแต่งงานและการเกิดลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ ธุรกิจที่มีหน้าร้านจริงได้รับผลกระทบจากต้นทุนทรัพย์สินที่สูง ซึ่งผลักดันให้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกัน ราคาที่ลดลงส่งผลกระทบต่อทุกคนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้จำนอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้าน นักเก็งกำไร หรือธุรกิจก็ตาม พวกเขาอาจพบว่าตัวเองอยู่ใต้น้ำเมื่อมูลค่าทรัพย์สินต่ำกว่าหนี้คงค้าง มีรอยย่นเพิ่มเติมในกรณีของจีน รัฐบาลระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่แสวงหาผลกำไรและได้รับเกียรติจากการสนับสนุนทางการเงินแก่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้าง นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ระบุว่ามีมูลค่า eight.four ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 50% ของ GDP รัฐบาลท้องถิ่นมีกำไรเช่นเดียวกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่รัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่งกลับเข้าข้างพรรคหมีมากขึ้น เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าเงินหยวน ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปีในเดือนกันยายน ปักกิ่งได้เข้าแทรกแซงเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินจีนร่วงเร็วเกินไปด้วยการขายทุนสำรองระหว่างประเทศและซื้อเงินหยวน แม้ว่าจะมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพียงพอ แต่หากความเจริญรุ่งเรืองด้านอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ก็จะลดน้อยลงในที่สุด

แรงงานต้นทุนต่ำที่มีอยู่มากมายของจีนทำให้จีนสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติในโรงงานผลิตที่ใช้แรงงานจำนวนมากซึ่งมีต้นทุนต่ำ เป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นถือเป็นส่วนแบ่งการค้าที่สำคัญของจีน การนำเข้าจำนวนมากของจีนประกอบด้วยชิ้นส่วนและส่วนประกอบที่ประกอบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและคอมพิวเตอร์ จากนั้นจึงส่งออก บ่อยครั้งที่มูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศจีนโดยคนงานชาวจีนนั้นค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์เมื่อจัดส่งไปต่างประเทศ การเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคาดเดาว่าจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะ “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หรือไม่และเมื่อใด ขนาดเศรษฐกิจของจีนที่ “แท้จริง” เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ เมื่อวัดเป็นดอลลาร์สหรัฐโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ระบุ GDP ของจีนในปี 2018 ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 13.four ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 65.3% ของขนาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามการประมาณการของ IMF GDP ต่อหัวของจีนในปี 2018 ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 9,608 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 15.3% ของระดับต่อหัวของสหรัฐฯ เศรษฐกิจของจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเป็นเศรษฐกิจแบบตลาดสังคมนิยมซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังต่อสู้กับภาวะเงินฝืดในภาคผู้บริโภคและการเติบโตที่ซบเซา จีนยังเป็นประเทศที่แตกต่างจากประเทศชั้นนำอื่นๆ อีกหลายประเทศ โดยที่ยังคงติดป้ายตัวเองว่าเป็นเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนา และแสวงหาผลประโยชน์ที่ตามมาในองค์กรระหว่างประเทศ แต่ป้ายชื่อประเทศกำลังพัฒนากลับปฏิเสธความจริงที่ซับซ้อนกว่าที่ว่าการพัฒนามีความไม่เท่าเทียมกันอย่างมากในจีน จังหวัดชายฝั่งทะเลหลายแห่งมีฐานะร่ำรวยกว่าพื้นที่ภายในประเทศและทางตะวันตกมาก ในปี 2022 ภูมิภาคที่ร่ำรวยที่สุดของจีนอย่างปักกิ่ง มี GDP ต่อหัวประมาณ 28,300 ดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศที่มีรายได้สูงและเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จังหวัดกานซู่ที่ยากจนที่สุดของจีน มี GDP ต่อหัวน้อยกว่า 6,seven hundred ดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับของลิเบียโดยประมาณ ในภาพรวมและการวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนที่เชี่ยวชาญนี้ Barry Naughton ประสบความสำเร็จในเชิงลึกและกว้างไกลจนไม่สามารถระบุได้เพียงการมีส่วนร่วมหลักเพียงข้อเดียว เขาอธิบายสถานะของปัจจัยสำคัญทุกประการของเศรษฐกิจที่แผ่ขยายอย่างง่ายดายด้วยร้อยแก้วที่ง่ายดาย และนำเสนอขุมทรัพย์ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ดึงมาจากแหล่งข้อมูลหลักที่เป็นปัจจุบันที่สุด นอกจากนี้ Naughton ยังสำรวจอย่างเป็นระบบว่าประสบการณ์ของทั้งอดีตจักรวรรดิและสังคมนิยมกำหนดรูปแบบเงื่อนไขร่วมสมัยได้อย่างไร และตั้งคำถามยั่วยุเกี่ยวกับความสามารถของจีนในการรักษาอัตราการเติบโตที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าญี่ปุ่นหลังสงครามอยู่แล้ว เศรษฐกิจจีนซึ่งจัดทำขึ้นเป็นตำราเรียนมีน้ำหนักทางปัญญาและอำนาจคงอยู่เทียบเท่ากับเอกสารสำคัญๆ

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สัดส่วนตำแหน่งงานของผู้สำเร็จการศึกษาวิทยาลัยในภาครัฐเพิ่มขึ้นอาจเป็นเพราะรัฐบาลมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีการจ้างงานมากขึ้น ในกรณีนี้ แนวโน้มอาจไม่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการในการหางาน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้สมัครสอบราชการของประเทศเพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 1.5 ล้านคนในปี 2553 เป็นมากกว่า 2.5 ล้านคนในปี 2565 ดังแสดงในรูปที่ 8 จำนวนผู้สมัครมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อัตราการตอบรับเริ่มลดลง ปี 2558 จาก 1.99% เป็น 1.05% ในปี 2565 นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2562 จำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการตอบรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ชัดเจนว่านโยบาย Zero-Covid มีส่วนสนับสนุนแนวโน้มดังกล่าวมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่สูงมากในการเข้าสู่ภาครัฐ เนื่องจากข้าราชการ แสดงให้เห็นถึงความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของนักศึกษาจบใหม่ คนรุ่นใหม่ดูเหมือนจะไม่ชอบความเสี่ยงมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ เนื่องจากพวกเขาชอบงานที่ปลอดภัยซึ่งมีความท้าทายน้อยกว่าและมีความมั่นคงมากกว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศทางการเมืองในประเทศจีนด้วย คนหนุ่มสาวมองว่างานในภาครัฐและภาครัฐเป็นโอกาสในการทำงานที่ดีกว่า การล็อกดาวน์บ่อยครั้งและยาวนานในจีนอันเนื่องมาจากนโยบาย “Zero-Covid” ในช่วง three ปีที่ผ่านมาได้ตอกย้ำทัศนคติดังกล่าว กล่าวคือ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงให้มากที่สุด คนหนุ่มสาวในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะทำงานในภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมากขึ้น และไม่ค่อยเต็มใจที่จะทำงานในองค์กรเอกชนและต่างประเทศ และสาเหตุของการลดลงนี้อาจเกิดจากปัจจัยสองประการ ประการหนึ่งคือครัวเรือนมีความมั่นใจในความสามารถในการซื้ออสังหาริมทรัพย์น้อยลง เนื่องจากเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ครัวเรือนต่างๆ ก็ตระหนักได้ทันทีว่ารายได้ของพวกเขาเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้มาก นอกจากนี้ เนื่องจากในประเทศจีน การขายอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของการขายล่วงหน้า ซึ่งหมายความว่าครัวเรือนจำเป็นต้องชำระเงินดาวน์ก่อน ซึ่งโดยปกติจะล่วงหน้าหนึ่งหรือสองปี ล่าสุด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายผิดนัดชำระหนี้ และปัญหาทางการเงินส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาโครงการในการส่งมอบห้องพรีเซลล์ได้ตรงเวลา จากความท้าทายทั้งสองนี้ ครัวเรือนต่างๆ เริ่มลังเลที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น

ในขณะที่เศรษฐกิจของจีนเติบโตเต็มที่ การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงได้ชะลอตัวลงอย่างมาก จาก 14.2% ในปี 2550 เป็น 6.6% ในปี 2561 และการเติบโตดังกล่าวคาดการณ์โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะลดลงเหลือ 5.5% ภายในปี 2567 รัฐบาลจีนมี ยอมรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง โดยเรียกว่า “ความปกติใหม่” และยอมรับความจำเป็นที่จีนจะต้องยอมรับรูปแบบการเติบโตใหม่ที่อาศัยการลงทุนคงที่และการส่งออกน้อยลง และให้ความสำคัญกับการบริโภคภาคเอกชน บริการ และนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปฏิรูปดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อให้จีนหลีกเลี่ยงการติด “กับดักรายได้ปานกลาง” เมื่อประเทศต่างๆ บรรลุถึงระดับเศรษฐกิจหนึ่งแต่เริ่มประสบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่สามารถรับแหล่งการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมได้ . ในขณะที่เศรษฐกิจของจีนเติบโตเต็มที่ การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงได้ชะลอตัวลงอย่างมาก จาก 14.2% ในปี 2550 เป็น 6.6% ในปี 2561 และการเติบโตดังกล่าวคาดการณ์โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะลดลงเหลือ 5.5% ภายในปี 2567 รัฐบาลจีนมี ยอมรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง โดยเรียกว่า “ความปกติใหม่” และยอมรับความจำเป็นที่จีนจะต้องยอมรับรูปแบบการเติบโตใหม่ที่อาศัยการลงทุนคงที่และการส่งออกน้อยลง และให้ความสำคัญกับการบริโภค การบริการ และนวัตกรรมของภาคเอกชนมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปฏิรูปดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อให้จีนหลีกเลี่ยงการติด “กับดักรายได้ปานกลาง” เมื่อประเทศต่างๆ บรรลุระดับเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งแต่เริ่มประสบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่สามารถรับแหล่งที่มาของการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น นวัตกรรม . จีนเป็นประเทศสังคมนิยมมาตั้งแต่ปี 1949 และเกือบตลอดเวลานั้น รัฐบาลมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น ในภาคอุตสาหกรรม รัฐเป็นเจ้าของบริษัทเกือบทั้งหมดที่ผลิตผลผลิตของจีนมาโดยตลอด สัดส่วนของกำลังการผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมที่ควบคุมโดยรัฐบาลค่อยๆ ลดลง แม้ว่าอุตสาหกรรมหนักจะยังคงเป็นของรัฐเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม ในภาคเมือง รัฐบาลได้กำหนดราคาสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ กำหนดระดับและการกระจายทั่วไปของกองทุนที่ลงทุน กำหนดเป้าหมายผลผลิตสำหรับองค์กรและสาขาขนาดใหญ่ การจัดสรรทรัพยากรพลังงาน กำหนดระดับค่าจ้างและเป้าหมายการจ้างงาน ดำเนินการเครือข่ายการค้าส่งและค้าปลีก และควบคุมนโยบายการเงินและระบบธนาคาร ระบบการค้าต่างประเทศกลายเป็นการผูกขาดของรัฐบาลในช่วงต้นทศวรรษ 1950 ในชนบทตั้งแต่กลางทศวรรษ 1950 รัฐบาลกำหนดรูปแบบการปลูกพืช กำหนดระดับราคา และเป้าหมายผลผลิตคงที่สำหรับพืชผลหลักทั้งหมด การผงาดขึ้นของจีนจากประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจนไปสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญในรอบประมาณสี่ทศวรรษนั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ปี 1979 (เมื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจเริ่มต้น) จนถึงปี 2017 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงของจีน (GDP) เติบโตที่อัตราเฉลี่ยเกือบ 10% ต่อปี ตามข้อมูลของธนาคารโลก จีนได้ “ประสบกับการขยายตัวอย่างยั่งยืนที่เร็วที่สุดโดยเศรษฐกิจหลักใน ประวัติศาสตร์—และได้ช่วยให้ผู้คนมากกว่า 800 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน”2 จีนได้กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญระดับโลก ตัวอย่างเช่น อยู่ในอันดับแรกในแง่ของขนาดทางเศรษฐกิจโดยพิจารณาจากความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) การผลิตมูลค่าเพิ่ม การค้าสินค้า และผู้ถือทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ผลผลิตทางอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่ของจีนช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังทำให้จีนต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นอย่างมาก ผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจหวังว่าจะกีดกันจีนจากการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น แต่ GDP ของจีนยังคงเชื่อมโยงกับการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 อุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงส่งผลให้การส่งออกของจีนลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ส่วนแบ่งการเติบโตของ GDP ของจีนลดลงอย่างมากจากการส่งออกสุทธิ ในทางกลับกัน ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัส Covid-19 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของรัฐบาลในสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้กระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าส่งออกของจีนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ การเติบโตของ GDP จีนร้อยละ 25 ในปี 2563 จึงมาจากการส่งออก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540 บริษัท seventy five แห่งนี้รวมกันในปี 2559 สร้างรายได้ 7.2 ล้านล้านดอลลาร์ มีสินทรัพย์มูลค่า 20.7 ล้านล้านดอลลาร์ และมีพนักงาน 16.2 ล้านคน จากบริษัทจีนอีก 28 แห่งที่อยู่ในรายชื่อ Fortune 500 หลายบริษัทดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงทางการเงินกับรัฐบาลจีน

ทุกวันนี้ แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจ แต่การบุกรุกของรัฐบาลไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุดของจีน ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือไม่ได้ปรับรูปแบบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ การรักษารูปแบบการลงทุนสูงในปัจจุบันจะบิดเบือนการกระจายรายได้ และทำให้อุปสงค์ในประเทศอ่อนแอเกินกว่าจะรองรับการลงทุนของธุรกิจในประเทศ และเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอนี้จำกัดการเติบโตของธุรกิจเอกชน จีนจึงต้องพึ่งพาภาครัฐที่กำลังขยายตัวเพื่อส่งมอบการเติบโตในระดับที่ปักกิ่งเห็นว่ามีความจำเป็นทางการเมือง ในช่วง forty five ปีที่ผ่านมา จีนได้เปลี่ยนแปลงจากประเทศที่ยากจนที่สุดและโดดเดี่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาเป็นหัวใจของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจนั้นสร้างขึ้นบนระบบการปราบปรามทางการเงินที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนและการส่งออกมากกว่าการบริโภคในครัวเรือน ส่งผลให้เกิดภาวะซบเซาที่เป็นอันตรายในด้านอุปสงค์ของเศรษฐกิจ Posen ระบุว่าไตรมาสแรกของปี 2020 เป็น “จุดที่ไม่อาจหวนกลับ” สำหรับเศรษฐกิจจีน แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาที่ปรากฏมาเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ แนวทางการเติบโตของโมเดลการเติบโตนั้นเหนื่อยหน่ายเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเริ่มต้นของแผนห้าปีฉบับที่ 2 (FYP) (พ.ศ. 2501-2505) ผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ไม่มีมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับบทเรียนของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 และผลกระทบต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาที่กำลังพัฒนาของจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 เป็นต้นไป การเติบโตในโครงการ FYP ครั้งที่ 1 ค่อนข้างไม่สมดุล โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเร็วกว่าภาคเกษตรกรรมเกือบห้าเท่า ประสิทธิภาพที่ล้าหลังในภาคเกษตรกรรมทำให้การบริโภคธัญพืชอาหารโดยเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่า three เปอร์เซ็นต์ในช่วงห้าปี ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ และได้จำกัดการเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภคที่ผลิตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณมาก ขึ้นอยู่กับการจัดหาวัตถุดิบจากภาคเกษตรกรรม “เมื่อพวกเขาเห็นว่าส่วนแบ่งในการลงทุนด้านบ้านลดลง พวกเขาใช้จ่ายน้อยลงในทุกสิ่ง เช่น การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ความต้องการลดลง ส่งผลให้การผลิตลดลง และด้วยเหตุนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจจึงช้าลง” ถังบอกกับ VOA ในการตอบกลับทางอีเมล “มีผลกระทบแบบโดมิโนเมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดใหญ่มากและเกี่ยวพันกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงรุกมานานหลายทศวรรษและการกู้ยืมที่ง่ายดายจากธนาคาร” แม้ว่าจีนจะอาศัยการลงทุนในประเทศมาหลายปีเพื่อกระตุ้นการเติบโต แต่การลงทุนเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่ผู้นำประเทศยอมรับได้อีกต่อไป เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบหนักจากหนี้รัฐบาลและหนี้เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นระเบิดเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเกรงว่าอาจส่งผลกระทบที่สะท้อนไปทั่วเศรษฐกิจโลก ในทางกลับกัน ทำให้เกิดความไม่สงบทางเศรษฐกิจภายใน ลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค ตลอดจนการจ้างงานและการลงทุนทางธุรกิจ

สำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย โอกาสในจีนได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม ภาคการตลาด และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อย่างน่าสับสน บางคนอาจบอกว่าน่าสับสน ระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีนและการอพยพจำนวนมากจากชนบทสู่เมืองทำให้เกิดผู้บริโภคในเมืองจำนวนมากที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น สภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้น การเดินทางไปต่างประเทศ การศึกษาที่ดีขึ้น อาหารที่มีโปรตีนสูงขึ้น และทางเลือกบริการทางการเงินที่ดีขึ้น ตั้งแต่ผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนในเมืองที่พัฒนาแล้ว เช่น ปักกิ่ง กวางโจว และเซี่ยงไฮ้ ไปจนถึงชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตในเมืองภายในประเทศที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก จีนอุตสาหกรรมใหม่ถือเป็นแหล่งรวมของโอกาสที่แท้จริง การปรับปรุงภาคส่วนเทคโนโลยีถือเป็นจุดมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์มาเป็นเวลานาน แต่ในขณะที่บริษัทจีนบางแห่งเริ่มแข่งขันในระดับโลก ก็มีมาตรการเพิ่มเติมที่มุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยีของจีน พัฒนาการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี เซมิคอนดักเตอร์และ AI น่าจะเป็นภาคส่วนที่จีนจะผลักดันให้เกิดการพึ่งพาตนเองและความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ประเทศจีนมีการแข่งขันในด้านต่างๆ ของเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจเป็นประเทศที่เชี่ยวชาญในโมเดล “คัดลอกและปรับแต่ง” มากที่สุด โดยที่บริษัทต่างๆ จะปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม เพื่อก้าวไปอีกขั้น จีนจะต้องมุ่งเน้นไปที่การบรรลุ “นวัตกรรมที่ก้าวล้ำ” พูดง่ายกว่าทำ เมื่อสีขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2013 เขามีโอกาสที่จะมุ่งเน้นไปที่การปฏิรูปเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ภายในประเทศโดยการเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการบริโภคมากกว่าการลงทุน และพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ความตกตะลึงทางนโยบายที่สะสมของสองวาระแรกของสี ทำให้ความท้าทายเชิงโครงสร้างที่กำลังลากลงมา—แต่ยังไม่พัง—เศรษฐกิจของจีน พวกเขายังบั่นทอนความเชื่อมั่นที่เป็นรากฐานของยุคเปิดประเทศของเติ้งอีกด้วย นี่ไม่ได้หมายความว่าระดับหนี้ที่สูงและเพิ่มขึ้นของจีนจะไม่เป็นปัญหา หลักฐานแสดงให้เห็นว่าหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเร็วกว่าผลผลิตในช่วงเวลาที่ยืดเยื้อ และส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นนั้นถูกจัดสรรให้กับภาคส่วนที่ไม่มีประสิทธิผล หากไม่มีระเบียบวินัยของตลาดเพื่อเคลียร์ผลตอบแทนที่ต่ำหรือความล้มเหลวของการลงทุน การลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพและสิ้นเปลืองจะอัดแน่นไปด้วยการลงทุนที่มีประสิทธิผลและผลกำไรมากขึ้น ซึ่งหมายถึงการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ถูกต้อง ความสามารถในการทำกำไรและการลงทุนขององค์กรที่ลดลง และการเติบโตในระยะยาวที่ลดลง ทรัพยากรที่สูญเปล่าจะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในที่สุด ซึ่งภาคการเงินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนและท้ายที่สุดคือผู้ออม ท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญวิกฤติ รายได้จากการส่งออกที่ลดลง และการปราบปรามอุตสาหกรรมเอกชน นักลงทุนต่างชาติกำลังถอนตัวออกจากหุ้นจีนในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ การลงทุนส่วนใหญ่มาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน ระหว่างปี 1994 ถึง 2014 ภาคส่วนนี้มีอัตราการเติบโตประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ในช่วงแปดปีที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ four.2 และหดตัวร้อยละ 10 ในช่วงปี 2564 ถึง 2565

ด้วยขนาดของจีน จีนจึงเป็นศูนย์กลางของประเด็นการพัฒนาระดับภูมิภาคและระดับโลกหลายประการ แม้ว่าจะไม่ใช่แหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซสะสมในอดีต แต่ปัจจุบันจีนคิดเป็นร้อยละ 27 ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกต่อปี และหนึ่งในสามของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก โดยขณะนี้การปล่อยก๊าซต่อหัวมากกว่าการปล่อยของสหภาพยุโรป แม้ว่าจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD เล็กน้อยก็ตาม ต่ำกว่าระดับของสหรัฐอเมริกาอย่างมาก และมลภาวะทางอากาศและทางน้ำส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลกไม่สามารถแก้ไขได้หากปราศจากการมีส่วนร่วมของจีน เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของจีนยังเป็นแหล่งสำคัญของความต้องการทั่วโลกอีกด้วย การปรับสมดุลทางเศรษฐกิจจะสร้างโอกาสใหม่สำหรับผู้ส่งออกภาคการผลิต แม้ว่าอาจลดความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ลงในระยะกลางก็ตาม จีนเปลี่ยนจากสังคมที่ยากจนซึ่งได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามกลางเมืองในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มาสู่เศรษฐกิจอันดับสองในปัจจุบันได้อย่างไร หลังจากหลายทศวรรษแห่งความซบเซาทางเศรษฐกิจและความพ่ายแพ้ภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์ จีนเริ่มเปิดกว้างต่อการค้าระหว่างประเทศและเปิดเสรีเศรษฐกิจเมื่อจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตและการค้ากับสหรัฐฯ ในปี 1979 ในขณะที่การเติบโตของการส่งออกในเวลาต่อมาได้กระตุ้นให้เกิดการเติบโตของการผลิตและการขยายตัวของเมือง จีน ขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลกในอีกสี่ทศวรรษข้างหน้า การเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจของจีนได้รับแรงผลักดันจากการขยายตัวของหนี้ที่เพิ่มมากขึ้นตามแนวคิด “Four Modernizations” ที่มุ่งเน้นตลาดของเติ้งเสี่ยวผิงในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เช่นเดียวกับญี่ปุ่นในช่วงหลังสงคราม “ปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ” การเติบโตของจีนนำโดยการส่งออกและการเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเวลาไม่ถึงครึ่งศตวรรษ จีนเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่มีการวางแผนจากส่วนกลางที่ยากจนและมีการค้าระหว่างประเทศเพียงเล็กน้อย ไปสู่ผู้ส่งออกชั้นนำของโลก และมีจำนวนมหาเศรษฐีเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่น ดังแสดงในรูปที่ 7 สัดส่วนของผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยที่ไปศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ สถาบันของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง three ปีที่ผ่านมา จาก 37.39% ในปี 2562 เป็น 49.1% ในปี 2565 ในทำนองเดียวกัน สัดส่วนไปวิสาหกิจต่างประเทศและเอกชนลดลงทุกปี ในช่วง 3 ปี สัดส่วนของผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยใหม่ที่ไปทำงานในบริษัทต่างประเทศและเอกชนลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ที่ทำงานให้กับรัฐบาลเพิ่มขึ้นมากกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มนี้มีการพลิกกลับอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นของการปฏิรูปและการเปิดประเทศในประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่นักศึกษาวิทยาลัยสนใจที่จะเข้าร่วมภาคเอกชนมากขึ้นหลังจากสำเร็จการศึกษา

Liu โต้แย้งคล้ายกับของ Pettis ที่ว่าโครงสร้างของเศรษฐกิจจีนที่ขับเคลื่อนการเติบโตส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่เธอยังตั้งข้อสังเกตถึงขอบเขตนโยบายเพิ่มเติมที่สีได้เพิ่มการแทรกแซงของรัฐบาลโดยกระทบต่อภาคเอกชน และเพิ่มอุปสรรคในการพาณิชย์ระหว่างประเทศของเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนยุทธศาสตร์ “Made in China 2025” และโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ประเด็นเหล่านี้สนับสนุนข้อโต้แย้งของฉันว่าปัจจุบันเป็นการเบี่ยงเบนไปจากกว่าสามทศวรรษของการยับยั้งชั่งใจตนเองในการแทรกแซงทางเศรษฐกิจของผู้นำจีนรุ่นก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่ง การบุกรุกของรัฐบาลเป็นผลมาจากการลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ ไม่ใช่ตัวขับเคลื่อน ความแตกต่างนี้มีความสำคัญอย่างมากเมื่อคิดถึงว่าจีนจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของตนได้อย่างไร จะต้องตอบสนองด้านอุปสงค์ของเศรษฐกิจด้วยการเสริมสร้างส่วนแบ่งของ GDP ที่ครัวเรือนจีนรักษาไว้ จนกว่าปักกิ่งจะทำเช่นนั้น หรือจนกว่าจะเต็มใจที่จะยอมรับอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่ามาก บทบาทของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจจำเป็นต้องขยายตัวเมื่อเทียบกับบทบาทของภาคเอกชน แม้ว่าปักกิ่งจะตัดสินใจลดการบุกรุกของรัฐบาล แต่การเติบโตก็จะไม่เพิ่มขึ้นเว้นแต่จะอยู่ที่ส่วนต่าง และอัตราการเติบโตโดยรวมของจีนจะยังคงลดลงต่อไป อาจต่ำกว่าสองถึงสามเปอร์เซ็นต์ 2549 แต่เมื่อปิดแล้ว จีนควรเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการเติบโตที่แตกต่างออกไป ซึ่งให้ความสำคัญกับการบริโภคมากกว่าการลงทุน สิ่งนี้จำเป็นต้องพัฒนาชุดธุรกิจ กฎหมาย การเงิน และสถาบันการเมืองชุดใหม่ เพื่อส่งเสริมรายได้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคมากขึ้น แต่เช่นเดียวกับประเทศที่คล้ายกันซึ่งมาถึงจุดสำคัญนี้ เช่น บราซิลในทศวรรษ 1970 และญี่ปุ่นในทศวรรษ 1980 จีนไม่ได้ปฏิรูปรูปแบบการเติบโตของตน ในความเป็นจริง ตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2554 การบริโภคภาคครัวเรือนโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ลดลงเร็วกว่าในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 เหลือ 34 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับกว่า 50 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยในส่วนอื่นๆ ของโลก อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP โดยรวมของจีนอยู่ที่ประมาณ 300% และเพิ่มขึ้น ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาตลาดเกิดใหม่ และสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่เช่นกัน แม้ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางของจีนจะค่อนข้างน้อยโดยสูงกว่า 20% ของ GDP แต่หนี้ในระดับรัฐบาลท้องถิ่นก็คาดว่าจะมากกว่า 70% ของ GDP นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งไม่มีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายดอกเบี้ยหนี้ของตน บางส่วนของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงในการชำระหนี้ เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำอย่างหนัก

นโยบาย Zero-Covid ในช่วงสามปีที่ผ่านมาส่งผลให้โรงเรียนปิดตั้งแต่โรงเรียนประถมศึกษาไปจนถึงวิทยาลัยในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น จีนขยายเวลาวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ออกไป ทำให้การเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิสำหรับโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา และวิทยาลัยทั้งหมดล่าช้าออกไป นอกจากนี้ การสอนออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติในฐานะการทดแทนการสอนแบบตัวต่อตัว ตัวอย่างเช่น จากข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยทั้งหมด 1,454 แห่งเปิดตัวการสอนออนไลน์ โดยมีครู 1.03 ล้านคนเปิดสอนหลักสูตรออนไลน์ 1.07 ล้านหลักสูตร รวมทั้งหมด 12.26 ล้านหลักสูตร นักศึกษาวิทยาลัยทั้งหมด 17.seventy five ล้านคนเข้าร่วมในการเรียนรู้ออนไลน์8 การปฏิบัติดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพการศึกษา เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่เพียงพอระหว่างนักเรียนและครูในสภาพแวดล้อมออนไลน์ ผู้อนุญาต และผู้มีส่วนร่วม สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด รวมถึงสิทธิ์สำหรับการขุดข้อความและข้อมูล การฝึกอบรม AI และเทคโนโลยีที่คล้ายกัน สำหรับเนื้อหาการเข้าถึงแบบเปิดทั้งหมด จะมีการบังคับใช้ข้อกำหนดการอนุญาตสิทธิ์ของ Creative Commons ตัวบ่งชี้ที่สองคือการบริโภค เนื่องจากเป็นเวลาหลายปีที่จีนต้องอาศัยการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต แต่การลงทุนโดยไม่บริโภคนั้นไม่ยั่งยืน เป็นผลให้เราต้องการเห็นการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคแทนที่จะเป็นการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการลงทุน ก่อนหน้านี้ Houze เคยเป็นนักวิจัยที่ Columbia Global Center (เอเชียตะวันออก) ก่อนหน้านั้น เขาทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายวิจัยที่สถาบัน Unirule ซึ่งเขาช่วยประธานเหมา ยู่ชิ ในด้านการวิจัยและการจัดการโครงการ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิธีการเชิงปริมาณ และ MPA ในสาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ทั้งจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักเศรษฐศาสตร์บางคนกังวลว่าอุปสงค์ที่ต่ำอย่างต่อเนื่องในจีนอาจส่งผลกระทบทั่วโลก เนื่องจากอาจเริ่มพึ่งพาอุปสงค์จากประเทศอื่นๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่ผู้คนจำนวนมากทั้งในและนอกสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น ฉันเชื่อว่าผู้นำระดับสูงเต็มใจที่จะอดทนต่อความเจ็บปวดมากกว่าที่นักลงทุนและประชาชนคาดหวัง และจะยังคงทำให้ระบบแข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้สามารถทนต่อช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขึ้นได้

หลักสูตรนี้จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้และทักษะในการตอบคำถามเหล่านี้และอื่นๆ ผ่านการบรรยายและแบบฝึกหัดที่เริ่มต้นกับจีนภายใต้เหมา ก่อนที่จะสำรวจลักษณะสำคัญของช่วงการปฏิรูป จากการทดลองอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการลงทุนและการส่งออกที่ไม่สมดุล นำการเติบโตไปสู่ ​​’ยุคใหม่’ ของลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีนของสีจิ้นผิง จากนั้น หลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายหลักที่จีนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ ความจำเป็นในการเติบโตของ “สีเขียว” ที่ใช้คาร์บอนต่ำ และประชากรสูงวัย ขณะเดียวกันก็สำรวจภารกิจของจีนที่จะกลายเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยีระดับโลก การเสื่อมถอยของสหรัฐฯ ความสัมพันธ์จีนผ่านเลนส์ภูมิเศรษฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจออสเตรเลีย-จีน ปักกิ่งสามารถนำหนี้มาอยู่ภายใต้การควบคุมในขณะที่ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่สูงด้วยการแทนที่การลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดผลด้วยส่วนแบ่งการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของ GDP นี่คือสิ่งที่ปักกิ่งเสนอมาตั้งแต่อย่างน้อยในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 เมื่อ (ระหว่างการแถลงข่าวปิดการประชุมรัฐสภาสองสมัย) นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ประกาศว่าการปรับสมดุลระหว่างอุปสงค์ภายในประเทศต่อการบริโภคจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของปักกิ่ง รัฐบาลจีนถูกตำหนิอย่างมากว่า “ก่อให้เกิด” วิกฤติครั้งนี้ แต่ขนาดของอุบัติเหตุส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของเอกชนในการกู้ยืมและให้กู้ยืม เมื่อเศรษฐกิจดูเหมือนร้อนเกินไป ปักกิ่งได้ช่วยเหลือหมีด้วยนโยบาย Three Red Lines ในเดือนสิงหาคม 2020 ข้อจำกัดด้านเครดิตเหล่านี้เข้มงวดสำหรับวัว เนื่องจากการขยายเวลาอย่างมหาศาลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนหลายแห่งตลอดจนนักลงทุนรายย่อยหลายล้านราย ทันทีที่ราคาเริ่มแตะระดับสูงสุดและจากนั้นก็ลดลง ความต้องการของนักเก็งกำไรก็หายไป ผู้บริโภคอาจจำเป็นต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ แต่นักลงทุนเก็งกำไรต้องการซื้อก็ต่อเมื่อพวกเขามั่นใจว่าราคาจะสูงขึ้นต่อไป การตกต่ำในปัจจุบันถือเป็นชัยชนะของกลุ่มหมี ไม่ใช่ความล้มเหลวทางนโยบาย

ประเทศที่ร่ำรวยและเป็นประชาธิปไตยอื่นๆ ของโลกกำลังเผชิญกับโอกาสที่น่ากังวลที่จะต้อง “ปกป้องทรัมป์” พันธมิตรจากตะวันตก หรือไม่ก็อธิษฐานให้ไบเดนได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แนวทางการดำเนินการอย่างรอบคอบสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือการยืนยันชุดพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองโดยรวม ระบอบการปกครองด้านอุปทานและการค้าที่รวบรวมและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระเบียบตามกฎของสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ยังไม่คว้าช่วงเวลานี้ไว้ ประธานาธิบดีไบเดนหมกมุ่นอยู่กับการรักษาการเลือกตั้งใหม่ของเขา โอกาสที่โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาที่ทำเนียบขาวทำให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรง อะไรจะเกิดขึ้นจากการที่เขาได้โอบกอดประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียอย่างเปิดเผย และโดยพฤตินัยแล้วบทบาทผู้นำระดับโลกของจีนโดยพฤตินัยก็เกิดจากการผิดนัดของอเมริกาเอง ทรัมป์กำลังทำให้อนาคตของยูเครนที่เป็นประชาธิปไตย (และอาจเป็นพันธมิตร NATO อื่นๆ) ตกอยู่ในความเสี่ยงโดยการสั่งการให้สภาผู้แทนราษฎรซึ่งแพ็คเกจความช่วยเหลือหยุดชะงักลง พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือยูเครนได้ สำหรับสหรัฐอเมริกานั้น กำลังไล่ตามเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วและมีพลวัตมากที่สุดในโลก อัตราเงินเฟ้อลดลงในขณะที่งาน ค่าจ้างที่แท้จริง และผลผลิตเพิ่มขึ้น “บ่อยครั้งที่วิทยานิพนธ์อันยิ่งใหญ่จับเอาจินตนาการของโลก” บทความใน The New Yorker เมื่อปี 2008 เริ่มขึ้น “ล่าสุด … ก็คือช่วงเวลาแห่งการครอบงำโลกของอเมริกาได้สิ้นสุดลงแล้ว และมหาอำนาจใหม่ๆ เช่น จีน อินเดียและรัสเซียพร้อมที่จะเข้าครอบครอง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฝ่ายการต่างประเทศก็พาดหัวเรื่อง “มหาอำนาจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” เมื่อปี 2011 และบทความปี 2018 จาก The Economist ที่ว่า “ศตวรรษของจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี” ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้สร้างความแตกต่างอะไรขึ้นมา

ความจำเป็นในการสร้างความมั่นคงเหนือเศรษฐกิจนี้ปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นในการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการจารกรรมของจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 กฎหมายที่ได้รับการปรับปรุงไม่เพียงขยายขอบเขตและลดทอนคำจำกัดความของการจารกรรมเท่านั้น แต่ยังให้อำนาจที่หลากหลายแก่ท้องถิ่นด้วย เจ้าหน้าที่เข้ายึดข้อมูลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฐานต้องสงสัย แนวทางการรักษาความปลอดภัยเพื่อการพัฒนาแบบใหม่ของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นในการปราบปรามบริษัทที่ปรึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างความตกตะลึงให้กับนักลงทุนเอกชนนับแต่นั้นมา โดยปกติแล้วอัตราการเติบโตที่ระบุควรสูงกว่าอัตราการเติบโตที่แท้จริง แต่ในปีที่มีภาวะเงินฝืด อัตราการเติบโตที่แท้จริงอาจทำให้ภาพที่บิดเบี้ยวได้ เนื่องจากภาวะเงินฝืดหรืออัตราเงินเฟ้อติดลบจะขยายตัวเลขที่แท้จริง ดังนั้น ความจริงที่ว่าหมายเลข GDP ที่แท้จริงของจีนเกินจำนวนที่ระบุ บ่งชี้ว่ามูลค่ารวมของผลผลิตของปักกิ่งในแง่ที่แท้จริงนั้นถูกขยายขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อติดลบ กล่าวคือ ราคาสินค้าและบริการที่ลดลงโดยทั่วไป หากไม่ใช่เพราะภาวะเงินฝืด การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงของจีนในปี 2566 คงจะต่ำกว่านี้อีก และคงจะพลาดเป้าหมายระดับชาติที่ 5 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน

ผู้นำสหรัฐฯ ต่างคาดการณ์ว่าความขัดแย้งทางเศรษฐกิจนี้จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอย่างมหาศาลหากเขาได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2567 ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในกฎหมายเพื่อกระตุ้นการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ในประเทศและตัดจีนออกจากเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้อง เขายังจับตาดูข้อจำกัดใหม่ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของจีนและการนำเข้าอื่นๆ ในระยะที่สอง แผนของ Li มีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้โดยเปลี่ยนการมุ่งเน้นของเศรษฐกิจจีนไปที่นวัตกรรม การผลิต และเทคโนโลยีให้มากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อาจไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนวิถีเศรษฐกิจของประเทศ แต่การกำหนดเป้าหมายอันทะเยอทะยานนี้ไม่ได้มาพร้อมกับ “การปฏิรูปที่ทะเยอทะยานเพื่อเปลี่ยนวิถีการเติบโตของจีน” โทมัสกล่าวเสริม กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าจีนจะพลาดเป้าหมายร้อยละ 5 ในปี 2567 หรือประมาณการเติบโตของ GDP เพียงร้อยละ four.6 ซึ่ง IMF คาดว่าจะลดลงเหลือร้อยละ 3.5 ภายในปี 2571 ภาคความไว้วางใจมูลค่าราว three ล้านล้านดอลลาร์ของจีนเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม “ธนาคารเงา” ขนาดใหญ่ในประเทศ ซึ่งให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการและครัวเรือนที่ไม่ได้รับบริการจากระบบธนาคารของรัฐมานานหลายทศวรรษ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการเก็งกำไรและการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น ในปี 2020 หน่วยงานกำกับดูแลได้ประกาศชัยชนะในการทำความสะอาดอุตสาหกรรมการให้กู้ยืมแบบ peer-to-peer ออนไลน์ของจีนหรือ P2P

ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางบน แม้ว่าจีนได้ขจัดความยากจนขั้นรุนแรงไปแล้ว แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงมีความเสี่ยง โดยรายได้ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ มักใช้เพื่อระบุความยากจนในประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง เมื่อคนส่วนใหญ่นึกถึง “Made in China” การเชื่อมโยงตามสัญชาตญาณครั้งแรกของพวกเขาน่าจะเหมือนกับสินค้าที่ผลิตจำนวนมากที่มีต้นทุนต่ำ นี่เป็นเพราะทศวรรษที่ผ่านมาในการครองอุตสาหกรรมการผลิตระดับล่างเนื่องจากมีข้อได้เปรียบที่สำคัญหลายประการ นี่ไม่ใช่แค่บริการริมฝีปากเท่านั้น สิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐกิจใหม่” แซงหน้าการเติบโตของ GDP ทั่วไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างปี 2560 ถึง 2566 เศรษฐกิจใหม่เติบโตเฉลี่ย 10.2% ต่อปี ซึ่งเร็วกว่าการเติบโตของ GDP เฉลี่ย 5.5% มาก

โดยทั่วไป หน่วยงานรัฐทางเศรษฐกิจของจีนดำเนินการมากขึ้นโดยการคูณความชอบ โดยเพิ่มขีดความสามารถให้กับกลุ่มที่มีความชอบที่ทับซ้อนกัน (ไม่ว่าจะเพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือของชาติ) เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ความร่วมมือกับจีนมากขึ้น การโน้มน้าวนักแสดงให้เปลี่ยนการตั้งค่านโยบายของตนเป็นเรื่องยากสำหรับปักกิ่ง สิ่งจูงใจที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น การลงทุนที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่สาธารณะ และมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง มีแนวโน้มที่จะสามารถเปลี่ยนทัศนคติได้มากกว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว สิ่งนี้ได้ผลไม่มากนักในช่วงเวลาที่ยาวนาน และมักเป็นผลพลอยได้จากการพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในวงกว้างมากกว่าที่จะเป็นเกมระยะยาวโดยเจตนา จีนมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกโดยมี GDP อยู่ที่ 17.9 ล้านล้านดอลลาร์ ณ ปี 2022 ตามหลัง GDP ของสหรัฐอเมริกาที่ 25.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ขับเคลื่อนโดยพลังของการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ หากเศรษฐกิจมีความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (PPP) จีนจะแซงหน้าอเมริกาในฐานะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดด้วยกำลังซื้อมากกว่า 30.three ล้านล้านดอลลาร์ เทียบกับ 25.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในประเทศจีน ซึ่งอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) รวมถึงหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น สูงถึงร้อยละ 110 ในปี 2565 ซึ่งสร้างความปวดหัวให้กับผู้กำหนดนโยบายมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม การลงทุนของรัฐกลับเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการลงทุนภาคเอกชนที่ลดลง แต่สิ่งนี้ไม่สามารถทดแทนได้ในระยะยาวด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก หนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงอาจนำไปสู่การอัดแน่นของเงินทุน ส่งผลให้แหล่งทรัพยากรสำหรับธุรกิจเอกชนหดตัวลง และประการที่สอง รัฐบาลได้ขยายขอบเขตออกไปแล้วเนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 55.9 ในปี 2566 เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์หนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงเหลือพื้นที่น้อยมากสำหรับรัฐบาลที่จะรักษาไว้ได้ ไม่ต้องพูดถึงการขยายรายจ่ายในปัจจุบัน

หลักสูตรนี้ให้ภาพรวมของเศรษฐกิจจีน โดยเน้นสองประเด็นหลัก อันดับแรก เราจะทบทวนการปฏิรูปครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งได้พลิกโฉมจีนยุคใหม่โดยพื้นฐานดังที่เราเห็นในปัจจุบัน ประการที่สอง เราจะหารือเกี่ยวกับสถาบันทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญบางแห่งของจีน และผลกระทบที่มีต่อจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก ตลอดหลักสูตร จะเน้นเป็นพิเศษถึงบทบาทของรัฐต่อประสบการณ์การเติบโตของจีน ทั้งในระดับส่วนกลางและระดับท้องถิ่น ทั้งการประชุม Central Economic Work Conference และการประชุมงานทางการเงินกลางเดือนตุลาคม ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในรอบหลายปี ได้เพิ่มความหวังว่าจะมีมาตรการที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ก้อนใหญ่บางส่วน ขั้นตอนที่มีความหมายและน่าเชื่อถือในการแก้ไขวิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์และหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นไปในเชิงบวกอย่างมาก และยังสร้างความเจ็บปวดอย่างมากด้วย อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของอสังหาริมทรัพย์ในเศรษฐกิจจีนกำลังลดน้อยลง โดยฟองสบู่ราคาที่อยู่อาศัยที่สูงจะค่อยๆ ลดลง เป็นเรื่องจริงที่ยอดขายที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ลดลงจาก 18 ล้านล้านหยวนในปี 2564 เหลือ eleven.7 ล้านล้านหยวนในปี 2566 แต่การลงทุนภาคเอกชนของจีนก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ในปี 2566 ด้วยอุตสาหกรรมที่เรียกว่า “สามใหม่” ที่กำลังขยายตัว ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ ยานพาหนะไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ชดเชยการเติบโตที่ซบเซาของอสังหาริมทรัพย์ จีนยังสร้างความแตกต่างด้วยการบรรลุอัตราการเติบโตของ GDP ที่สูงกว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ที่น่าสังเกตยิ่งกว่านั้นคือสิ่งนี้ทำมาหลายทศวรรษแล้ว ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา จีนมีการเติบโตของ GDP โดยเฉลี่ยเพียงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งบางครั้งก็สูงถึงมากกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง และเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมาก (ไม่รวมจีน) การเติบโตของ GDP ของจีนลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในปี 2020 ลดลงเหลือเพียง 2.2 เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังแซงหน้าพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นตัวบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับขนาดและอำนาจทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยทั่วไป GDP หมายถึงมูลค่าตลาดรวมของสินค้าและบริการสำเร็จรูปทั้งหมดที่ผลิตภายในพรมแดนของประเทศในช่วงเวลาที่กำหนด GDP ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบแต่อย่างใด ขาดความซับซ้อนที่จำเป็นในการให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพและผลผลิตทางเศรษฐกิจ และเป็นที่ทราบกันว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของจีนมีการบิดเบือน อย่างไรก็ตาม GDP เป็นหนึ่งในจุดข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ได้รับการอ้างถึงมากที่สุดและการติดตามใบสำคัญแสดงสิทธิ

ส่วนสำคัญของการมุ่งเน้นนโยบายคือการสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่จะช่วยให้มีการพัฒนาในระยะยาวที่ยั่งยืน ตลาดจีนกำลังหารือเกี่ยวกับการพัฒนา “พลังการผลิตใหม่” ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศเกียรติคุณให้เป็นประเด็นหลักสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งนี้ หากทำถูกต้อง การสนับสนุนพันธมิตรสามารถเสนอ “ข้อเสนอ” ทางการค้า การลงทุน และการพัฒนาที่น่าดึงดูดใจแก่ทุกประเทศได้มากกว่าของจีนที่ลดน้อยลง นอกจากนี้ยังจะส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังจีนว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรจะยุติการพึ่งพาที่สามารถนำไปใช้ในการขู่กรรโชกทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตามที่จีนหวังไว้ ในช่วงสงครามเย็น ส่วนการค้าที่สำคัญของจีนกับโลกที่สามได้รับการสนับสนุนทางการเงินผ่านการให้ทุน สินเชื่อ และความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากเหมา เจ๋อตง เสียชีวิตในปี 1976 ความพยายามเหล่านี้ก็ลดน้อยลง หลังจากนั้นการค้ากับประเทศกำลังพัฒนาก็ไม่มีนัยสำคัญ แม้ว่าในช่วงเวลานั้น ฮ่องกงและไต้หวันต่างก็เริ่มกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ ในทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและการรวมที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตและชดเชยการสูญเสียคนงานในชนบทที่อพยพไปยังเมืองต่างๆ ตามสถิติขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ อัตราการเติบโตประจำปีของเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศจีนอยู่ที่ 6.4% ภายในปี 2014 อัตราการใช้เครื่องจักรแบบบูรณาการได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 60% โดยมีอัตราข้าวสาลีสูงกว่า 90% และอัตราสำหรับข้าวโพดใกล้ถึง 80%[192] นอกเหนือจากอุปกรณ์การเกษตรมาตรฐาน เช่น รถแทรกเตอร์ สหกรณ์การเกษตรของจีนยังได้เริ่มใช้อุปกรณ์ไฮเทค รวมถึงยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ซึ่งใช้ในการพ่นยาฆ่าแมลงในพืชผล มีความก้าวหน้าที่ดีในการเพิ่มการอนุรักษ์น้ำ และพื้นที่เพาะปลูกประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้การชลประทาน มุมมองเชิงบวกต่อสีได้เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ทั้งในปีที่ผ่านมาและตั้งแต่ปี 2014 ความเชื่อมั่นต่อผู้นำจีนที่เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ปี 2018 เกิดขึ้นในอาร์เจนตินา เม็กซิโก สเปน และอิตาลี เมื่อย้อนกลับไปในปี 2014 สีจิ้นผิงมีอัตราค่าโดยสารที่ดียิ่งขึ้น โดยได้รับ 15 คะแนนขึ้นไปในฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา เม็กซิโก ตูนิเซีย รัสเซีย และไนจีเรีย ใน 18 ประเทศ ผู้คนจำนวนมากคิดว่าเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของจีนเป็นสิ่งที่ดีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดีสำหรับประเทศของตน โดยรวมแล้ว ค่ามัธยฐาน 55% มองว่าประโยชน์ต่อเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่ง 30% บอกว่าเป็นผลเสียต่อประเทศของตน

ใน 19 ประเทศ ผู้ที่กล่าวว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในเกณฑ์ดี มีทัศนคติเชิงบวกต่อจีนมากขึ้น ในลิทัวเนีย 55% ของผู้ที่ให้คะแนนเศรษฐกิจของตนว่าดีมีทัศนคติที่ดีต่อจีน มีเพียง 33% ของผู้ที่กล่าวว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงย่ำแย่มีความคิดเห็นเช่นนั้น ซึ่งถือเป็นช่องว่าง 22 จุด ความแตกต่างขนาดใหญ่ในทำนองเดียวกันมีอยู่ในฮังการี (19 คะแนน) สโลวาเกีย (17 คะแนน) เกาหลีใต้ (17 คะแนน) อิสราเอล (16 คะแนน) ยูเครน (16 คะแนน) เคนยา (15 คะแนน) และแอฟริกาใต้ (15 คะแนน) ถึงกระนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะจินตนาการว่าเศรษฐกิจของจีนถึงจุดสูงสุดแล้ว สีกลับทิศทางนโยบาย “ศูนย์โควิด” ของเขาอย่างกะทันหัน เมื่อต้นทุนของมันไม่สามารถป้องกันได้ เขาควรทำเช่นนั้นตามกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของเขาเช่นกัน—และเขาก็สามารถทำได้ ในอดีต ชาวจีนมักจะไม่มองย้อนกลับไปถึงความวุ่นวายทางการเมืองหลังจากที่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว Posen มีเหตุผลในการเตือนว่าการจัดการโรคระบาดอย่างไม่ถูกต้องของ Xi มีแนวโน้มที่จะ “สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจจีนไปอีกหลายปี” แต่เขาคิดผิดที่บอกเป็นนัยว่านักประวัติศาสตร์จะมองย้อนกลับไปในยุคโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจของจีน แทนที่จะเป็นก้าวเดียวบนเส้นทางอันยาวไกล ก่อนเกิดโรคระบาด การส่งเสริมยุทธศาสตร์การผสมผสานระหว่างทหารและพลเรือนอย่างแข็งขันของสี ได้กระตุ้นให้ผู้นำสหรัฐฯ ปรับปรุงการคัดกรองการลงทุนและการควบคุมการส่งออก ข้อจำกัดของชาติตะวันตกเหล่านี้ได้เพิ่มต้นทุนในการขับเคลื่อนของเขาในการก้าวไปสู่อำนาจสูงสุดทางเทคโนโลยี โดยกำหนดให้รัฐต้องควบคุมทรัพยากรของชาติเพิ่มเติม ด้วยการใช้ประโยชน์จากอำนาจทางการตลาดและกลไกการโฆษณาชวนเชื่อที่จัดตั้งขึ้น ปักกิ่งกำลังระดมการคว่ำบาตรผู้บริโภคที่มีใจรักในฐานะเครื่องมือบังคับขู่เข็ญที่บิดเบือนได้ มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดเป้าหมายไปที่บุคคลที่สามและบริษัทในประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น ไต้หวันและฮ่องกง แต่ปักกิ่งกำลังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มความถูกต้องตามกฎหมายและการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้กลับเป็นสถาบัน (แม้ว่าการดำเนินการจริงยังคงมีจำกัดจนถึงขณะนี้) นอกจากนี้ การขาดการควบคุมที่แม่นยำต่อผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งนำไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการหรือไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่ถูกโค่นล้ม ยังสร้างผลลัพธ์อิทธิพลเชิงลบอีกด้วย ในระดับของอิทธิพลเชิงกลยุทธ์ ความพยายามในการโน้มน้าวซึ่งบ่อนทำลาย เช่น การติดสินบนนักการเมือง การหลีกเลี่ยงกฎระเบียบ หรือการตัดมุม ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ทั่วโลกของจีน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผล เนื่องจากจีนพยายามวางตำแหน่งตัวเองว่าเป็นมหาอำนาจที่ส่งเสริม “ชัยชนะ” อย่างเห็นได้ชัด -win” ความร่วมมือ แม้ว่าหน่วยงานรัฐทางเศรษฐกิจของจีนได้เปลี่ยนแปลงการคำนวณเชิงกลยุทธ์สำหรับหลายประเทศ และอาจมีผลกระทบในวงกว้างต่อเส้นทางการแข่งขันของมหาอำนาจ อิทธิพลของจีนก็ไม่ใช่ข้อสรุปที่กล่าวมาล่วงหน้า ปักกิ่งเผชิญกับการตอบโต้อย่างมากและมักจะยิงตัวเองตาย แสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม ในเวลาเดียวกัน การล่อลวงที่แพร่กระจายของการพึ่งพาซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจยังคงเป็นแรงดึงดูดที่ทรงพลัง และเป็นสิ่งที่ยากสำหรับวอชิงตันที่จะจัดการเผชิญหน้าโดยไม่เสนอโอกาสทางเศรษฐกิจทางเลือกหรือเสริม

บริษัทบางแห่งใช้จีนเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกสำหรับชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้น จากนั้นจึงส่งออกและประกอบที่อื่น บริษัทอื่นๆ ได้ย้ายการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากประเทศอื่นๆ (ส่วนใหญ่ในเอเชีย) ไปยังประเทศจีน พวกเขานำเข้าชิ้นส่วนและวัสดุไปยังประเทศจีนเพื่อประกอบขั้นสุดท้าย 2557 จีน พร้อมด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ ได้ประกาศจัดตั้ง “ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่” มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ธนาคารใหม่มีเป้าหมายที่จะให้ทุนแก่โครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 จีนได้เปิดตัวธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) แห่งใหม่มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุนสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย105 ห้าสิบเจ็ดประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง AIIB ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง ประกาศว่าจะเปิดทำการในเดือนมกราคม 2559 ปัจจุบัน สหรัฐฯ เลือกที่จะไม่เข้าร่วม AIIB รายงานนี้ให้ข้อมูลความเป็นมาเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจของจีน อธิบายโครงสร้างทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ระบุความท้าทายที่จีนเผชิญเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ และหารือเกี่ยวกับความท้าทาย โอกาส และผลกระทบจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสำหรับสหรัฐอเมริกา ในหลาย ๆ ด้าน จีนถือเป็นประเทศที่แตกต่างจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก เศรษฐกิจชั้นนำส่วนใหญ่อยู่ในสังคมที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย แต่จีนเป็นรัฐเผด็จการที่จำกัดเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างมาก วิธีหนึ่งในการแสดงสถานะที่ผิดปกติของจีนคือการวางแผน GDP เทียบกับ Freedom Scores ซึ่งเป็นมาตรการที่ Freedom House คิดค้นขึ้นเพื่อประเมินสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพของพลเมืองทั่วโลก ในปี 2022 จีนได้รับคะแนนเสรีภาพที่ 9 ซึ่งเป็นหนึ่งในคะแนนที่ต่ำที่สุดในโลก ซึ่งบ่งชี้ว่า “ไม่เสรี” ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดห้าอันดับแรกอื่นๆ (สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหราชอาณาจักร) ต่างก็มีคะแนนสูงกว่า 80 ซึ่งบ่งชี้ว่า “เป็นอิสระ” ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาซึ่งมีคะแนนเสรีภาพที่คล้ายคลึงกันกับจีน นั่นคือ ซาอุดิอาระเบีย มี GDP อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ เพียง 6 เปอร์เซ็นต์ของขนาดของจีน ภาพรวมที่ครอบคลุมของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน นำเสนอคุณภาพและความครอบคลุมที่ไม่พบในข้อความภาษาอังกฤษอื่นๆ ใน The Chinese Economy นั้น Barry Naughton นำเสนอทั้งการแนะนำเศรษฐกิจของจีนที่น่าดึงดูดและเน้นในวงกว้างมาตั้งแต่ปี 1949 และข้อมูลเชิงลึกดั้งเดิมจากการวิจัยอันกว้างขวางของเขาเอง หนังสือเล่มนี้จะเป็นแหล่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับนักเรียน ครู นักวิชาการ นักธุรกิจ และผู้กำหนดนโยบาย เหมาะสำหรับใช้ในห้องเรียนสำหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตศึกษา

ช่องที่ 3 คือ ตัวชี้วัดทางการเงิน โดยพื้นฐานแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของจีนและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอาจทำให้เกิดการขายแบบ “ลดความเสี่ยง” ในตลาดการเงิน ตัวอย่างเช่น ในช่วงครั้งสุดท้ายที่การเติบโตของจีนชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งก็คือระหว่างปี 2558 ถึง 2559 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ลดลงเช่นกันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการลงจอดอย่างหนักของจีน แม้ว่ารัฐจะควบคุมการเกษตรกรรมในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960 แต่ระบบก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970 เครื่องมือหลักในการกำหนดลำดับความสำคัญของรัฐ ได้แก่ ชุมชนของประชาชน ตลอดจนทีมงานและกองพลน้อยที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของพวกเขา ได้ถูกล้มล้างลงหรืออ่อนแอลงอย่างมาก แรงจูงใจของเกษตรกรได้รับการเพิ่มขึ้นทั้งจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าเกษตรที่รัฐจัดซื้อและการอนุญาตให้ขายการผลิตส่วนเกินในตลาดเสรี อนุญาตให้มีเสรีภาพมากขึ้นในการเลือกพืชที่จะปลูก และเกษตรกรรายย่อยได้รับอนุญาตให้ทำสัญญาสำหรับที่ดินที่พวกเขาจะใช้ทำงาน แทนที่จะเพียงแต่ทำที่ดินส่วนใหญ่ร่วมกัน ระบบโควต้าการจัดซื้อจัดจ้าง (คงที่ในรูปแบบของสัญญา) กำลังจะยุติลง แม้ว่ารัฐจะยังคงซื้อสินค้าทางการเกษตรและควบคุมการเกินดุลเพื่อส่งผลกระทบต่อสภาวะตลาดได้ กระบวนการวางแผนทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการปรึกษาหารือและการเจรจาต่อรองอย่างมาก ข้อได้เปรียบหลักของการรวมโครงการไว้ในแผนรายปีคือวัตถุดิบ แรงงาน ทรัพยากรทางการเงิน และตลาดได้รับการประกันโดยคำสั่งที่มีผลบังคับของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง กิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมากดำเนินไปนอกขอบเขตของแผนโดยละเอียด และมีแนวโน้มว่าแผนจะมีขอบเขตแคบลงแทนที่จะมีขอบเขตกว้างขึ้น ปี 2024 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับจีน เนื่องจากเศรษฐกิจติดขัดภายใต้ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นและภาวะเงินฝืดที่ทวีความรุนแรงขึ้น บริษัทของฉัน Enodo Economics ประมาณการว่าการสูญเสียเครดิตโดยรวมน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 37 เปอร์เซ็นต์ถึง 42 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในขณะที่ภาวะเงินฝืดถือเป็นระดับที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียในปี 1997 ผู้ที่หวังว่าจะได้รับ “มาตรการกระตุ้น” ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และการกลับไปสู่การกำหนดนโยบายแบบ “เชิงปฏิบัติ” มากขึ้น มีแนวโน้มที่จะผิดหวังอีกครั้งในปี 2024 มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำหนดเป้าหมายไว้มากมาย แต่เป้าหมายคือการจัดการวิกฤตหนี้และป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างรวดเร็ว กิจกรรมและการจ้างงาน แทนที่จะเป็นมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่เหมือนปี 2551 สำหรับการหวนคืนสู่ “ลัทธิปฏิบัตินิยม” แนวคิดทางเศรษฐกิจของ Xi Jinping คือแผนภูมิสำหรับการนำทางในทะเลเศรษฐกิจที่ขรุขระไปสู่การเติบโตที่มีคุณภาพสูงขึ้น และจนถึงขณะนี้ เรายังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าผู้นำระดับสูงหรืออย่างน้อยผู้นำระดับสูงจะเชื่อในสิ่งนั้น จำเป็นต้องเบี่ยงเบนไปจากสิ่งนั้น

นอกเหนือจากความไม่สบายใจของตลาดอสังหาริมทรัพย์แล้ว ผลการดำเนินงานที่ตกต่ำของตลาดหุ้นจีนและการไหลออกของเงินทุนที่น่าตกใจยังตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง เมื่อเร็วๆ นี้ ปักกิ่งได้เริ่มดำเนินมาตรการเชิงรุก ตั้งแต่การปรับบุคลากรไปจนถึงการแทรกแซงตลาดให้มีเสถียรภาพ เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการลดลงอีก ประการที่สอง รถยนต์พลังงานใหม่มียอดขายรวมประมาณ 5 ล้านล้านหยวนในตลาดรถยนต์จีน ในปี 2023 หลังจากเก้าปีติดต่อกันในฐานะศูนย์กลางการผลิตและการขายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จีนก็กลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ชั้นนำของโลก สิ่งที่นักวิเคราะห์ “Peak China” ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าใจได้ก็คือ รัฐบาลจีนไม่สนใจสักนิดว่า GDP ของตนจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ย้อนกลับไปในปี 2014 กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้กระทืบตัวเลขโดยอิงจากความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) โดยประกาศว่าจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของโลก โดยทิ้งสหรัฐฯ ไว้เบื้องหลัง รัฐบาลกลางจีนแสดงความยินดีกับข่าวดังกล่าวโดยไม่โวยวายหรือประโคมข่าว จากตัวเลขดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจจีนได้ต่อต้านสิ่งที่เรียกว่าโพรงทางอุตสาหกรรม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่มั่นคงเหนือสถิติและตลาดการเงิน

นอกจากนี้ กว่า 70 ประเทศและผู้คนมากกว่า four.2 พันล้านคนทั่วโลกจะจัดการเลือกตั้งในปีนี้ รวมถึงประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆ เช่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และอินเดีย ผลการเลือกตั้งอาจส่งผลกระทบและเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั่วโลกและภูมิทัศน์ตลาดที่บริษัทจีนดำเนินกิจการอยู่ ธรรมชาติของรัฐวิสาหกิจของจีนมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น รัฐวิสาหกิจหลายแห่งดูเหมือนจะดำเนินกิจการเหมือนกับบริษัทเอกชน ตัวอย่างเช่น และรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นของจีนและในประเทศอื่นๆ (รวมถึงสหรัฐอเมริกา) แม้ว่าโดยปกติแล้วรัฐบาลจีนจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจีนพยายามที่จะโน้มน้าวการตัดสินใจของรัฐวิสาหกิจของรัฐซึ่งกลายเป็นบริษัทที่ถือหุ้นมากเพียงใด เราจะใช้นโยบายเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนที่มีมาตรฐานสูง เราจะใช้ระบบการปฏิบัติต่อระดับชาติก่อนการจัดตั้งขึ้น บวกกับรายการเชิงลบทั่วทั้งกระดาน ลดความยุ่งยากในการเข้าถึงตลาดอย่างมีนัยสำคัญ เปิดภาคบริการเพิ่มเติม และปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของนักลงทุนต่างชาติ ธุรกิจทั้งหมดที่จดทะเบียนในประเทศจีนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ขนาดเศรษฐกิจและการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้จีนแตกต่าง นอกจากนี้ยังต้องอาศัยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่แตกต่างจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนได้รับแรงหนุนเป็นส่วนใหญ่จากภาคอุตสาหกรรมที่แผ่ขยายออกไป ซึ่งรวมถึงการผลิต การก่อสร้าง เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ในปี 2021 ผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 39 ของ GDP ของจีน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของสหรัฐอเมริกา (18 เปอร์เซ็นต์) ด้วยเหตุนี้ ภาคบริการของจีน (53 เปอร์เซ็นต์ของ GDP) จึงมีขนาดเล็กกว่าในสหรัฐอเมริกา (78 เปอร์เซ็นต์) และประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่นๆ ส่วนใหญ่มาก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป ในปี 2010 ภาคบริการของจีนมีเพียงร้อยละ 44 ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าปัจจุบันมาก ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป เนื่องจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ได้ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 13.9% ในปี 2020 เหลือประมาณ 9.6%

ถัดมา จีนเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นอย่างแพร่หลาย รัฐบาลแห่งชาติกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพยายามทำให้ประเทศเป็นมิตรกับธุรกิจสำหรับชาวตะวันตกมากขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงความไร้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เกิดจากการทุจริต Shih กล่าวว่าปักกิ่งสามารถเพิ่มการบริโภคในครัวเรือนได้โดยการเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ จ่ายค่าจ้างที่สูงขึ้น แต่ “ความได้เปรียบด้านการผลิตของจีนส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับรายได้ของคนงานที่ลดลง” จุดมุ่งหมายหลักของซีรีส์นี้คือการเผยแพร่ผลงานต้นฉบับคุณภาพสูงระดับการวิจัยโดยนักวิชาการทั้งใหม่และที่เป็นที่ยอมรับในตะวันตกและตะวันออก ในทุกด้านของเศรษฐกิจจีน รวมถึงการศึกษาธุรกิจและประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ผลงานการสังเคราะห์ หนังสืออ้างอิง และคอลเลกชันที่มีการแก้ไขจะได้รับการพิจารณาด้วย ยินดีส่งผลงานจากผู้เขียนในอนาคต 1 ในความเป็นจริง ขณะที่จำนวนหนี้คงค้างอยู่ที่ประมาณคงที่ แต่สัดส่วนของ GDP ลดลง 6 จุด เหลือ 264 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุหลักมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนหนึ่งในปีนั้นได้รับเงินทุนจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว อีกครั้ง ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่จีนจะเดินตามแนวทางนี้ แต่ให้นึกถึงความเข้าใจอันลึกซึ้งของ Hirschman ที่ว่าเขตเลือกตั้งที่ได้รับประโยชน์อย่างไม่สมส่วนจากรูปแบบเก่า—และได้รวบรวมส่วนแบ่งอำนาจทางการเมืองที่ไม่สมส่วนในกระบวนการนี้—มีแนวโน้มที่จะ บล็อกการปรับเปลี่ยนโมเดลนี้ที่กำหนดให้ต้องดูดซับส่วนแบ่งต้นทุนการปรับเปลี่ยนที่ไม่สมส่วน พูดให้แตกต่างออกไป มันง่ายที่จะคิดเลขคณิตของการปรับสมดุล แต่เป็นการยากที่จะดูดซับผลที่ตามมาทางการเมือง

จีนเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเศรษฐกิจของตนสามารถรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยเกือบ 10% ต่อปีได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ได้ชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 3% ในปี 2022 กล่าวคือ รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนสกุลเงินเพื่อให้การส่งออกของจีนมีความน่าสนใจ และไม่ได้ลงโทษบริษัทที่มีส่วนร่วมในการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยการกำหนดนโยบายอุตสาหกรรมบนพื้นฐานของความมั่นคงแห่งชาติ ปักกิ่งได้ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และสนับสนุนความทะเยอทะยานทางภูมิรัฐศาสตร์ในระยะยาว ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางการได้เพิ่มมาตรการสนับสนุนเพื่อพยายามควบคุมราคาที่ตกต่ำ โดยอัตราการจำนองการซื้อบ้านลดลง และธนาคารได้รับอนุญาตให้เก็บเงินสดสำรองจำนวนน้อยลงเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น เมื่อปีที่แล้วจีนสามารถเอาชนะเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5 เปอร์เซ็นต์ได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งเป็นหนึ่งในเกณฑ์มาตรฐานที่ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เมื่อมองไปข้างหน้า นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับอุปสรรคที่รุนแรงในปีมังกร

หลังจากนำเสนอเนื้อหาความเป็นมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจก่อนปี 1949 ตลอดจนการพัฒนาทางอุตสาหกรรม การปฏิรูป และการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หนังสือเล่มนี้จะสำรวจแง่มุมต่างๆ ของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ โดยวิเคราะห์รูปแบบของการเติบโตและการพัฒนา รวมถึงการเติบโตของประชากรและนโยบายครอบครัวลูกคนเดียว เศรษฐกิจในชนบท รวมถึงการเกษตรและอุตสาหกรรมในชนบท การพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีในเขตเมือง การค้าระหว่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศ แนวโน้มและวงจรเศรษฐกิจมหภาค และระบบการเงิน และปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของการเติบโตที่ไม่ได้รับการจัดการส่วนใหญ่ เศรษฐกิจของจีนเติบโตเพียงเล็กน้อยในช่วงสองปีที่ผ่านมา สาเหตุที่เกิดขึ้นทันที รวมถึงการลดลงของการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และนโยบาย “ศูนย์โควิด” ที่ขัดขวางการลงทุนของภาคเอกชน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่รากเหง้าของความซบเซานั้นเกิดจากระบบ บริษัทและนักวิเคราะห์ในจีน ตลอดจนรัฐบาลและธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกต่างรอคอยปักกิ่งด้วยความคาดหวังที่จะชี้แจงแผนการที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น ระหว่างปี 2010 ถึง 2019 เมื่อไม่นานมานี้ การเติบโตของ GDP ต่อปีของจีนอยู่ที่ร้อยละ 7.7 แต่ในปัจจุบัน การปฏิรูปนโยบายขั้นพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการเติบโตแม้แต่สามหรือสี่เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเรื่องยากสำหรับปักกิ่งที่จะบรรลุเป้าหมาย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา การลงทุนในจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเคย แม้ว่าการลงทุนแต่ละดอลลาร์จะมีมูลค่าน้อยลงเรื่อยๆ ก็ตาม การเติบโตโดยรวมได้รับแรงผลักดันจากฟองสบู่สินทรัพย์ โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่ไม่ยั่งยืน ที่แย่กว่านั้นคือในช่วงเวลานี้ การลงทุนทางธุรกิจถูกจำกัดโดยอัตราการบริโภคที่ต่ำเป็นพิเศษของจีน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่สั่นคลอนทำให้ธุรกิจเอกชนไม่สามารถขยายการผลิตได้ แต่นี่คือเหตุผลว่าทำไมปักกิ่งจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับการจัดการกระบวนการปรับสมดุล และเหตุใดส่วนแบ่งการบริโภคของ GDP จึงเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แม้จะสิบห้าปีหลังจากที่เหวินสัญญาว่าจะปรับสมดุลอุปสงค์เป็นครั้งแรก ไม่น่าเชื่อว่าการโอนจีดีพี 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากรัฐบาลท้องถิ่นไปยังครัวเรือนนั้น ไม่ได้หมายความถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอำนาจทางการเมืองเชิงสัมพันธ์ของภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสังคม การเมือง และสถาบันทางเศรษฐกิจ แผนเศรษฐกิจใหม่ที่ประกาศเมื่อวันจันทร์มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยจัดการกับความท้าทายด้านประชากรศาสตร์ของประเทศ รวมถึงนโยบายที่กระตุ้นให้ผู้คนมีลูกมากขึ้น เนื่องจากประชากรสูงวัยของจีนนำเสนอความเสี่ยงเชิงโครงสร้างต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในระยะยาว แผนดังกล่าวยังรวมถึงมาตรการเพื่อขจัดข้อจำกัดในการลงทุนจากต่างประเทศในด้านการผลิต และสร้างความมุ่งมั่นครั้งใหม่ในการแข่งขันระดับโลกในด้านเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม ข้อมูลขนาดใหญ่ และ AI

จีนจะต้องมองหาพื้นที่ใหม่สำหรับการเติบโต หากต้องการก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไปของการพัฒนา ขณะนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จาก “การเติบโตไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม” ไปสู่ ​​”การเติบโตที่มีคุณภาพสูง” ผู้กำหนดนโยบายให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปลดล็อก “พลังการผลิตใหม่” ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญเหล่านี้อ่อนแอลง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจเก่าจึงมองโลกในแง่ร้าย บางคนเชื่อว่าจีนกำลังหรือเร็วๆ นี้ กำลังเข้าสู่ยุค “การเปลี่ยนญี่ปุ่น” ซึ่งเศรษฐกิจเข้าสู่ทศวรรษที่หายไป เนื่องจากราคาสินทรัพย์ตกต่ำและกับดักความเชื่อมั่น มาตรการกระตุ้น “บาซูก้า” ประจำปี 2552 จำนวน four ล้านล้านหยวนเป็นตัวอย่างของการใช้ประโยชน์ดังกล่าว ผลจากการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น การลงทุนจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต อัตราส่วนหนี้สินนี้มีเสถียรภาพในช่วงกลางปี ​​2010 เนื่องจากการลดภาระหนี้มีความสำคัญเป็นลำดับแรก แต่กลับเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ น่าเสียดายที่ผู้นำคนปัจจุบันของจีน สี จิ้นผิง ซึ่งมีอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งมาจากความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นอำนาจของเขามากเกินไป พลวัตทางเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองด้วยเสรีภาพ—เสรีภาพในการคิด สร้างสรรค์ พูด เดินทาง ทำธุรกิจกับใครก็ได้ที่คุณต้องการ—ทั้งหมดนี้ผูกพันภายใต้หลักนิติธรรมที่รับประกันสนามแข่งขันทางธุรกิจที่ยุติธรรมและเปิดกว้าง ภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะบดบังสหรัฐฯ ในอีกสิบปี (อาจจะเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ) กำลังดูไม่แน่นอน มุมมองที่ว่าจีนเป็นมหาอำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ โดยมีประเทศกำลังพัฒนาอยู่ใต้ปีกของตน ก็ดูสั่นคลอนในทำนองเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า GDP ของจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ ทั่วโลกหรือไม่ กำลังทบทวนความสัมพันธ์ของตนกับปักกิ่งและกับดักหนี้ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

เมื่อปลายเดือนมกราคม ผู้พิพากษาในฮ่องกงมีคำสั่งให้เลิกกิจการ Evergrande ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว มันเป็นเพียงข่าวร้ายล่าสุดสำหรับเศรษฐกิจของจีน หลังจากหนึ่งปีของการเติบโตที่น่าผิดหวัง การว่างงานของเยาวชนที่สูง และการสำรวจและรายงานของสื่อต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการขาดความมั่นใจในหมู่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคของจีน ในปี 2022 มูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจ “สามใหม่” ของจีน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะด้วยอุตสาหกรรม รูปแบบ และรูปแบบธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 21 ล้านล้านหยวน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบ่งบอกถึงการที่จีนออกจากการพึ่งพาอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิมมากขึ้นในฐานะตัวขับเคลื่อนหลัก โดยเริ่มต้นเส้นทางการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ในฐานะ GDP ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเป็นเวลา 15 ปีติดต่อกัน ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของจีนมีการขยายตัวตามธรรมชาติควบคู่ไปกับอัตราการเติบโตปานกลาง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างดีในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ในบริบทของสถานะของจีนในฐานะเศรษฐกิจขนาดใหญ่พิเศษ ความผันผวนของตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเส้นทางการเติบโต การระบุลักษณะตัวบ่งชี้เหล่านี้เป็นหลักฐานของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน องค์ประกอบของภาคการลงทุน FDI ของจีนมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น จากข้อมูลของ AEI/Heritage Foundation ในปี 2010 การไหลออกของ FDI ของจีน 67% อยู่ในภาคพลังงานและโลหะ แต่ภายในปี 2015 ระดับนี้ลดลงเหลือ 29% ส่วนหนึ่งเกิดจาก FDI ของจีนจำนวนมากในด้านการขนส่ง การเงิน ภาคอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการบริโภคภายในประเทศในจีนต่ำเกินไป ทำให้เศรษฐกิจต้องพึ่งพาการลงทุนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนของรัฐบาล หากจีนต้องการเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ การกระตุ้นการบริโภคถือเป็นกุญแจสำคัญ การลงทุนมากเกินไปส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน ในขณะที่การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคมีแนวโน้มที่จะตอบสนองความต้องการของสังคมได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายได้ลดลงและความเชื่อมั่นที่ลดลงในอนาคต ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับรัฐบาลในการขับเคลื่อนการบริโภคภายในประเทศ สีและผู้นำจริงจังกับการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลการเติบโตแบบเก่าไปสู่ ​​”แนวคิดการพัฒนาใหม่” ด้วยการเติบโตที่มีคุณภาพสูง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจสร้างความเจ็บปวดแม้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้กลับยากขึ้นเนื่องจากอาการเมาค้างจากโรคระบาด ปัญหาหนี้มหาศาลทั่วทั้งเศรษฐกิจ ความท้าทายในการจ้างงาน การล่มสลายของตลาดหุ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ และการสูญเสียความเชื่อมั่นที่เพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจและความสามารถของผู้กำหนดนโยบาย อำนาจทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีนส่งผลให้จีนเข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายและโครงการทางเศรษฐกิจระดับโลกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน (BRI) แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของจีนในการจัดหาเงินทุนให้กับโครงสร้างพื้นฐานทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และที่อื่นๆ หากประสบความสำเร็จ โครงการริเริ่มทางเศรษฐกิจของจีนสามารถขยายตลาดส่งออกและการลงทุนของจีนได้อย่างมีนัยสำคัญ และเพิ่ม “พลังอ่อน” ไปทั่วโลก

การจำแนกประเภทจะพิจารณาจากช่วงรายได้ต่อหัว (เกณฑ์ซึ่งมีการปรับทุกปี) ซึ่งรวมถึงประเทศที่มีรายได้ต่ำ ประเทศที่มีรายได้ปานกลางล่าง ประเทศที่มีรายได้ปานกลางบน และประเทศที่มีรายได้สูง การนำเข้าและส่งออก 10 อันดับแรกของจีนในปี 2018 แสดงอยู่ในตารางที่ 6 และตารางที่ 7 ตามลำดับ โดยใช้ระบบภาษีศุลกากรที่ประสานกัน (HTS) ในระดับสองหลัก การนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เชื้อเพลิงแร่ forty four รายการ; เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หม้อไอน้ำ และเครื่องจักร (เช่น เครื่องจักรประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ และเครื่องจักรสำหรับผลิตเซมิคอนดักเตอร์) แร่; และอุปกรณ์เกี่ยวกับการมองเห็น การถ่ายภาพ การแพทย์ หรือการผ่าตัด สินค้าส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หม้อไอน้ำ และเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์; พลาสติก; และยานพาหนะ หนังสือของ Barry Naughton ประพันธ์โดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านเศรษฐกิจจีน โดยให้มุมมองที่ชัดเจน เป็นระบบ และลึกซึ้งเกี่ยวกับเส้นทางของจีนสู่การเป็น ‘โรงไฟฟ้าของเศรษฐกิจโลก’ รวมถึงความท้าทายข้างหน้าในการรักษาความสำเร็จในอดีตเอาไว้ ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นตำราเรียนเป็นหลัก ความครอบคลุมที่ครอบคลุมและการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนทำให้มั่นใจได้ว่าจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและใช้ประโยชน์ได้มากสำหรับทุกคนที่แสวงหาความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีน ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทันทีอาจกินเวลา “สองสามไตรมาสถึงสองสามปี” Elhedery กล่าว แต่แสดงความมั่นใจว่าจีนจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในระยะยาว ในขณะที่ประเทศนี้วางตัวเองอยู่ใน “การมองไปข้างหน้าที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ติดตาม.” HSBC มี “เชิงบวกมาก” เกี่ยวกับแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาวของเศรษฐกิจจีน แม้จะมีอุปสรรคในปัจจุบันก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของธนาคารอังกฤษกล่าวกับ CNBC “การคาดการณ์พื้นฐานของเราไม่ได้ใช้มาตรการกระตุ้นการบริโภคที่สำคัญใดๆ ในปี 2567 ดังที่เราสังเกตเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวเลือกนโยบายที่อาจมีประสิทธิภาพสูง เช่น บัตรกำนัลเพื่อการบริโภคหรือการจ่ายเงิน e-CNY มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะถูกนำมาใช้ แต่เราไม่ควรตัดความเป็นไปได้ของมาตรการสนับสนุนการบริโภคอื่นๆ” จูกล่าว

ผลตอบแทนอาจมีมหาศาลสำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย เต็มใจที่จะเตรียมการที่จำเป็นและทำงานอย่างหนักเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้และประสบความสำเร็จในการก่อตั้งในประเทศจีน รัฐบาลจีนยังคงนำเสนอนโยบายที่มุ่งยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมการค้าและการลงทุนมากขึ้นทั้งขาเข้าและขาออก เมื่อสี่สิบปีก่อน หลังจากที่เศรษฐกิจซบเซามาเป็นเวลานาน จีนไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำแปดอันดับแรกของโลก ปัจจุบันนี้ ต้องขอบคุณการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจที่น่าทึ่งซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ประเทศจีนกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาในฐานะเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกภายในไม่กี่ทศวรรษ หรือเร็วกว่านั้น โดยมาตรการบางอย่างก็ทำไปแล้ว เรากำลังอาศัยอยู่ในสิ่งที่หลายคนเรียกว่า ‘ศตวรรษจีน’ โครงการปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหารของจีน ซึ่งได้รับการอนุมัติในเดือนมีนาคม 2021 ช่วยให้จีนปรับปรุงการจัดการความปลอดภัยด้านอาหารทั้งในระดับประเทศและระดับย่อยที่เป็นเป้าหมาย และลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหาร โดยจะเสริมสร้างกฎระเบียบ การบังคับใช้ และการปฏิบัติตามด้านความปลอดภัยของอาหารตามห่วงโซ่คุณค่าที่เลือก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติระดับโลก และช่วยให้ฟาร์มและผู้ประกอบการด้านอาหารเข้าถึงการเงินสำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยด้านอาหาร และจัดแคมเปญการสื่อสารความเสี่ยงเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของอาหารและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น 2564 ช่วยเพิ่มการคุ้มครองระบบนิเวศและลดมลพิษทางน้ำในลุ่มน้ำแยงซีของจีน โครงการนี้จะสนับสนุนการประสานงานระหว่างหน่วยงานสายต่างๆ และระดับของรัฐบาล โดยการเสริมสร้างการรวบรวมและแบ่งปันข้อมูล และโดยการปรับปรุงการจัดการและการจัดสรรน้ำ กิจกรรมระดับท้องถิ่นจะช่วยลดมลพิษจากพลาสติกโดยการพัฒนาแรงจูงใจในการรวบรวมฟิล์มพลาสติกทางการเกษตร ปรับปรุงระบบการจัดการน้ำเสียและรวบรวมในระดับเมือง และจัดการกับมลพิษทางการเกษตรผ่านการจัดการมูลปศุสัตว์ที่ดีขึ้น เรายังคงมองโลกในแง่ดีว่าจีนสามารถเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของตนได้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะก็ตาม ได้มีการกำหนดรากฐานและทิศทางเชิงกลยุทธ์สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว และมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านสำคัญสำหรับอนาคต ความท้าทายในระยะสั้นและความไม่แน่นอนในระยะยาวมีมากมาย แต่การมองโลกในแง่ร้ายต่อเศรษฐกิจและตลาดจีนอย่างกว้างขวางนั้นกลับรู้สึกว่ามากเกินไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายการบริโภคภาคครัวเรือนของจีนเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP แสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังอยู่ในระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค ตัวอย่างเช่น ทั้งในสหรัฐอเมริกาและอินเดีย การบริโภคภาคครัวเรือนคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า fifty five เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในทางตรงกันข้าม การบริโภคในครัวเรือนของจีนอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ในอดีต และลดลงเหลือ 37 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022 มุมมองที่ยึดถือกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียก็คือ ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อจีน ในความเป็นจริง ประเทศนี้มีความเสี่ยงมากกว่าที่คนส่วนใหญ่ตระหนัก เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่การติดเชื้อทางการเงินจะเข้าสู่ระบบจากฮ่องกงผ่านมณฑลกวางตุ้ง หนังสือเล่มนี้ … จากโครงการวิจัยที่สำคัญที่ดำเนินการโดยทีมงานที่สถาบันเศรษฐกิจตลาด ศูนย์วิจัยการพัฒนาของสภาแห่งรัฐของจีน โครงการที่รวมการวิจัยเชิงสำรวจอย่างกว้างขวาง และนักวิชาการนานาชาติจำนวนมากรวมถึงนักวิจัยที่ World Economic Forum เกี่ยวข้องกับ .. ไม่มีความลึกลับว่าทำไมส่วนแบ่งการบริโภคของจีนต่อ GDP จึงต่ำมาก ครัวเรือนชาวจีนมีส่วนแบ่งที่ต่ำมาก – ในรูปแบบของเงินเดือนและค่าจ้าง รายได้อื่น และการโอน – ของสิ่งที่พวกเขาผลิต ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถบริโภคมากกว่าส่วนแบ่งที่ต่ำของสิ่งที่พวกเขาผลิตได้ นโยบายความมั่งคั่งทั่วไปฉบับใหม่ของปักกิ่งมุ่งเน้นไปที่การกระจายรายได้จากคนรวยไปยังคนจนและชนชั้นกลาง แต่แม้ว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ แต่ก็จะช่วยได้เพียงส่วนขอบเท่านั้น แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับจีนที่จะเดินตามเส้นทางนี้ แต่ก็บ่งชี้ว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางสถาบันที่ยากต่อการคาดเดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยที่สุด เส้นทางดังกล่าวจะต้องให้เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งมีความเข้าใจที่ชัดเจนว่าเหตุใดประเทศอื่นๆ ที่ปฏิบัติตามโมเดลการเติบโตนี้จึงพบว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบนี้ทำได้ยาก กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเติบโตของ GDP ที่สูงขึ้นสำหรับจีนไม่ได้หมายถึงผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าการเติบโตของ GDP ที่ลดลง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจอื่นๆ ส่วนใหญ่ เพียงแต่หมายความว่าทางการเต็มใจที่จะใช้ทรัพยากรเพื่อสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่ว่ากิจกรรมนั้นจะมีประสิทธิผลหรือยั่งยืนก็ตาม อินพุตของระบบไม่สามารถระบุสิ่งใดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบนั้นได้ เนื่องจากการเติบโตของ GDP ในประเทศจีนเป็นปัจจัยนำเข้า จึงไม่สามารถวัดประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจได้ มีเพียงหน่วยวัดผลลัพธ์เท่านั้นที่สามารถวัดประสิทธิภาพของมันได้

แม้ว่าการเติบโตของจีนจะดูไม่อาจหยุดยั้งได้ในจุดหนึ่ง แต่ก็มีจุดแตกหักที่ชัดเจนในระบบเศรษฐกิจที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ก่อนอื่น ประเทศกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงปริมาณทรัพยากรที่ไม่หมุนเวียนที่ใช้ไปในแต่ละปี เนื่องจากจีนถือเป็นผู้ก่อมลพิษและปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก การใช้ถ่านหินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจึงสร้างปัญหาให้กับบางคน แม้ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่มีการปันส่วนและการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค แต่หลังจากเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ จีนก็สามารถเป็นสวรรค์ของผู้บริโภคสำหรับผู้ที่มีรายได้และความรักในสินค้าฟุ่มเฟือย จีนเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนอกเหนือจากการค้าส่งแล้ว การค้าปลีกยังมีส่วนช่วยใน GDP ถึง 6.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 ในทำนองเดียวกัน จีนผลิตรถยนต์ในโรงงานที่เป็นของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามรถยนต์ส่วนใหญ่จะซื้อในประเทศ ประเทศนี้มีรถยนต์ 318 ล้านคันภายในปลายปี 2565 ประเทศนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และในปี 2012 เขื่อน Three Gorges ก็สร้างเสร็จและปัจจุบันเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สำหรับเมืองทางตอนใต้ของประเทศจีน รวมถึงเซี่ยงไฮ้ด้วย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของจีนสกัดถ่านหิน แร่เหล็ก เกลือ น้ำมัน ก๊าซ และทองคำ เพื่อลดการพึ่งพาถ่านหินของจีน ประเทศกำลังมุ่งสู่แหล่งทรัพยากรหมุนเวียนมากขึ้นและวางแผนที่จะเพิ่มการใช้ก๊าซธรรมชาติในปีต่อ ๆ ไป จีนยังมีน้ำมันสำรองหลายแห่ง รวมถึงแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ยังไม่ได้สำรวจทั้งหมด เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ ก้าวแรกของจีนคือการสร้างอุตสาหกรรมหนักขึ้น ปัจจุบัน จีนเป็นผู้นำของโลกในด้านการผลิตและผลิตเหล็กเกือบครึ่งหนึ่งของโลก

2522 การออมในประเทศเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP อยู่ที่ 32% อย่างไรก็ตาม เงินออมของจีนส่วนใหญ่ในช่วงเวลานี้เกิดจากผลกำไรของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรัฐบาลกลางใช้เพื่อการลงทุนภายในประเทศ การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการกระจายอำนาจการผลิตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การออมในครัวเรือนของจีนเติบโตอย่างมาก เช่นเดียวกับการออมขององค์กร ด้วยเหตุนี้ การประหยัดขั้นต้นของจีนเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP จึงสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลักๆ การออมภายในประเทศในระดับสูงทำให้จีนสามารถรองรับการลงทุนในระดับสูงได้ ในความเป็นจริง ระดับการออมมวลรวมภายในประเทศของจีนนั้นสูงกว่าระดับการลงทุนในประเทศอย่างมาก ซึ่งทำให้จีนกลายเป็นผู้ให้กู้สุทธิรายใหญ่ระดับโลก Cornell เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางปัญญาด้านการวิจัยของจีน นักวิจัยของ Cornell กำลังทำงานในทุกแง่มุมของเศรษฐกิจจีน รวมถึงการพัฒนาชนบทและการเติบโตของอุตสาหกรรม ตลาดการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการของผู้บริโภคและการปฏิรูปตลาด การเงินและการค้าระหว่างประเทศ และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน หลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 รัฐบาลท้องถิ่นในประเทศจีนได้ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยวางเดิมพันว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสี่ของ GDP ของจีน แม้ว่าประเทศจะไม่สามารถรองรับการขยายตัวในระดับนั้นได้ โดยรายได้ต่อหัวยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่นๆ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง Evergrande ล้มละลายแล้ว เมืองผีตอนนี้ถูกทิ้งร้างไปทั่วประเทศ

ความเป็นผู้นำอาจกระตุ้นการกระตุ้นเพิ่มเติมในช่วงปลายปี หากเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโต แต่ Shih กล่าวว่าสำหรับผู้นำ CCP การบรรลุเป้าหมายนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถของจีนในการแข่งขันกับสหรัฐฯ “ผมคิดว่าสำหรับผู้นำระดับสูง การบรรลุการเติบโตประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากไม่มีอัตราการเติบโตดังกล่าว จีนจะใช้เวลานานกว่ามากในการไล่ตามสหรัฐอเมริกาในแง่ของขนาด GDP” เขากล่าว ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่พึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่นั่นไม่ได้เป็นเช่นนั้นในจีน ที่นั่นคิดเป็นประมาณร้อยละ fifty three ของ GDP ในปี 2022 ในสหรัฐอเมริกา การใช้จ่ายของผู้บริโภคคิดเป็นประมาณร้อยละ 68 ของ GDP “เราเชื่อว่าความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานในภาคการเงินมากขึ้น หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนยังคงสูญเสียโมเมนตัม และความทุกข์ยากของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่” Fitch Ratings ระบุในรายงานหลังจากการล่มสลายของบริษัททรัสต์รายใหญ่อีกแห่งหนึ่ง Zhengrong ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่าชื่อ Sichuan Trust ทำให้พวกเขาเชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือเช่นเดียวกับธนาคาร โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่และคงที่ แทนที่จะเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยง พวกเขาถูกดึงดูดด้วยอัตราดอกเบี้ย 8% หรือ 9% ตามที่สัญญาไว้ ซึ่งสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์แบบเดิมหลายเท่า ผู้เกษียณอายุที่ไม่ซับซ้อนทางการเงินบางคนลงทุนเงินออมก้อนใหญ่เพื่อชีวิตของตน ฝ่ายบริหารของสียังปรับทิศทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการพึ่งพาตนเอง และเปิดตัวแคมเปญสองแคมเปญตามนั้น Made in China 2025 และ China Standards 2035 ซึ่งพยายามขยายขนาดและแทนที่การครอบงำของสหรัฐฯ ในภาคส่วนเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ[89] แม้ว่าจีนจะยกเลิกการเน้นย้ำต่อแผนเหล่านี้ต่อสาธารณะเนื่องจากการระบาดของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ในปี 2018 .[93] สิ่งนี้ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายการค้าที่ก้าวร้าวมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่จีนจะก้าวไปสู่บทบาทที่แข็งขันมากขึ้นในการเขียนกฎเกณฑ์ทางการค้า ในช่วงสามปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2019 จีนปิดโรงเรียนอย่างกว้างขวาง โรงเรียนเกือบทั้งหมดปิดอย่างน้อยสามเดือนในฤดูใบไม้ผลิปี 2020 และหลายแห่งปิดยาวถึงตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้ ผลกระทบด้านลบของการปิดโรงเรียนและการสอนออนไลน์ที่มีต่อคุณภาพการศึกษาและรายได้ในอนาคตจะคงอยู่ต่อไปอีกสองสามชั่วอายุคนในประเทศจีน ผลกระทบต่อการสะสมทุนมนุษย์ การว่างงาน นวัตกรรม และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

อีกทั้งในช่วงโควิดบริษัทเอกชนจำนวนมากปิดตัวลง ตัวอย่างเช่น ข้อมูลจาก Tianyancha ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลทางธุรกิจ แสดงให้เห็นว่าในไตรมาสแรกของปี 2565 เพียงอย่างเดียว องค์กรเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลางมากกว่า 460,000 แห่งหยุดดำเนินการ ในประเทศจีน วิสาหกิจเอกชนดูดซับการจ้างงานประมาณ 80% ในระบบเศรษฐกิจ 5 การปิดกิจการจะมีผลกระทบยาวนานต่อการจ้างงานของประเทศ โดยรวมแล้ว ผลกระทบของโรคระบาดและนโยบาย “Zero-Covid” ต่อบริษัทต่างชาติที่ลงทุนทั่วประเทศจีนนั้นมีมากมาย การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยมาตรการจำกัดที่เข้มงวดและการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในจีน ทำให้บริษัทที่ลงทุนจากต่างประเทศต้องปิดตัวเร็วขึ้น เช่น โตชิบา นิคอน และซัมซุง ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นปี 2022 Canon ปิดโรงงานในจูไห่ ยุติประวัติศาสตร์ 32 ปีในจีนและเลิกจ้างพนักงาน 1,300 คน ในช่วงสิ้นปี 2022 โซเชียลมีเดียต่างตกตะลึงว่า Foxconn จะถอนตัวออกจากจีนหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น การว่างงานในเหอหนานจะเพิ่มขึ้นหลายหมื่นคน ราคาในจีนทรงตัวหรือลดลงเกือบต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แม้ว่านโยบาย Zero Covid ของประเทศจะถูกยกเลิกไปนานกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย ทั้งในสินค้าในชีวิตประจำวันและทรัพย์สิน ซึ่งแต่เดิมเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีน การเติบโตของรายได้ชะลอตัว และอัตราการว่างงานที่สูงส่งผลให้ค่าแรงของคนงานบางคนลดลง ขณะเดียวกัน ปักกิ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเชี่ยวชาญน้อยกว่ามากในการกระตุ้นความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากประชากร 1.four พันล้านคน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอันกว้างใหญ่อย่างแท้จริง และยังคงมุ่งมั่นที่จะ “เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” การขับเคลื่อนการกระจายสินค้าของ Xi และการมุ่งเน้นไปที่ความประหยัดได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในหมู่ชนชั้นกลางในเมือง เป็นเรื่องยากที่จะเห็นการบริโภคกลายเป็นกลไกการเติบโต การส่งออกยังคงเป็นเส้นทางเดียวที่เป็นไปได้ในการเข้าถึงอุปสงค์ที่แท้จริง แต่การเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัวถือเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งสำหรับเศรษฐกิจที่ถดถอยของจีน ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1990 จีนต้องรับมือกับปัญหาหนี้ร้ายแรง เช่นเดียวกับในปัจจุบัน แต่แล้วมันก็ถึงจุดสูงสุดของการเข้าสู่องค์การการค้าโลก และการเติบโตที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาช่วยให้หนี้หดตัวลงอย่างรวดเร็ว คราวนี้ จีนกำลังอยู่ท่ามกลาง “การแยกตัวครั้งใหญ่” โดยมีทุนต่างประเทศถูกดึงออกจากประเทศ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน และการส่งออกและทุนของจีนไม่ค่อยได้รับการต้อนรับในโลกตะวันตก ภาวะเงินฝืดจะยังคงมีอยู่ในปีนี้ และการเติบโตที่แข็งแกร่งไม่น่าจะช่วยลดหนี้เสียของจีนให้หมดไป

แต่ภายใต้ความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รายได้พื้นฐานไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก และการลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ซึ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประชากรก็ถูกละเลย ประชากรของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ไม่ได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงด้านสุขภาพและการศึกษา ที่จะเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่ บทความวิจัยนี้เผยแพร่สำหรับบุคคลทั่วไป มันถูกสร้างขึ้นจากแหล่งต่างๆ น่าเชื่อถือแต่บริษัทไม่สามารถรับรองความถูกต้องได้ ความน่าเชื่อถือ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้ใช้ข้อมูลต้องระมัดระวังในการใช้ข้อมูล บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดๆ สำหรับความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานดังกล่าว ข้อมูลในรายงานนี้ไม่ถือเป็นข้อเสนอ หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีลักษณะการมีส่วนร่วม – การแข่งขันที่รุนแรงเพื่อความก้าวหน้าที่จำกัด – มักจะเตรียมพร้อมสำหรับความก้าวหน้าในการพัฒนาใหม่ๆ ความพยายามของจีนในการไล่ตามประเทศที่พัฒนาแล้วในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การบินและอวกาศ เครื่องบินขนาดใหญ่ ชิป การต่อเรือ และการผลิตยานยนต์ ล้วนให้ผลอันเป็นผลมาจากการมีส่วนร่วม เป็นที่น่าสังเกตว่าจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักเพียงประเทศเดียวในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาที่ไม่ได้ริเริ่มหรือเข้าร่วมในสงคราม สภาพแวดล้อมภายนอกที่สงบสุขและสังคมภายในประเทศที่มั่นคงเป็นรากฐานที่สร้างความปรารถนาของจีนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ในปี 2023 จีนมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 5.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สหรัฐฯ ตามหลังเพียง 2.5 เปอร์เซ็นต์ ช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่าง GDP ของทั้งสองประเทศอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แต่หลักๆ แล้วคือการอ่อนค่าของเงินหยวนของจีนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูล U.N.FDI แตกต่างจากข้อมูลของจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อมูลของจีนจำกัดเฉพาะ FDI ที่ไม่ใช่ทางการเงิน และข้อมูลของ UN รวมถึง FDI ที่เกี่ยวข้องกับการเงินด้วย UNCTAD รายงานข้อมูล FDI ของฮ่องกงแยกกัน

อัตราการพัฒนาอุตสาหกรรมของสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่ผู้ประกอบการจีนเป็นเจ้าของสูงถึงร้อยละ 51.three ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 50 เป็นครั้งแรก และเพิ่มขึ้น 3.2 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่มีการเติบโต ตามรายงานล่าสุดของฝ่ายบริหารว่าด้วยเรื่อง การสอบสวนสิทธิบัตร รายงานระบุว่า IMF แนะนำให้รัฐบาลจีนสนับสนุนให้พลเมืองของตนค้นหาวิธีการลงทุนใหม่ๆ และดำเนินการปฏิรูปที่มุ่งเน้นตลาด เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อาลี ไวน์ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายวิจัยและสนับสนุนสหรัฐฯ-จีน ของกลุ่มคลังสมองอินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป กล่าวว่า หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นและความตึงเครียดระหว่างจีนและระบอบประชาธิปไตยตะวันตก ยังเป็นปัจจัยในการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วย ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ หน่วยงานนโยบายการเงินทั่วโลก หรือที่รู้จักในชื่อ IMF คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะลดลงเหลือ 4.6% ในปีนี้ ลดลงจากการเติบโต 5.2% ในปี 2566 และลดลงอีกเป็น 3.4% ภายในปี 2571 จีนมีความสุขกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างน่าอัศจรรย์ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองในฐานะมหาอำนาจระดับโลก และสร้างชนชั้นกลางที่โผล่ขึ้นมา บรรลุการเติบโตดังกล่าวผ่านการผสมผสานหลักการคอมมิวนิสต์ของรัฐบาลที่ปกครองอยู่และการยอมรับทางยุทธศาสตร์ของตลาดเสรี ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ของระบบทุนนิยมที่ชี้นำโดยรัฐ ซึ่งนำไปสู่ยุคใหม่ของความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปและขั้นตอนการเปิดประเทศที่ง่ายที่สุดอาจจบลงแล้ว มาตรการเพิ่มเติมรวมถึงการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ (SOE) การแปลงสกุลเงินหยวนให้เป็นสากล และการเปิดเสรีตลาดจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์พิเศษต่างๆ และอาจมีผลกระทบต่อนโยบายที่มีอยู่ ด้วยเหตุนี้ การปฏิรูปและการเปิดประเทศขั้นต่อไปจึงมีความท้าทายมากขึ้น แหล่งแร่เหล็กพบได้ในจังหวัดส่วนใหญ่ รวมทั้งไหหลำด้วย มณฑลกานซู กุ้ยโจว เสฉวนตอนใต้ และกวางตุ้งมีแหล่งเงินฝากมากมาย แหล่งสำรองแร่ที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำแยงซี และจัดหาโรงงานเหล็กและเหล็กกล้าที่อยู่ใกล้เคียง ยกเว้นนิกเกิล โครเมียม และโคบอลต์ ประเทศจีนมีเฟอร์โรอัลลอยด์และแมงกานีสอย่างดี แหล่งสำรองทังสเตนเป็นที่รู้กันว่ามีปริมาณค่อนข้างมาก ทรัพยากรทองแดงอยู่ในระดับปานกลาง และมีแร่คุณภาพสูงอยู่ในแหล่งแร่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น มีรายงานการค้นพบจากหนิงเซี่ย มีตะกั่วและสังกะสีอยู่ และทรัพยากรบอกไซต์ก็มีอยู่มากมาย พลวงสำรองของจีนใหญ่ที่สุดในโลก ทรัพยากรดีบุกมีมากมายและมีทองคำอยู่ค่อนข้างมาก จีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับห้าของโลก และในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ได้กลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกโลหะหายากที่สำคัญซึ่งจำเป็นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พื้นที่การผลิตหลักในปี 2547 ได้แก่ ถ่านหิน (เกือบสองพันล้านตัน) แร่เหล็ก (310 ล้านตัน) ปิโตรเลียมดิบ (175 ล้านตัน) ก๊าซธรรมชาติ (41 ล้านลูกบาศก์เมตร) แร่พลวง (110,000 ตัน) หัวแร่ดีบุก (110,000 ตัน) แร่นิกเกิล (64,000 ตัน) ทังสเตนเข้มข้น (67,000 ตัน) เกลือไม่บริสุทธิ์ (37 ล้านตัน) วานาเดียม (40,000 ตัน) และแร่โมลิบดีนัม (29,000 ตัน) แร่ที่ผลิตตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ บอกไซต์ ยิปซั่ม แบไรท์ แมกนีไซต์ แป้งและแร่ธาตุที่เกี่ยวข้อง แร่แมงกานีส ฟลูออร์สปาร์ และสังกะสี นอกจากนี้ จีนผลิตเงิน 2,450 ตันและทองคำ 215 ตันในปี 2547 ภาคเหมืองแร่คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 0.9% ของการจ้างงานทั้งหมดในปี 2545 แต่ผลิตได้ประมาณ 5.3% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด แม้ว่าประเทศส่วนใหญ่มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนเป็นประโยชน์ต่อประเทศของตน แต่นี่ไม่ใช่กรณีของการเติบโตของกองทัพจีน ใน 18 ประเทศ ค่ามัธยฐานของ 58% คิดว่าการเพิ่มกำลังทหารของจีนนั้นไม่ดีสำหรับพวกเขา 24% คิดว่านี่อาจเป็นสิ่งที่ดี และในเก้าประเทศ การคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศของคุณเองกำลังไปได้ดียังเกี่ยวข้องกับมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอีกด้วย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์มีความแตกต่างกันอย่างมาก ผู้ที่คิดว่าเศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในเกณฑ์ดีมีแนวโน้มที่จะเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในเชิงบวกมากขึ้น 21 และ 19 จุดตามลำดับ Posen ชี้ให้เห็นว่าชาติตะวันตกอาจได้รับประโยชน์จากการถดถอยของจีน แต่ชาติตะวันตกมีความสนใจอย่างแท้จริงในการป้องกันการล่มสลายทางเศรษฐกิจของจีน เมื่อพิจารณาจากขนาดและความสำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ วิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในจีนอาจส่งผลกระทบที่ตามมามากกว่าวิกฤตการณ์ตลาดเกิดใหม่ครั้งอื่นๆ มาก และวิกฤตการณ์จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของชาติตะวันตกหันมาใช้พลังงานสะอาดมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีและแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

แนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างไร บทบาทของจีนในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกจะเปลี่ยนไปหรือไม่ และภาวะเงินฝืดจะสิ้นสุดลงหรือไม่ รับคำตอบสำหรับคำถามสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนในปี 2024 จีนและกลุ่มธนาคารโลก (WBG) ทำงานร่วมกันมานานกว่า forty ปี Country Partnership Framework (CPF) ใหม่ของ WBG สำหรับปีงบประมาณ 2563 ถึง 2568 ซึ่งออกในเดือนธันวาคม 2562 สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มธนาคารกับจีน ที่มีต่อการลดการปล่อยสินเชื่อ และการมีส่วนร่วมแบบเลือกสรรมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีในการเพิ่มทุนที่ตกลงร่วมกัน ผู้ถือหุ้นในปี 2561 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะใช้แนวโน้มการเติบโตแบบอนุรักษ์นิยม แต่การถ่วงน้ำหนักที่ต่ำกว่านี้ดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากขึ้นในการก้าวไปข้างหน้า และความเสี่ยงด้านท้ายนั้นมีการพูดคุยกันในจีนบ่อยกว่าในตลาดอื่น ๆ เกือบทั้งหมด เราสนับสนุนการรักษามุมมองที่สมดุลในสภาพแวดล้อมที่มักจะถูกครอบงำได้อย่างง่ายดายโดยอิงจากการพัฒนาล่าสุด นอกจากนี้ ขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับกับดักผู้มีรายได้ปานกลาง เนื่องจากค่าจ้างไม่สามารถแข่งขันได้มากที่สุดอีกต่อไป เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดึงดูดการฟื้นตัวของภาคการผลิตบางส่วนแล้ว เนื่องจากต้นทุนแรงงานที่มีการแข่งขันสูงขึ้น การพัฒนาอุตสาหกรรมผลักดันการเติบโตอย่างมากเมื่อจีนกลายเป็นโรงงานของโลก อุตสาหกรรมรองที่ขับเคลื่อนโดยการผลิตและการก่อสร้างเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ GDP ในช่วงทศวรรษ 1980 จนถึงต้นปี 2010

แม้ว่าระดับหนี้จะสูงและเพิ่มขึ้น แต่เราคิดว่าความเสี่ยงของวิกฤตหนี้ “ทั่วไป” หรือวิกฤตทางการเงินที่การผิดนัดชำระหนี้จำนวนมากทำให้ธนาคารล้มเหลว วิกฤตการณ์ด้านเครดิตอย่างรุนแรง และ/หรืออัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วนั้นค่อนข้างน้อยในประเทศจีน ในเวลาเดียวกัน การบังคับ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบที่มองเห็นได้และมองเห็นได้ เช่น การคว่ำบาตรผู้บริโภคด้วยความรักชาติ – สามารถสร้างผลกระทบทางจิตวิทยาที่มีประสิทธิภาพต่อบริษัทและรัฐบาลอื่น ๆ ที่รับรู้ถึงอิทธิพลของการบีบบังคับของจีนมากกว่าที่มีอยู่จริง ซึ่งนำไปสู่การเซ็นเซอร์ตัวเองและการปรับเปลี่ยนนโยบาย . ในมาเลเซีย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการต่อต้านโครงการของจีนที่มีการทุจริต แต่บันทึกที่เป็นที่ยอมรับของการลงทุนของจีนที่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่นๆ ได้ยึดถือความคิดเห็นของนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่นเกี่ยวกับความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน ควบคู่ไปกับความปรารถนาที่จะลดการเผชิญหน้าในประเด็นต่างๆ เช่น ทะเลจีนใต้ กรณีพิพาทและชาวอุยกูร์ในซินเจียง ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่พึ่งพาตลาดจีนมักจะล็อบบี้ให้มีนโยบายความร่วมมือกับปักกิ่งมากขึ้น ในเดือนมีนาคมของปีนี้ ซีอีโอของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งขายรถยนต์มากกว่าหนึ่งในสามในจีน ได้ออกมาพูดต่อต้านการสอบสวนต่อต้านการอุดหนุนของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน จากมุมมองของผู้วางแผน การลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากปี 1954 ในปริมาณที่แน่นอนของธัญพืชที่พวกเขาสามารถสกัดได้จากชนบท ไม่ว่าจะในรูปแบบของภาษีในรูปแบบหรือการขายภาคบังคับในราคาคงที่ มีความสำคัญยิ่งกว่าการที่ การเจริญเติบโตช้าของผลผลิต การเปิดตลาดเอกชนในชนบทอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2499 ได้เพิ่มความยากลำบากในการปฏิบัติตามโควตาการจัดซื้อจัดจ้าง แม้ว่าธุรกรรมในตลาดเอกชนควรจะจำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ในเครือและสินค้าที่ไม่อยู่ภายใต้โควต้าบังคับสำหรับการจัดส่งให้กับรัฐ แต่ขอบเขตของตลาดก็ขยายอย่างรวดเร็วเพื่อรวมธัญพืช เมล็ดพืชที่มีน้ำมัน และฝ้าย

แม้ว่าประชากรสูงอายุอาจทำให้กำลังแรงงานลดลง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเท่ากับการขาดแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ การตอบสนองของจีนเกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อรับมือกับแนวโน้มเหล่านี้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากโดรนที่มีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ รถบรรทุกไร้คนขับ และหุ่นยนต์กระจายสินค้า ประเทศกำลังดำเนินการกระบวนการบริการสังคมต่างๆ โดยอัตโนมัติ เช่น การจัดเก็บ การหยิบสินค้า การขนส่ง การบูรณาการ และการส่งมอบ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ 2521 เมื่อการประชุมใหญ่ครั้งที่สามของคณะกรรมการกลางที่สิบเอ็ดของพรรคคอมมิวนิสต์รับข้อเสนอทางเศรษฐกิจของเติ้ง เสี่ยวผิง การดำเนินการตามการปฏิรูปเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. HSBC พลาดการคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีทั้งปี 2566 เนื่องจากการปรับลดมูลค่าหุ้น three พันล้านดอลลาร์จากสัดส่วนการถือหุ้น 19% ในธนาคารแห่งการสื่อสารของจีน ในขณะที่ผู้ให้กู้ได้ลดการลงทุนโดยรวมในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของจีนลง four.6 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบเป็นรายปี “เรากำลังดูการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เรามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมากในการมองโลกในแง่บวกอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว” Elhedery กล่าว “การลดโลกาภิวัตน์ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่รูปแบบการค้าแบบดั้งเดิมกำลังหยุดชะงัก และระเบียงการค้าใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้น ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียกำลังได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก” Zhu กล่าวเสริม •  การกระตุ้นนโยบายเพิ่มเติมยังเป็นประเด็นของความแตกต่างอีกด้วย นักลงทุนและที่ปรึกษานโยบายที่มีชื่อเสียงบางคนแย้งว่าจีนควรเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ “ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม” อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายคิดแตกต่างออกไป และระมัดระวังเกี่ยวกับช่องทางที่จำกัดสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการคลัง

และในด้านอื่น ๆ เศรษฐกิจจีนดูเหมือนจะสะดุด แม้แต่สถิติอย่างเป็นทางการยังบอกว่าจีนกำลังประสบกับภาวะเงินฝืดแบบญี่ปุ่นและการว่างงานของเยาวชนในระดับสูง แม้จะยังไม่ใช่วิกฤตเต็มรูปแบบ อย่างน้อยก็ไม่ใช่แต่ก็มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าจีนกำลังเข้าสู่ยุคแห่งความซบเซาและความผิดหวัง นอกเหนือจากเอกสารการทำงานแล้ว NBER ยังเผยแพร่ข้อค้นพบล่าสุดของบริษัทในเครือผ่านวารสารฟรีต่างๆ เช่น NBER Reporter, NBER Digest, Bulletin on Retirement and Disability, Bulletin on Health และ Bulletin on Entrepreneurship — รวมถึงทางออนไลน์ รายงานการประชุม วิดีโอบรรยาย และการสัมภาษณ์ เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัย การลงทุนมากเกินไปหลายปีส่งผลให้มีกำลังการผลิตสำรอง ตัวอย่างเช่น รายได้ของ China Railway มักจะขาดต้นทุนอยู่เสมอ ณ สิ้นปี 2565 หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมีหนี้ 6.11 ล้านล้านหยวน (886 พันล้านดอลลาร์)

2546 ร้อยละ forty nine ของกำลังแรงงานทำงานด้านการเกษตร ป่าไม้ และการประมง 22% ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การผลิต พลังงาน และการก่อสร้าง และ 29% ในภาคบริการและหมวดอื่นๆ ในปี พ.ศ. ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลได้อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติผลิตและจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทในตลาดภายในประเทศ ขจัดข้อจำกัดด้านเวลาในการจัดตั้งกิจการร่วมค้า ให้การรับรองบางประการต่อการเป็นของชาติ อนุญาตให้หุ้นส่วนต่างประเทศกลายเป็นประธานของการร่วมทุน และอนุมัติการจัดตั้งวิสาหกิจที่ต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเป็นรูปแบบที่ต้องการของ FDI ในปี 1991 จีนให้สิทธิพิเศษทางภาษีมากขึ้นสำหรับวิสาหกิจที่ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมดและกิจการตามสัญญา และสำหรับบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจที่เลือกหรือในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ การนำเข้าส่วนใหญ่ของจีนประกอบด้วยอุปทานอุตสาหกรรมและสินค้าทุน โดยเฉพาะเครื่องจักรและอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยหลักแล้วญี่ปุ่น[ต้องการอ้างอิง] และสหรัฐอเมริกา[ต้องการอ้างอิง] ในระดับภูมิภาค การนำเข้าของจีนเกือบครึ่งหนึ่งมาจากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประมาณหนึ่งในสี่ของการส่งออกของจีนไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกัน[ต้องการอ้างอิง] การส่งออกของจีนประมาณร้อยละ 80 ประกอบด้วยสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งทอและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสินค้าเกษตรและเคมีภัณฑ์เป็นส่วนที่เหลือ จากท่าเรือที่พลุกพล่านที่สุดห้าแห่งในโลก มีสามแห่งอยู่ในจีน การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับจีนสูงถึง 233 พันล้านดอลลาร์ในปี 2549 เนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้น 18% ส่วนแบ่งการนำเข้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมดของจีนเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 15% ตั้งแต่ปี 1996 เป็นที่แน่ชัดมานานแล้วว่ารูปแบบทางเศรษฐกิจของจีนเริ่มไม่ยั่งยืน ตามที่ Stewart Paterson ตั้งข้อสังเกต การใช้จ่ายของผู้บริโภคต่ำมากเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ G.D.P. อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งรวมถึงการปราบปรามทางการเงิน การจ่ายดอกเบี้ยต่ำในการออมและการกู้ยืมเงินราคาถูกแก่ผู้กู้ยืมที่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งควบคุมรายได้ของครัวเรือนและโอนไปยังการลงทุนที่รัฐบาลควบคุม เครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมที่อ่อนแอที่ทำให้ครอบครัวสะสมเงินออมเพื่อจัดการกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น และ มากกว่า. แม้ว่าปักกิ่งจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ “ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” แต่ปักกิ่งก็ยังพยายามสร้างอาวุธสำหรับการพึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อลงโทษหรือกดดันรัฐบาลและบริษัทที่ถูกมองว่ากำลังโจมตีนโยบายของรัฐบาลจีน หรือบ่อนทำลายอธิปไตยของชาติ ในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร จีนได้กำหนดเป้าหมายไปที่ผลิตภัณฑ์เชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีสารทดแทนที่พร้อมใช้ เช่น ปลาแซลมอนนอร์เวย์ กล้วยฟิลิปปินส์ หรือเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ เพื่อลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของตนเอง แทนที่จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการ มักจะปฏิเสธแรงจูงใจทางการเมือง และใช้มาตรการที่ไม่เป็นทางการ เช่น แนวทางปฏิบัติภายในของรัฐบาล หรือการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารแบบคัดเลือก

ดังนั้น ผู้นำของจีนก้าวไปเหมือนเสือโคร่งในกรง ทุ่มมาตรการเพียงครึ่งเดียว เช่น การออกพันธบัตรใหม่และ “กองทุนรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น” ราวกับว่าความพยายามเหล่านี้อาจนำวันแห่งความรุ่งโรจน์กลับมา แต่มาตรการเพียงครึ่งเดียวจะไม่ได้ผล พูดง่ายๆ ก็คือ สวัสดิการของประชากรมีความสำคัญมากกว่าขนาดของประชากร การขยายอายุเกษียณจาก 60 ปีเป็น 63 หรือ 65 ปี ถือเป็นความคาดหวังร่วมกันสำหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายของจีน และเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการจัดการกับประชากรสูงวัยทั่วโลก นอกจากนี้ จีนยังมีอัตราการลงทะเบียนรวมในการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มากกว่าร้อยละ fifty five ทำให้เกิดแหล่งสะสมขนาดใหญ่ของบุคคลที่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมีส่วนร่วมในการจ่ายเงินปันผลที่มีความสามารถเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการสังคมที่มีคุณภาพสูงขึ้น

แม้ว่าข้อมูลจากประเทศจีนจะไม่เพียงพอที่จะทำการศึกษาเชิงลึก แต่การศึกษาที่มีอยู่โดยใช้ข้อมูลจากประเทศอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการปิดโรงเรียนต่อการสะสมทุนมนุษย์ของนักเรียน ตัวอย่างเช่น การสำรวจที่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าโควิด-19 ทำให้นักศึกษาวิทยาลัย 13% เลื่อนการสำเร็จการศึกษา 12% ของนักเรียนตั้งใจที่จะเปลี่ยนสาขาวิชาเอก และ 40% ตกงานหรือถูกเสนองาน นักเรียนเหล่านี้รายงานว่าความสนใจในการเรียนหลักสูตรออนไลน์ลดลง และยิ่งไปกว่านั้น นักเรียนที่เป็นเกียรติกลับแสดงความชื่นชอบในชั้นเรียนแบบพบปะกันมากขึ้น (Aucejo et al., 2020) China Economic Monitor เป็นสิ่งพิมพ์รายไตรมาสที่ให้ข้อมูลเชิงลึกของ KPMG China เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ และหัวข้อยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับชุมชนธุรกิจ รายงานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและก้าวนำหน้าอยู่เสมอ นักลงทุนต่างตั้งตารอการปฏิรูปทางการคลังและโครงสร้างจากปักกิ่งอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรการที่สนับสนุนภาคครัวเรือน พวกเขาอาจจะผิดหวัง ดูเหมือนว่าสีจิ้นผิงตั้งใจที่จะไม่ “ปล่อย” เศรษฐกิจจีนผ่านมาตรการกระตุ้นทางการเงินที่มากเกินไป ซึ่งเป็นหลุมพรางที่ปักกิ่งมองว่าเป็นข้อบกพร่องพื้นฐานในกระบวนทัศน์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในทางกลับกัน ผู้นำจีนกลับแสดงความเชื่อมั่นในการเสริมสร้างรากฐานของเศรษฐกิจด้วยวิธีการที่ไม่ใช่ทางการเงิน เช่น การผลิตขั้นสูงและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จำเป็นอย่างยิ่งที่ Xi จะต้องตระหนักว่าความไม่มั่นคงในปัจจุบันในตลาดจีนขยายไปไกลกว่าความผันผวนชั่วคราวซึ่งขับเคลื่อนโดยความเชื่อมั่นของนักลงทุนตามอำเภอใจหรือที่ถูกกล่าวหาว่า “กองกำลังภายนอกที่เป็นอันตราย” ที่พยายามหว่านความไม่ลงรอยกัน ความไม่สงบในตลาดสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายเชิงระบบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การชะลอตัวเมื่อเร็วๆ นี้เป็นการเตือนที่ชัดเจนถึงความเสี่ยงที่เกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง ผลที่ตามมาจากการที่ปักกิ่งเน้นย้ำด้านความปลอดภัยมากเกินไป มาตรการกำกับดูแลที่ไม่ชัดเจน และความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการล็อกดาวน์โรคระบาดอย่างเข้มงวด

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า การถดถอยทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในอีก four ปีข้างหน้า เนื่องจากประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆ ตั้งแต่ประชากรสูงวัยอย่างรวดเร็ว การว่างงานที่สูงขึ้น และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ที่แย่กว่านั้นคือตลาดหุ้นจีนดำเนินการได้ไม่ดีนักตั้งแต่ปี 2022 โดยขาดทุน 2 ล้านล้านดอลลาร์ จีนยังคงมีการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง แต่กำลังดิ้นรนเพื่อส่งออกสินค้าให้ได้มากเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากประเทศตะวันตกพยายามลดการพึ่งพาภาคการผลิตของจีน เนื่องจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ และยุโรป เฉิงตู, จีน (AP) — นักลงทุนบางรายในกองทุนทรัสต์ที่มีปัญหาในจีน กำลังเผชิญกับความหายนะทางการเงินภายใต้แผนของรัฐบาลที่จะคืนเงินบางส่วน การบาดเจ็บล้มตายจากการตกต่ำในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

หลังจากประสบกับสหรัฐอเมริกาในช่วงวิกฤตการเงินปี 2551 ซึ่งอัตราการว่างงานพุ่งสูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ฉันได้เห็นคนขอทานและผู้หางานยืนเรียงรายตามถนน ในทางตรงกันข้าม ฉากดังกล่าวหาได้ยากในประเทศจีน ทำให้เกิดการคาดเดาเรื่องความวุ่นวายในสังคม ปรากฏการณ์ใหม่อีกประการหนึ่งที่ไม่สามารถละเลยได้คือการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานแบบยืดหยุ่นในประเทศจีน ด้วยความนิยมของอีคอมเมิร์ซและการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจการถ่ายทอดสด จำนวนฟรีแลนซ์ชาวจีนจึงเพิ่มขึ้น คนหนุ่มสาวบางคนหาเลี้ยงชีพด้วยการร้องเพลง การพูด และบันทึกชีวิตประจำวันหรือการเดินทางบนแพลตฟอร์มสื่อใหม่ๆ นี่คือการสร้างการจ้างงานใหม่ การแก้ปัญหาการว่างงานถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลจีนในทุกระดับ มีการนำนโยบายความช่วยเหลือด้านการจ้างงานต่างๆ ออกมา ตั้งแต่การลดภาษีไปจนถึงการให้เงินอุดหนุนดอกเบี้ย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาการสูญเสียงาน แม้ในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัย ฉันกระตือรือร้นช่วยเหลือผู้สำเร็จการศึกษาในการหางาน หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม โปรดพิจารณาการสำรวจที่ออกโดยหอการค้าของประเทศต่างๆ ในประเทศจีน พวกเขาเปิดเผยว่า eighty เปอร์เซ็นต์ของบริษัทข้ามชาติแสดงความปรารถนาที่จะอยู่ในประเทศจีนต่อไป และยังเพิ่มการลงทุนอีกด้วย

การสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยให้เห็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงความคาดหวังด้านรายได้และความคาดหวังการจ้างงาน พังทลายลงในปี 2022 (หลังจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้) แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป แม้ว่าจีนจะเปิดทำการอีกครั้งในปี 2023 องค์ประกอบสำคัญสำหรับการบริโภคคือยอดค้าปลีกซึ่งมีการเติบโตติดลบในปี 2563 และ 2565 การเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีของยอดค้าปลีกในปี 2563-2566 อยู่ที่เพียง 3.7% (หรือ 2.2% ในแง่จริง) ซึ่งต่ำกว่าการเติบโตเฉลี่ยใน 2018–19 (8.4% ในแง่ระบุและ 6.4% ในแง่จริง) การบริโภคที่ลดลงนี้ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน “นโยบายการคลังและการเงินจะประสานกันได้ดีขึ้นในปี 2567 และนโยบายการคลังจะมีความผ่อนคลายอย่างแท้จริง เราคาดว่าการเปลี่ยนแปลงจากรายการนอกงบประมาณที่โปร่งใสน้อยลงไปเป็นการขาดดุลการคลังที่โปร่งใสมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก รัฐบาลกลางมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการขาดดุลทางการคลังเพื่อบรรเทาปัญหาทางการคลังบางส่วนโดยรัฐบาลท้องถิ่น” Haibin Zhu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนและหัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ของ J.P. ต้องการศาสตราจารย์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจจีน และศาสตราจารย์ด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ ที่บัณฑิตวิทยาลัยธุรกิจและคณะกิจการระหว่างประเทศและสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย งานวิจัยของเขามุ่งเน้นไปที่การค้าและการเงินระหว่างประเทศ เศรษฐศาสตร์มหภาค และเศรษฐกิจจีน

ท่ามกลางการผิดนัดชำระหนี้ของนักพัฒนาชื่อดังหลายราย รวมถึงความล้มเหลวของ Evergrande Group ยอดขายบ้านใหม่ลดลงร้อยละในจีนเมื่อปีที่แล้ว ตามการระบุของหน่วยงาน Fitch Ratings ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเรียกร้องให้มีมาตรการที่รุนแรงเพื่อเขย่าเศรษฐกิจของจีน ความคาดหวังก็ลดลงเนื่องจากการรังเกียจการใช้จ่ายทางสังคมในวงกว้างของปักกิ่ง ANU ใช้ MyTimetable เพื่อให้นักเรียนสามารถดูตารางเวลาสำหรับหลักสูตรที่ลงทะเบียน เรียกดู จากนั้นจัดสรรด้วยตนเองให้กับกิจกรรมการสอน/บทช่วยสอนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถวางแผนเวลาได้ดียิ่งขึ้น ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บตารางเวลา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางรายเป็นวัยเกษียณที่กล่าวว่าตนบรรลุเกณฑ์การลงทุนโดยการรวบรวมเงินจากเพื่อนและญาติที่ต้องการเงินคืน สำหรับพวกเขา การผิดนัดของ Sichuan Trust ถือเป็นหายนะ กองทรัสต์มีการลงทุนขั้นต่ำที่สูง โดยสำหรับ Sichuan Trust โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 300,000 หยวน ($42,000) และหลายๆ คนเชื่อว่าส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างดีได้รับผลกระทบ

จากข้อมูลเหล่านี้ เรายืนยันว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจไม่ได้สะท้อนถึงวงจรธุรกิจปกติ และการฟื้นตัวของวงจรธุรกิจไม่สามารถแก้ปัญหาความท้าทายทางเศรษฐกิจของจีนในปัจจุบันได้ ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าอุปสงค์ภายในประเทศและภายนอกที่ลดลงและลดลงอยู่เบื้องหลังการเติบโตที่ชะลอตัวของจีน นอกจากนี้ ความพ่ายแพ้อย่างร้ายแรงต่อความเป็นผู้ประกอบการและการได้มาซึ่งทุนมนุษย์เนื่องจากการแพร่ระบาด ได้สร้างความท้าทายเชิงโครงสร้างในระยะยาวต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ Houze Song เป็นสมาชิกของ MacroPolo ซึ่งเขาเป็นผู้นำการทำงานของกลุ่มนักคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน เขาเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ระดับภูมิภาคและระดับภูมิภาค โดยเป็นผู้นำโครงการเกี่ยวกับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ความแตกต่างทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการไหลของแรงงาน เขาได้สร้างชุดข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดหาเงินทุนและการเปิดเสรีหูโข่วที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจการเมืองของจีน ความกังวลดังกล่าวรุนแรงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายของปักกิ่งพยายามชดเชยภาวะตกต่ำในภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเดิมพันครั้งใหญ่กับการผลิตทางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ยานพาหนะไฟฟ้า และแผงโซลาร์เซลล์ ธนาคารต่างๆ ได้รับการส่งเสริมให้เพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ผลิต ในขณะที่การปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลง การส่งออกที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับภาษีการค้าและการทุ่มตลาดรุนแรงขึ้น สหราชอาณาจักรกำลังสืบสวนอยู่แล้วว่ารถขุดของจีนถูกจำหน่ายในราคาที่ต่ำอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ ในขณะที่สหภาพยุโรปได้เปิดตัวการสอบสวนต่อต้านเงินอุดหนุนสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าของจีน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างความตกตะลึงในกรุงปักกิ่ง จากรากฐานนี้ การสูงวัยของสังคมได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเติบโตทางเศรษฐกิจระลอกใหม่ ข้อมูลประมาณการชี้ให้เห็นว่าในประเทศจีน ขนาดของตลาดประจำปีสำหรับอสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ บริการด้านสุขภาพ ความบันเทิงสำหรับผู้สูงอายุ อาหารเสริม การดูแลสุขภาพ และประกันผู้สูงอายุ มีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านล้านหยวน โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ . นักเศรษฐศาสตร์หลายคนโทษว่าบัญชีทุนที่ปิดแล้วของจีนเป็นสาเหตุของปัญหาหนี้ส่วนใหญ่ของจีน รัฐบาลจีนยังคงรักษาข้อจำกัดเกี่ยวกับเงินทุนไหลเข้าและไหลออกเป็นเวลาหลายปี ส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เงินหยวน (RMB) เทียบกับดอลลาร์ และสกุลเงินอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการส่งออก หลายคนแย้งว่าข้อจำกัดของรัฐบาลจีนในเรื่องการไหลเวียนของเงินทุนได้บิดเบือนตลาดการเงินในจีนอย่างมาก ส่งผลให้การใช้เงินทุนมีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ได้ เช่น การลงทุนมากเกินไปในบางภาคส่วน (เช่น อสังหาริมทรัพย์) และการลงทุนในส่วนอื่นๆ น้อยเกินไป (เช่น บริการ) รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีการส่งออกจำนวนมากของจีนทำให้มีพื้นที่น้อยลงสำหรับการเติบโตที่เน้นการบริโภค สิ่งนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจากประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ ซึ่งการบริโภคภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปี 2021 การบริโภคคิดเป็นสัดส่วนเพียง 54 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของจีน ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มล่าสุดแสดงให้เห็นว่าจีนไม่ได้ปิดช่องว่างดังกล่าว ในความเป็นจริง การบริโภคคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ในประเทศจีนได้ลดลงอย่างมากในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

หลังจากที่ตัวเลขลดลงในปี 2020 เหลือร้อยละ 2.2 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ความคาดหวังในการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดก็อยู่ในระดับสูง สิ่งนี้มีรากฐานมาจากสมมติฐานที่ว่าจีนยกเลิกนโยบายปลอดโควิดแบบไดนามิกในเดือนมกราคม 2023 จะช่วยปลดล็อกอุปสงค์ที่ถูกกักขังในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงถูกระงับในระหว่างการล็อกดาวน์นาน 2 ปี แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้น ผู้สังเกตการณ์บางคนถึงกับสงสัยในความถูกต้องของข้อมูล GDP ที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ และสงสัยว่าตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการมาก ในโลกที่ซับซ้อน เปลี่ยนแปลง และมีการแข่งขันกันมากขึ้น มูลนิธิคาร์เนกีสร้างแนวคิดเชิงกลยุทธ์และการวิเคราะห์ที่เป็นอิสระ สนับสนุนการทูต และฝึกอบรมนักวิชาการผู้ปฏิบัติงานระดับนานาชาติรุ่นต่อไป เพื่อช่วยให้ประเทศและสถาบันต่างๆ รับมือกับปัญหาระดับโลกที่ยากที่สุด และพัฒนาสันติภาพ จนกว่าประเทศจะเริ่มปรับตัวอย่างยากลำบาก ประเทศจะสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างรวดเร็วเฉพาะเมื่อมีการลงทุนที่ไม่ก่อผลเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เกิดการเติบโตที่สูงเกินจริงมากขึ้น เนื่องจากการเติบโตที่สมมติขึ้นนี้ไม่ยั่งยืน จึงต้องตัดจำหน่ายในที่สุด และในทุกกรณีก่อนหน้านี้ ระยะเวลาของการปรับตัวจะกลับรายการการเติบโตก่อนหน้ามาก น่าเสียดายที่การเติบโตที่สมมติขึ้นนั้นถูกสร้างขึ้น การตัดจำหน่ายการเติบโตนี้มีแนวโน้มที่จะยากขึ้นทางการเมืองและมีค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจมากขึ้น

แต่ความตึงเครียดในระยะยาวในเศรษฐกิจของจีนกำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความดื้อรั้น ปักกิ่งไม่ได้ก้าวเข้าสู่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งต่างจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งก่อนๆ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนกล่าวว่าเขาต้องการมุ่งเน้นไปที่ “การเติบโตคุณภาพสูง” มากกว่าการเร่งความเร็วด้วยเลขสองหลักที่จีนประสบในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทุกสายตาจับจ้องไปที่ Two Sessions ซึ่งเป็นการประชุมรัฐสภาประจำปีของประเทศที่จะเริ่มต้นในวันที่ 5 มีนาคม คาดว่าเป้าหมายการเติบโตในปี 2567 จะใกล้เคียงกับ 5% ของปีที่แล้ว นั่นถือว่าเล็กน้อยตามมาตรฐานของจีน แต่อาจเป็นเรื่องปกติใหม่สำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่ในขณะที่จีนกำลังเปลี่ยนแปลงด้านการผลิตของเศรษฐกิจของตน แต่ก็กลับละเลยด้านอุปสงค์ ดูเหมือนว่าผู้นำจะไม่สามารถจัดทำการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวที่นำโดยผู้บริโภคได้ ในทางกลับกัน ปักกิ่งดูเหมือนจะคล้อยตามมากขึ้นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเครดิต แม้ว่าจะไม่น่าจะให้ผลลัพธ์ตามที่หวังไว้ก็ตาม ความเชื่อมั่นของ Xi ในกลยุทธ์นี้อาจเกิดจากแนวความคิดที่ว่าจีนมีความสามารถเฉพาะตัวสำหรับการวางแผนระยะยาว และเต็มใจที่จะลงทุนจำนวนมากในโครงการที่มุ่งเน้นอนาคต แนวทางนี้วางตำแหน่งตัวเองตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Xi รายงานว่ามองว่าเป็นภาวะสายตาสั้นของสังคมทุนนิยม ซึ่งการมุ่งเน้นไปที่การได้รับผลประโยชน์ในทันทีมากกว่าการเติบโตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ สียังโต้แย้งว่าวงจรการเลือกตั้งในสังคมดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะจัดลำดับความสำคัญของความปรารถนาระยะสั้นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยสูญเสียความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ประเทศจีนมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานได้ดี หนี้สามารถแพร่กระจายไปได้ระยะหนึ่ง และยากที่จะบอกว่าเมื่อใดที่ธนาคารต่างๆ จะเรียกร้องให้มีการเพิ่มเงินสดจำนวนมหาศาลเพื่อความอยู่รอด แต่เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ค่าเงินก็จะอ่อนตัวเหมือนบอลลูนพรรคเก่า และรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปราบปรามผู้เห็นต่างและปิดพรมแดน กระบวนการเหล่านั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และคาดการณ์ว่าจะไม่มีอะไรดีในปี 2024 การลดลงของจำนวนประชากรครั้งแรกของประเทศในปี 2565 ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากในสังคมจีน และกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งดำเนินการไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อวัย การเปลี่ยนแปลงนี้มีแนวโน้มที่จะนำมาซึ่งการพัฒนาระลอกใหม่ในประเทศจีน

จีนเริ่มเป็นพันธมิตรกับธนาคารในปี 1980 เช่นเดียวกับที่เริ่มดำเนินการปฏิรูป จีนสำเร็จการศึกษาจาก IDA ในปี 1999 และเป็นผู้บริจาคในปี 2007 โดยเริ่มจากการได้รับการสนับสนุนจากสมาคมการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDA) ซึ่งเป็นกองทุนของกลุ่มธนาคารเพื่อคนยากจนที่สุด ประเทศจีนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามของธนาคารโลกหลังจากการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น ได้รับการอนุมัติในปี 2553 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 30 ปีของการเป็นหุ้นส่วน นับตั้งแต่จีนเริ่มเปิดกว้างและปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1978 การเติบโตของ GDP ก็เฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 9 ต่อปี และผู้คนมากกว่า 800 ล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงที่สำคัญในการเข้าถึงด้านสุขภาพ การศึกษา และบริการอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน เศรษฐกิจของจีนมาถึงทางแยกที่สำคัญหลังจากประสบกับปาฏิหาริย์การเติบโตที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ในตลาดการเงินที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ผู้เข้าร่วมจะมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มและการพัฒนาในระยะสั้น แต่บางครั้งสิ่งสำคัญคือต้องย้อนกลับไปดูระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นในการกำหนดกลยุทธ์ภาพรวม อย่างน้อยก็ในแง่ของการจัดสรรสินทรัพย์ ภายในปี 2549 จีนได้กลายเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่อันดับสามของโลก (รองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น) และเป็นผู้บริโภครายใหญ่อันดับสอง (รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) อย่างไรก็ตาม สี่ปีต่อมาในปี 2010 จีนมีการผลิตรถยนต์มากกว่าสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นรวมกัน การผลิตรถยนต์ได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาการปฏิรูป ในปี พ.ศ. 2544 ซึ่งมีจำนวนถึง 2.three ล้านคัน ในปี 2545 การผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ three.25 ล้านการผลิต และเพิ่มขึ้นเป็น 4.44 ล้านในปี 2546, 5.07 ล้านในปี 2547, 5.seventy one ล้านในปี 2548, 7.28 ล้านในปี 2549, eight.88 ล้านในปี 2550, 9.35 ล้านในปี 2551 และ 13.eighty three ล้านในปี 2552 จีนได้กลายเป็น เป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกในปี 2552 ยอดขายในประเทศก้าวไปพร้อมกับการผลิต หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างน่านับถือทุกปีในช่วงกลางและปลายทศวรรษ 1990 ยอดขายรถยนต์นั่งก็เพิ่มสูงขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000

ประการที่สาม จีนครองตลาดแบตเตอรี่ลิเธียม โดยบริษัทต่างๆ ครองตำแหน่ง 6 อันดับในกลุ่มผู้ผลิตแบตเตอรี่พลังงานชั้นนำ 10 อันดับแรกของโลก และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 62.6 เปอร์เซ็นต์ FDI ส่วนใหญ่ที่มาจากฮ่องกงอาจมาจากนักลงทุนต่างชาติรายอื่น เช่น ไต้หวัน นอกจากนี้ นักลงทุนชาวจีนบางรายอาจใช้สถานที่เหล่านี้เพื่อย้ายกองทุนไปต่างประเทศเพื่อลงทุนใหม่ในจีนเพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายการลงทุนแบบพิเศษ (แนวทางปฏิบัตินี้มักเรียกว่า “การให้ทิปแบบปัดเศษ”) ดังนั้นระดับ FDI ที่แท้จริงในจีนจึงอาจเกินจริงไป อย่างไรก็ตาม Elhedery ในวันพฤหัสบดียืนยันว่าความท้าทายส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังป่วยอยู่นั้น “อยู่เบื้องหลังเรา” แม้ว่าเขาจะกล่าวว่าภาคส่วนนี้ไม่ได้ “หลุดพ้นจากป่า” ก็ตาม

ในการให้สัมภาษณ์กับ Karen Tso ของ CNBC เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Georges Elhedery CFO ของ HSBC กล่าวว่าผู้ให้กู้ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน แต่ทำธุรกิจส่วนใหญ่ในฮ่องกงและทั่วเอเชียแปซิฟิก มั่นใจว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกจะเอาชนะมันได้ ลมปะทะระยะสั้น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและปัจจุบันมี “เศรษฐกิจดิจิทัล” ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ตามที่กำหนดโดย China Academy for Information and Communications Technology อุตสาหกรรมการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์และอีคอมเมิร์ซของจีนเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก นวัตกรรมล่าสุดที่ค่อนข้างใหม่ รวมถึงอีคอมเมิร์ซแบบถ่ายทอดสด ได้สร้างพื้นที่แห่งการเติบโตใหม่อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงขั้นบันไดมูลค่าเพิ่มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีแบบอย่าง ประเทศหลายแห่งที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านขั้นบันไดมูลค่าเพิ่ม เช่น ญี่ปุ่น เดิมทีก็มุ่งเน้นไปที่การผลิตระดับล่างเช่นกัน ความสำเร็จในภาคยุทธศาสตร์หลักอย่างน้อยหนึ่งภาคส่วนก็น่าจะเพียงพอที่จะรับประกันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะประสบความสำเร็จ

เสฉวน ทรัสต์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเฉิงตู ทางตะวันตกเฉียงใต้ ประกาศว่าบริษัทล้มละลายในปี 2563 จากปัญหาบัญชีที่ไม่ชัดเจนและการลงทุนในห้างสรรพสินค้าและโครงการอื่นๆ ที่ล้มเหลว กำหนดเส้นตายเมื่อต้นเดือนนี้ในการยอมรับ “การตัดผม” 20%-60% หรือการขาดทุนจากการลงทุนทำให้นักลงทุนบางรายประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ตามประกาศสาธารณะและการสัมภาษณ์ AP ที่มีผู้ได้รับผลกระทบ 5 ราย นักลงทุนต่างชาติถอนตัวออกจากจีนในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อปีที่แล้วมีเงินทุนของบริษัทและครัวเรือนมูลค่า sixty eight.7 พันล้านดอลลาร์ไหลออกนอกประเทศ 2565 จีนได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมอย่างกะทันหัน โดยยกเลิก “ศูนย์โควิด” การเปลี่ยนแปลงนี้มีวงกว้างและรวมถึงการยกเลิกการจำแนกประเภทพื้นที่เสี่ยง การยกเลิกการระงับธุรกิจ และการปล่อยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่บ้านแทนที่จะอยู่ในพื้นที่แยก ส่งผลให้จีนประสบปัญหาการติดเชื้อถึงจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงอย่างมากอีกครั้ง หลังจากนั้นจีนก็ค่อยๆ กลับเข้าสู่ชีวิตก่อนการแพร่ระบาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 Houze Song อธิบายว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สังคมสูงวัย และวิกฤตการณ์ด้านทรัพย์สินที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบไม่เพียงต่อจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ อย่างไร

การย้ายห่วงโซ่อุปทานออกนอกประเทศจีนไม่ใช่เรื่องใหม่ ได้รับแรงผลักดันจากแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่สำคัญบางประการ รวมถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นในจีน ต้นทุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาส่งผลให้ส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มต่ำลดลง ขณะเดียวกัน จีนได้ขยับขึ้นไปในห่วงโซ่มูลค่าเพิ่ม โดยได้รับส่วนแบ่งการส่งออกในภาคส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องจักร กว่าสี่ทศวรรษของการเติบโตอย่างรวดเร็ว จีนได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก ในปี 2022 คิดเป็น 18% ของ GDP โลก (เทียบกับ 2.7% ในปี 1980) 15% ของการส่งออกสินค้าสินค้าทั่วโลก และ 30% ของมูลค่าเพิ่มการผลิตทั่วโลก เมื่อมองไปข้างหน้า จีนจะยังคงเป็นศูนย์กลางที่สำคัญ แต่บทบาทที่โดดเด่นของจีนมีแนวโน้มจะอ่อนแอลง “แนวโน้มเงินเฟ้อปี 2567 ของเรามีนัยสำคัญสองประการ ประการแรก เมื่อภาวะเงินฝืดสิ้นสุดลง การเติบโตของ GDP ของจีนจะสูงกว่าในปี 2566 ประการที่สอง การพัฒนาล่าสุดในพลวัตของอัตราเงินเฟ้อในประเทศและการเปลี่ยนแปลงในภาวะการเงินโลกอาจกระตุ้นให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นและมากขึ้นในปี 2567” Zhu กล่าวเสริม